วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

"ทนายด่าง" เขียนจดหมายเปิดผนึก ถึงนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐเยอรมัน โปรดช่วยทุกวิถีทางในการรักษาชีวิตใบปอ-บุ้ง เด็กสาวชาวไทย ที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ภายหลังศาลไทยไม่ให้ประกันตัวครั้งที่ 7

 


"ทนายด่าง" เขียนจดหมายเปิดผนึก ถึงนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐเยอรมัน โปรดช่วยทุกวิถีทางในการรักษาชีวิตใบปอ-บุ้ง เด็กสาวชาวไทย ที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ภายหลังศาลไทยไม่ให้ประกันตัวครั้งที่ 7


ตามที่เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 "ใบปอ" ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ และ "บุ้ง" เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมหญิงจากกลุ่มทะลุวัง ได้ถูกเบิกตัวมาขึ้นศาล ตามนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ ที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 ก่อนทนายความจะขอเลื่อนออกไป เนื่องจากสภาพของจำเลยทั้งสองไม่สู้ดี ต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ตลอดจนไม่สามารถลงลายมือชื่อในเอกสารใด ๆ ได้ ซึ่งไม่เหมือนอย่างที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เคยเบิกความไว้ในการไต่สวนก่อนฟังผลประกันครั้งที่ 6 ว่าทั้งสองยังปกติดีทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ทำให้ทนายยื่นขอประกันตัวเป็นครั้งที่ 7 และศาลได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 19 ก.ค. นั้น


ปรากฏว่าวันที่ 19 ก.ค. เวลา 15.17 น. . ศาลได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว “บุ้ง-ใบปอ” โดยระบุใจความสำคัญว่า คำร้องดังกล่าวยังคงไม่ปรากฏข้อความหรือข้อเท็จจริงอื่นใดที่จะแสดงให้เห็นว่า หากจำเลยทั้งสองได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดีแล้วจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อห้ามและคำสั่งศาลได้อย่างเคร่งครัด 


ส่วนกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นพี่สาวของจำเลยที่ 3 หรือบุ้ง ประสงค์ที่จะเป็นผู้กำกับดูแลจำเลยทั้งสองคน ก็เป็นหน้าที่ของผู้กำกับดูแลผู้ถูกปล่อยตัวชั่วคราวที่มีหน้าที่ต้องดำเนินการเช่นนั้นอยู่แล้ว 


และในกรณีที่จำเลยทั้งสองป่วย ศาลมีคำสั่งให้ส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลเลิดสิน ก็ปรากฎว่า สุขภาพโดยรวมของจำเลยทั้งสอง ยังเป็นปกติตามบันทึกข้อความของแพทย์ผู้ตรวจรักษา กรณียังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงให้ยกคำร้อง


ในเวลาต่อมา ช่วงดึกของวันที่ 19 ก.ค. ทนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ได้โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวระบุว่า


19 กรกฎาคม 2022

กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย


ถึง ท่านนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐเยอรมัน


ผมกังวลใจอยู่นานก่อนที่จะเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน แต่ในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะเขียนถึงท่าน


ผมไม่ได้เขียนถึงท่านในฐานะทนายความของเด็กสาวทั้งสองคนที่กำลังจะตายจากอำนาจเผด็จการ แต่ผมเขียนในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่อาจเห็นเด็กสาวทั้งสองคนต้องตายในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพที่พวกเราเชื่อมั่น


ในเวลาที่ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงท่านมีเด็กสาวสองคนในประเทศของผมที่กำลังจะตายจากการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความเท่าเทียมกันของมนุษย์


ใบปอและบุ้ง สองเด็กสาวชาวไทยที่คนหนึ่งเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยและอีกคนหนึ่งเป็นครูสอนพิเศษ พวกเธอถูกกล่าวหาและฟ้องร้องจากรัฐไทยในข้อหาว่าดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ คดีที่เธอทั้งสองถูกกล่าวหาอาจทำให้เธอติดคุกถึง 15 ปี


เธอทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างพิจารณาคดี เธอถูกขังที่เรือนจำตลอดมาจนถึงวันนี้ ทนายความและครอบครัวของเธอพยายามยื่นขอประกันตัว เพื่อให้เธอออกมาต่อสู้คดีในระหว่างที่ยังไม่มีการตัดสินว่าเธอถูกหรือผิด แต่ศาลไทยปฏิเสธไม่ให้เธอประกันตัวจนทุกวันนี้ 


เธอทั้งสองประกาศอดอาหารเพื่อประท้วงความไม่เป็นธรรมที่ขังเธอไว้ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่ากลัวว่าเธอจะไปก่อให้เกิดภยันตรายอื่นอีก


เธอทั้งสองอดอาหารมาจนถึงวันนี้เป็นเวลา 48 วันแล้ว


เมื่อวานนี้มีการพิจารณาคดีครั้งแรกหลังจากที่ขังเธอไว้เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว เธอทั้งสองมีอาการทรุดหนักจนผู้พิพากษาต้องสั่งให้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปและส่งเธอเข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งต่อมาก็ให้ส่งเธอเข้าในเรือนจำคุมขังต่อไป


ครอบครัวของเธอทั้งสองตัดสินใจยื่นขอประกันตัวเธออีกครั้งเพื่อนำเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลหลังจากที่อาการทรุดหนักลงเมื่อวานนี้ แต่ศาลไทยปฏิเสธและสั่งให้ขังเธอต่อไป 


สิ่งที่เด็กสาวทั้งสองถูกกล่าวหาในคดีนี้ก็เพียงเพราะว่าเธอทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนว่าขบวนเสด็จของพระมหากษัตริย์สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนในการสัญจรไปมาหรือไม่


ข้อกล่าวหานี้ในประเทศของท่านอาจดูเป็นเรื่องตลกที่คนทำต้องมาถูกจับติดคุกติดตาราง


แต่ในประเทศของผมไม่เป็นเช่นนั้น


ขอให้ท่านรู้ว่าใบปอและบุ้งเด็กสาวชาวไทยสองคนนี้กำลังจะตายในเรือนจำในไม่ช้านี้ด้วยข้อหาที่ท่านเห็นว่าเป็นเรื่องตลก


ผมเชื่อว่าคนไทยและคนเยอรมันต่างก็รักในเสรีภาพและศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ของตน พวกเราต่างเคยได้รับความเจ็บปวดจากผู้นำเผด็จการที่ชั่วร้ายมาเหมือน ๆ กัน


คนหนุ่มสาวของเราทั้งสองประเทศล้วนเสียสละชีวิตเพื่อสังคมที่เป็นธรรมตลอดมา 


ผมอยากบอกท่านว่าใบปอและผักบุ้งเคยเล่าให้ผมฟังว่า เธอทั้งสองมีวีรสตรีคนเดียวกันคือ โซฟี โชล เด็กสาวที่ถูกสังหารโดยเผด็จการในประเทศของท่าน


ผมเชื่อว่าท่านคงเจ็บปวดที่ได้รับรู้เรื่องราวข้างต้นเหมือนผม


ผมขอให้ท่านในฐานะตัวแทนของชาวเยอรมันได้โปรดใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการรักษาชีวิตของเด็กสาวชาวไทยทั้งสองไว้ ก่อนที่จะสายเกินไป


ผมเชื่อว่าท่านในฐานะนายกรัฐมนตรีของสหพันธรัฐเยอรมันมีพลังอำนาจเพียงพอที่จะหยุดยั้งความโหดร้ายนี้ได้


ผมยินดีที่จะให้ข้อมูลทุกอย่างที่ท่านต้องการ


เพื่อรักษาชีวิตของเด็กสาวทั้งสองเพื่อรักษาความยุติธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพวกเราทุกคน


กฤษฎางค์ นุตจรัส


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ทะลุวัง #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน