"ชัชชาติ"
ตรวจสถานีสูบน้ำคลองบางซื่อ ขอเอกชนอย่าเพิ่งห่วงฮวงจุ้ย-ความสวยงาม
ขวางกั้นน้ำพื้นที่ฟันหลอ ยันสถานการณ์น้ำเหนือยังอยู่ในเกณฑ์รับได้ ขออย่าโฟกัสเฉพาะแค่เรื่องอุโมงค์ แต่ต้องทำควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพคลอง ขอบคุณกรมราชทัณฑ์-ทหาร
บอกเป็นมิติความร่วมมือที่ดี
วันที่
29 กรกฎาคม 2565 เวลา 14.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ลงพื้นที่สถานีสูบน้ำคลองบางซื่อ ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
โดยนายชัชชาติ ระบุว่า จากการตรวจสอบระบบระบายน้ำ
ทั้งระบบคลองและอุโมงค์ระบายน้ำ หัวใจ คือคลองที่
กทม. ต้องระบาย 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ยุทธศาสตร์หลัก ๆ จึงต้องเพิ่มประสิทธิภาพของคลอง
ทุกวันนี้คลองบางซื่อรับน้ำจาก 2 คลอง คือคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าว ซึ่งมีปั๊มน้ำ 17 ตัว เราเปลี่ยนตัวใหม่เพียง 5
ตัว ที่เหลือมีอายุใช้มาแล้ว 15 ปี จากการจัดซื้อราคาตัวละ 4 ล้านบาท หากปรับพวกนี้ จะช่วยการระบายน้ำได้
ดังนั้นตอนนี้ต้องไล่ทุกจุดให้ปั๊มทำงานได้ดี
ส่วนคลองบางซื่อ ไม่ได้ลอกคลองมาก 13 ปี
ท้องคลองตื้น พร่องน้ำได้ไม่เต็มทึ่ จึงต้องเริ่มดำเนินการ พร้อมทำเขื่อนไปด้วยให้เป็นลักษณะแก้มลิง
หน้าอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งไม่ได้ใช้เงินเยอะเหมือนอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งจะเป็นแผนงบ
ปี 65/66 และพยายามใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด ขออย่าไปโฟกัสเรื่องอุโมงค์มาก แต่ต้องทำควบคู่กัน
ทั้งอุโมงค์และคลอง
นอกจากนี้ การเก็บขยะจากคลองบางซื่อพบว่าได้วันละ
3 ตัน หรือบางทีขยะเข้าไปในปั๊มน้ำทำให้เสียหาย จึงขอฝากทุกคนช่วยกัน ขณะที่พระราม
9 พบวันละ 5 ตัน
ทั้งนี้ต้องขอบคุณกรมราชทัณฑ์ และมองว่าเป็นมิติความร่วมมือที่ดีมาก
ซึ่งทหารก็มาช่วยที่บางบัว และก็จะช่วยพร่องน้ำในแก้มลิงของกองทัพ และไม่ได้ใช้งบเยอะ
หลายที่เสียงตอบรับก็ดี ขอยืนยันการที่ตนนั่งมอเตอร์ไซส์ไปดูน้ำท่วมไม่ได้สร้างภาพ
แต่ต้องออกไปให้เห็นเส้นเลือดฝอย ไม่สามารถรู้ได้หากนั่งอยู่แต่ในห้องทำงาน พร้อมลุยเต็มที่
น้ำเหนือลดลง ไม่ได้รุนแรงมาก อยู่ในสถานการณ์ที่เราดูแลได้ แต่ไม่ประมาท
จุดฟันหลอได้สั่งให้เตรียมกระสอบทรายทันที
ส่วนที่เอกชนอยากฝากว่าอย่างน้อยต้องเสียสละกันบ้าง ช่วงนี้อาจไม่ต้องกังวลความสวยงามหรือฮวงจุ้ยมาก
เอาชีวิตรอดก่อน
ต่อมา ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึงกรณีที่
พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงรายที่ 2 ที่ กทม. ว่า ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล
นายชัชชาติระบุอีกว่า ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวไปตรวจที่โรงพยาบาลแรกแต่ไม่พบเชื้อ
ไม่สามารถระบุอาการได้ซึ่งโรงพยาบาลได้ปล่อยตัวกลับ ก่อนจะมาตรวจพบในภายหลัง
นายชัชชาติ กล่าวว่าต้องทำความเข้าใจโรค
รวมอาการของโรคฝีดาษลิงอย่าสับสนกับโรคอีสุกอีใส
สำหรับประวัติผู้ติดเชื้อพบว่ามีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่วันที่
12 กรกฎาคมและมีกลุ่มเสี่ยง 10 คนที่อยู่ในบ้าน ขออย่ากังวลเพราะว่าการติดเชื้อไม่ได้ติดกันง่ายเหมือน
โควิด-19
สำหรับการสอบสวนโรคเพิ่มเติมในวันนี้นายชัชชาติระบุว่า ให้สำนักอนามัยและทีมสาธารณสุขลงพื้นที่สอบสวนโรคแล้ว
พบว่ามีชาวต่างชาติอีกหนึ่งคน คาดว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อคนดังกล่าว จึงเร่งติดตามตัวสอบสวนโรคเป็นการด่วนและเก็บสารคัดหลังเพื่อตรวจหาเชื้อฝีดาษลิง
นายชัชชาติกล่าวทิ้งท้ายว่า
คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครจะมีการประชุมหารือร่วมกันอีกครั้งในวันจันทร์นี้
ซึ่งจะมีการขยายผลจากกลุ่มเสี่ยง 10 คน
ส่วนสถานการณ์ โควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อยังทรง
นอกจากนั้น วันที่ 1 กันยายนนี้ กทม. จะซื้อยาจากองค์การเภสัชได้
และส่วนผู้ติดเชื้อสามารถรับยาผ่านระบบออนไลน์ได้ ไม่ต้องรอคิวแล้ว
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์
#ชัชชาติสิทธิพันธุ์ #ผู้ว่าฯกทม