สลักธรรม โตจิราการ : กิจกรรมเขียนจดหมายหน้าเรือนจำวันนี้ / กฎหมายอีสปอร์ต

"หมอหวาย" กิจกรรมหน้าเรือนจำวันนี้ / ถ้าคุณไม่ออกมาช่วยกันสู้เรื่องสิทธิเสรีภาพโดยรวมของประเทศ สุดท้ายสิทธิเสรีภาพส่วนตัวของคุณก็จะถูกลิดรอน ถูกควบคุมและถูกจำกัดได้ เหมือนกับกรณีของ "กฎหมายควบคุมเกม" ที่อาจจะออกมา

วันศุกร์ที่ 3 ก.ค. 63 ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ นพ.เหวง โตจิราการ วันนี้ นพ.สลักธรรม โตจิราการ ได้มาสนทนากับทุกท่านแทนคุณพ่อซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจประชาธิปไตยที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ร่วมกับแกนนำท่านอื่น ๆ

ประเด็นแรกที่สนทนาในวันนี้คือกิจกรรมเขียนจดหมายหน้าเรือนจำวันนี้ โดย นพ.สลักธรรม ชี้แจงว่า วันนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ และมวลชนจะไปทำกิจกรรมเขียนจดหมายถึงแกนนำที่อยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมแกนนำได้ เนื่องจากถูกกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดในเรือนจำ และขณะนี้กักตัวมาได้ 1 สัปดาห์แล้ว อย่างน้อยต้องตักตัวอีก 1 สัปดาห์ จึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและเปิดโอกาสให้เยี่ยมได้ ซึ่งตอนนี้เข้าเยี่ยมได้เฉพาะทนายความ

นพ.สลักธรรมกล่าวว่า สำหรับทุกท่านที่ต้องการที่จะส่งความคิดถึงก็สามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมเขียนจดหมายในวันนี้ได้ หรือสามารถเขียนจดหมายจากบ้านท่านแล้วส่งไปรษณีย์มาโดย

จ่าหน้าซองระบุ 

ชื่อ.................นามสกุล..............แดน 2

ส่งมาที่ 

33 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 

แขวงลาดยาว เขตจตุจักร

กรุงเทพมหานคร 10900

โดยจดหมายจะต้องมีความยาวไม่เกิน 15 บรรทัด (1 หน้ากระดาษ A4) ใช้ถ้อยคำที่สุภาพ ไม่รุนแรง ไม่หยาบคาย ไม่ขัดต่อศีลธรรม

ประเด็นต่อไปที่จะพูดถึงในวันนี้คือเรื่อง “กฎหมายอี-สปอร์ต” (การเล่มเกมเพื่อแสดงฝีมือ)

จากกรณีพี่แว่น FPS Thailand หรือ บาส ชนิกนันท์ ทิพย์ไพโรจน์ เกมเมอร์ชื่อดัง ได้ถูกเรียกเข้าสภา ไปพูดคุยเรื่อง "กฎหมายควบคุมเกม" หากกฎหมายนี้ผ่านจะมีประเด็นคร่าว ๆ คือ

- ห้ามแข่งเกม First-Person Shooting (FPS) หรือเกมที่มีความรุนแรง

- สตรีมเมอร์ห้ามสตรีมเกมเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน เพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง

กฎหมายฉบับใหม่ที่จะเข้ามาควบคุมนี้ คาดว่าน่าจะถูกบังคับใช้จริงควบคู่กับ พ.ร.บ e-Service กฎหมายอีกตัวที่ร่างขึ้น เพื่อเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จากผู้ให้บริการออนไลน์ต่างประเทศ ทั้งหนัง เพลง เกม เพื่อดึงรายได้เข้ารัฐเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท

ขณะที่แฟนเพจ พี่แว่น ระบุข้อความว่า วันประชุมได้เลื่อนจากพุธหน้าไปเป็นจันทร์ที่ 13 แทน เนื่องจากองค์ประชุมจะได้มาครบกันในวันนั้น

นพ.สลักธรรม กล่าวต่อว่า ข้อความต่อจากนั้นที่อาจจะเป็นประเด็นก็คือ “จุดยืนของผมที่มีต่ออีสปอร์ตนั้น ผมอยากให้มันอยู่บนทางสายกลาง ไม่ให้เอนเอียงไปทางใดทางนึง”

ตรงนี้เอง ถ้าพูดกันตรง ๆ ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องทัศนะศีลธรรมร่วมด้วย เพราะว่าก่อนหน้านี้อย่างที่เราทราบกันว่าผู้ใหญ่ในประเทศไทยหลาย ๆ คนก็จะมองว่าเกมเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ อาจจะควบคุมไม่ได้ บางเกมด้วยความที่คิดว่ามีเนื้อหาที่พูดถึงความรุนแรง อาจจะกระตุ้นทำให้คนไปใช้ความรุนแรงมากขึ้น

ถ้าเรามองมุมกลับ นอกจากเกมแล้ว สื่ออื่น ๆ อีกจำนวนมากที่มีการใช้ความรุนแรงตามหน้าจอ เช่น ภาพยนตร์ หรือ ซีรีย์ ก็ยังได้รับการอนุญาตให้ฉายในประเทศไทย โดยที่ไม่มีการหวั่นเกรงว่าจะนำไปสู่ความรุนแรงแต่อย่างใด ตรงนี้ทำให้นักเล่นเกมเขาเกิดความกังขาว่ามันจะมีความยุติธรรมหรือเปล่า

ประเด็นต่อเนื่องก็คือ กรณีของคุณวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ มีกระแสเรียกร้องไปยังนักเล่นเกมชื่อดังบางส่วนให้ออกมาช่วยกัน SAVEต้าร์ หรือ SAVEวันเฉลิม แต่ว่านักเล่นเกมเหล่านี้บางคนก็แสดงท่าทีว่ายังไม่ต้องการเข้าไปยุ่งกับปัญหาทางการเมืองสักเท่าไร

จากนั้นมีเกมเมอร์บางคนออกมาแสดงความคิดเห็นถึงข้อจำกัดในการเล่นเกมตาม “กฎหมายควบคุมเกม” และตรงนี้ทำให้เขาตัดสินใจที่จะออกมาขับเคลื่อนเรียกร้องในการแก้ไขประเด็นนี้ ผ่านทางทวิตเตอร์

ขณะเดียวกันก็มีคนทวิตตอบโต้ว่า พอตัวเองถูกลิดรอนสิทธิ ก็เพิ่งจะออกมาเรียกร้อง แต่กรณีที่คนอื่นกำลังได้รับความลำบาก ก็ไม่ได้ออกมาเรียกร้อง

นพ.สลักธรรมกล่าวว่า ตรงนี้ถ้าพูดกันอย่างยุติธรรมก็ต้องบอกว่านักเล่นเกมบางทีเขาอาจจะไม่ได้ติดตามปัญหาบ้านเมือง หรือไม่ได้มีความเข้าใจมากเท่าไร เราอาจจะพูดติงได้ว่า ในตอนนี้มันเป็นปัญหาเรื่องสิทธิเสรีภาพ มันไม่ได้ถูกจำกัดโดยเฉพาะในแวดวงของนักเล่นเกมอย่างเดียว

แต่สิทธิเสรีภาพต่าง ๆ มันถูกจำกัดในทั่วทุกวงกร เพราะระบบรัฐที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทำตัวเหมือนกับเป็น “คุณพ่อรู้ดี” “ผู้พิทักษ์ศีลธรรมของประเทศ” มีแต่อำนาจรัฐส่วนกลางเท่านั้นที่จะตัดสินว่าอะไรคือความถูกต้องชอบธรรมของประเทศ

อะไรก็ตามที่รัฐรู้สึกว่าไม่ชอบธรรม ควบคุมไม่ได้ ก็มีแนวโน้มที่จะถูกเพ่งเล็ง ถูกควบคุม ถูกจัดการ หรือถูกอุ้มหายไปเลยได้

เราน่าจะใช้โอกาสนี้ในการทำความเข้าใจกับนักเล่นเกมว่า ในประเด็นที่คุณขับเคลื่อนคุณต้องมองถึงปัญหาสิทธิเสรีภาพโดยรวมของประเทศด้วย เพราะถ้าสิทธิเสรีภาพโดยรวมของประเทศมีปัญหา ถ้าคุณไม่ได้ออกมาช่วยกันต่อสู้ในเรื่องสิทธิเสรีภาพโดยรวมแล้ว สุดท้ายสิทธิเสรีภาพส่วนตัวของคุณก็จะถูกลิดรอน ถูกควบคุม และถูกจำกัดได้ เหมือนกับกรณีของกฎหมายเกมที่อาจจะออกมา

ในขณะเดียวกันผู้รักประชาธิปไตยก็อาจจะไปทำความเข้าใจกับน้อง ๆ หรือลูกหลานที่เป็นกลุ่มนักเล่นเกมเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่ไปตัดพ้อต่อว่าอย่างเดียว แต่ถ้าเราไปชี้ให้เขาเข้าใจผมเชื่อว่าเขาก็สามารถที่จะเข้าใจต่อสถานการณ์มากขึ้น

เราอาจจะยังไม่คาดหวังว่าเขาจะมาร่วมกับเรา แต่ถ้าใครมาร่วมกับเราได้ก็ดี แต่อย่างน้อยที่สุดให้เขาเข้าใจเรามากขึ้น และเราเองก็เข้าใจเขามากขึ้น ซึ่งผมคิดว่าการที่จะทำความเข้าใจกันก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสภาวะของประชาธิปไตยของประเทศที่น่าจะเกิดขึ้นในระยะเวลาถัดจากนี้ นพ.สลักธรรมกล่าวในที่สุด