Facebook Live อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ
เล่าข่าวหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม 2563
ประเด็น
1) ขอบคุณพี่น้องที่ร่วมกิจกรรมเขียนจดหมายและส่งข่าวเกี่ยวกับการย้ายสถานที่
2) การเบิกตัวแกนนำไปศาล
3) อย่าวิตกเรื่องคืนป้ายหมู่บ้านคนเสื้อแดง
อ.ธิดากล่าวว่าวันนี้เป็นการทำทำเฟสบุ๊คไลฟ์เล่าข่าวหน้าเรือนจำซึ่งเว้นช่วงไปนาน
ก่อนอื่นดิฉันก็ขอขอบคุณพี่น้องซึ่งในวันพฤหัสที่แล้วมาเขียนจดหมาย 114 ฉบับ ถึงคนในเรือนจำ พี่น้องพากันมาเป็นนับร้อยคน อย่างเรียบร้อย อาจจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่วิตก มีการส่งสายสืบจำนวนมากมาสังเกตการณ์
ถ้าใครยังไม่ได้ดูบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Live, วีดีโอคลิป หรือภาพข่าว ให้เข้ามาดูที่ เพจ :-
- อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ
- นพ.เหวง โตจิราการ
- ยูดีดีนิวส์ - UDD news
ก็จะได้เป็นกำลังใจกันและกันว่าพวกเรายังมีการห่วงหาอาทร มีความห่วงใยกัน หลายคนซึ่งอายุมากแล้วก็ยังอุตส่าห์มา
มีข่าวที่จะเรียนให้ทราบก็คือ ขณะนี้คุณวีระกานต์กับคุณหมอเหวง ได้รับการย้ายมาอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ดังนั้นหากพี่น้องเราจะเขียนจดหมาย ก็ต้องแยกเป็นสองที่นะคะ
จ่าหน้าซองระบุ คุณวีระกานต์ มุสิกพงศ์ กับ คุณหมอเหวง โตจิราการ ส่งมาที่
ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
33/2 ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร
กรุงเทพมหานคร 10900
ส่วน คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, คุณวิภูแถลง พัฒนภูมิไท จ่าหน้าซองระบุ แดน 2 ส่งมาที่
33 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
แขวงลาดยาว เขตจตุจักร
กรุงเทพมหานคร 10900
เล่าข่าวอีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า วันที่ 15, 16, 17 ก.ค. เวลา 09.00 น. คุณวีระกานต์, คุณณัฐวุฒิ, คุณวิภูแถลง, คุณหมอเหวง รวมทั้งคุณจตุพร และคุณอดิศร เพียงเกษ จะมาศาลอาญา รัชดาภิเษก ใครคิดถึงก็มาพบได้ สามารถที่จะเห็นตัวเป็น ๆ แต่อยู่ในภาวะที่หลายคนไม่อยากดู ก็คือเครื่องแบบจากเรือนจำนั่นเอง โดยเฉพาะพวกที่มาจากเรือนจำอาจจะมาก่อนเวลา 09.00 น.
โดยการขึ้นศาลครั้งนี้เป็นคดีปี 52 ซึ่งเป็นคดีที่อยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล เราไม่เคยเข้าไปข้างใน แต่ดูเหมือนว่าอยู่หน้าทำเนียบหรืออยู่หน้าบ้านมันจะหนักกว่าอยู่ข้างในนะ
เท่าที่ทนายแจ้งมาและที่เนสมองเห็นไกล ๆ ก็พบว่าทุกคนสบายดี คุณวีระกานต์ก็ได้รับการดูแลดีขึ้นตรงที่ว่า เมื่อมาอยู่โรงพยาบาล ก็มีหมอ มีพยาบาล เนื่องจากการรับประทานยาของคุณวีระกานต์นั้นมียาเยอะ เวลาที่อยู่ในเรือนจำพิเศษฯ อาการจะไม่ค่อยดีเพราะกินยาไม่ครบเนื่องจากจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เมื่อคุณวีระกานต์และคุณหมอเหวงมาอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว สถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้น
สิ่งที่กังวลก็คือเมื่อเบิกตัวมาขึ้นศาลแล้ว เมื่อกลับไปเรือนจำจะถูกกักตัวอีกหรือเปล่า...ไม่รู้? มันก็เลยพอดีกับข่าวที่ตอนนี้มีคนพิเศษประเภทคนต่างประเทศที่กระทรวงการต่างประเทศของเราและกองทัพอนุญาตให้เข้ามา ไม่ต้องกักตัว
กลายเป็นว่า นอกจากนักเรียน เด็กอนุบาล และคนจะลำบาก นักโทษในเรือนจำก็ลำบากเพราะถูกกักกันตัว ญาติก็เยี่ยมไม่ได้ ประชาชนธรรมดาก็ดูเหมือนเป็นคนชั้นสองไป ใช่หรือเปล่า?
คำถามว่า สำหรับ "ประชาชนไทย" จะเลิกกักตัวเมื่อไหร่คะ?
ดิฉันไม่เข้าใจ กระทรวงการต่างประเทศ และรวมทั้งศูนย์โควิด คุณเขียนมาได้ยังไง (เขียนแบบที่ให้มันดิ้นได้)
แล้วดิฉันจับได้อย่างหนึ่งที่คุณหมอทวีศิลป์พูดว่า เราก็คิดไม่ถึงว่า "เมื่อให้สถานทูตเขารับผิดชอบกักกันตัว บางสถานทูตเขาก็ไปอยู่คอนโด"
เวลาคุณเขียนให้สถานทูตรับผิดชอบกักกันตัว สถานทูตทุกที่ไม่ได้รวย ไม่ได้มีตึกใหญ่โต ไม่ได้มีที่กักกันตัว เหมือนประเทศที่ร่ำรวยอย่างสหรัฐฯ หรืออังกฤษ เขาไปเช่าอพาร์ทเมนท์ เช่าคอนโด
ดังนั้นรัฐบาลมีความบกพร่องมากตรงที่ว่า ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกว่าตัวเองเป็นพลเมืองชั้นสอง มีพลเมืองชั้นหนึ่งซึ่งเป็นคนต่างประเทศ คนไทยที่ไปเมืองนอกกลับมาก็ถูกกักกัน แต่นี่ดิฉันกำลังพูดถึงนักเรียน เด็กอนุบาล และนักโทษ มันไม่ใช่ชั้นสอง มันยิ่งชั้นสาม ชั้นสี่ เลย
เพราะฉะนั้นประเทศนี้...เอาแค่โควิด มันก็มีชนชั้นหลายชั้น!
อันนี้ไม่ได้ว่าอะไรนะ คุณมีระเบียบคุณก็ทำไป แต่ประชาชนคิดอย่างไร ห้ามความคิดไม่ได้
อีกประเด็นหนึ่งก็คือ อยากให้กำลังใจคนเสื้อแดงว่าอย่าไปวิตกเรื่องคืนป้าย อย่างที่มีพี่น้องเราไปพูดว่า คนเสื้อแดง มันอยู่ที่ใจ มันไม่ได้อยู่ที่เสื้อ และมันไม่ได้อยู่ที่ป้าย ยิ่งป้ายนั้นยิ่งสะเหล่อมาก
ป้ายนั้นก็ไม่ใช่นโยบายนปช.แบบที่คุณจตุพรพูดนั่นก็ถูก นโยบายนปช.ไม่ได้ทำหมู่บ้านเสื้อแดง บางคนบางหมู่บ้านมาบอกอาจารย์ว่าอยากทำบ้าง อาจารย์บอกอย่าไปทำเลย เอางี้...อยากมากนักก็ตั้งป้าย "หมู่บ้านประชาธิปไตย" ไม่มีปัญหา
แต่ให้เข้าใจว่าคนที่ทำหมู่บ้านเสื้อแดง มันเป็นเหมือนกลุ่มอิสระที่อยากมีกิจกรรมที่มีมวลชนเพื่อเอาไปเป็นเครดิตว่าผมมีมวลชน และไม่ได้มีชุดเดียว ไม่ได้มีแต่ "อานนท์ แสนน่าน"
ดังนั้นเรื่องหมู่บ้านเสื้อแดงมันเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ เป็นเพียงกลุ่มอิสระบางกลุ่ม ไม่ได้หมายความถึงคนเสื้อแดง คนรักประชาธิปไตยในประเทศนี้ทั้งหมด ขนาด "ลุงแก้ว" ยังพูดได้เลยว่า "เสื้อแดงมันอยู่ที่ใจ" และเมื่อมันอยู่ในใจ มันส่งคืนกันไม่ได้!!!
ก็เข้าใจได้ว่าท่ามกลางการต่อสู้จะมีการคัดกรองคนที่มีอุดมการณ์จริงจัง กับคนที่ขับเคลื่อนเพื่อผลประโยชน์ ดังนั้นใช้วิกฤตตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ คัดกรองว่าคนที่มีแนวคิด มีอุดมการณ์ก้าวหน้าเพื่อประชาชนจริง กับคนที่ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง เป็นเวลาทองแล้ว พี่น้องทั้งหลายแยกแยะได้ตอนนี้ว่าใครเป็นใคร?
เพราะฉะนั้นอย่าไปวิตกหรือเสียใจ แล้วไม่ได้เกี่ยวกับปริมาณคนด้วยนะ ดิฉันไม่เป็นห่วงเรื่องปริมาณ ไม่ได้สนใจด้วย แม้กระทั่งแนวคิด วิธีคิด วิธีทำงาน ก็ไม่ใช่วิธีคิด วิธีทำงานของฝ่ายประชาธิปไตยจริง เพราะว่าเราไม่ได้มุ่งที่บุคคล เรามุ่งที่หลักการและมุ่งที่ผลประโยชน์ประชาชน เราจะไม่ทะเลาะเรื่องบุคคล แต่การที่มีการร้องเพลงเนรคุณ อันนั้นก็เข้าใจได้ เพื่อให้มันมีสีสันว่าครั้งหนึ่งเคยมีคนร้องเพลงนี้
แต่เนื้อหาจริง ๆ อยู่ที่ว่า คนที่เป็นคนเสื้อแดงคือคนรักประชาธิปไตย และเวลานี้ขอให้เป็นเวลาทองของการคัดกรองคนที่มีอุดมการณ์จริง ๆ ดังนั้นไม่มีเรื่องอะไรที่น่าวิตกเลยค่ะ