วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ คดีปักหมุดสนามหลวง นัดแรก "ทนายด่าง" หวั่นเสียเปรียบเหตุไม่มีโอกาสได้หารือกับแกนนำในเรือนจำ ด้าน"สมยศ" เผยวันนี้เป็นวันชี้เป็นชี้ตายอนาคตประเทศไทย

 


ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ คดีปักหมุดสนามหลวง นัดแรก "ทนายด่าง" หวั่นเสียเปรียบเหตุไม่มีโอกาสได้หารือกับแกนนำในเรือนจำ  ด้าน"สมยศ" เผยวันนี้เป็นวันชี้เป็นชี้ตายอนาคตประเทศไทย


วันที่ (2 ธ.ค. 64) ที่ศาลอาญารัชดาฯ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณีวันนี้ ศาลมีการเบิกตัวแกนนำ 22 คนได้แก่ อานนท์ นำภา, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง, ชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือ จัสติน, นายธนชัย เอื้อฤาชา, นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ , นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, นายสุวรรณา ตาลเหล็ก, นายภัทรพงศ์ น้อยผาง, นายณัทพัช อัคฮาด, นายณัฐชนน ไพโรจน์, นายธานี สะสม, นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ, นายสิทธิทัศน์ จินดารัตน์, นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด, นายธนพ อัมพะวัต และ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ เป็นผู้ถูกกล่าวหา มาเพื่อสืบพยานคดีปักหมุดคณะราษฎร์ 19-20 กันยายน 2563 ว่ารู้สึกหนักใจเนื่องจากไม่มีโอกาสได้ปรึกษาจำเลยที่ไม่ได้รับการประกันตัว


โดยยืนยันว่าจำเลยควรได้รับสิทธิในการปรึกษาหารือกับทนายเรื่องรูปคดี นอกจากนี้เราได้ขอหมายเรียกซึ่งทางราชการเป็นผู้ครอบครองแต่ศาลยังไม่ออกหมายเรียกให้ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเอาหมายเรียกมาตรวจพิสูจน์ว่าคำปราศรัยของจำเลยว่าเข้าข่ายจริงหรือไม่


โดยวันนี้คงต้องคุยกัน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีใหญ่ แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ เช่นกล่าวว่าทำลายโบราณสถานคือทำลายสนามหลวง เราก็มีคำถามที่จะถามอธิบดีกรมศิลปากรหลายเรื่อง เรื่องโบราณสถาน หมุดที่หายไปจริงไหม และถ้าเปรียบเทียบกับคดีอนุสาวรีย์ปราบกบฎที่ปัจจุบันยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษใคร คือสิ่งเหล่านี้ทำให้มองให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรมาภิบาล ไม่ยุติธรรมในการใช้ความเกลียดชังเข้ามากล่าวหาซึ่งเราไม่ได้มีโอกาสเอาเอกสารเข้ามาสืบ 


ด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แนวร่วมม็อบราษฎร วันนี้เป็นวันที่มีความสำคัญและชี้เป็นชี้ตายของอนาคตประเทศไทย เนื่องจากเป็นคดีใหญ่และเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ซึ่งวันนี้จะมีการสืบพยานโจทก์ซึ่งจะได้รู้ว่าการกล่าวหากับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นจริงเท็จอย่างไร


เราจะได้พูดความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และยืนยันว่าที่เราได้ต่อสู้มาเรามีเจตนาดีต่อบ้านเมือง เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าเพื่อสิทธิประชาชน โดยหวังว่าเราจะได้รับความยุติธรรมและการประกันตัว ทั้งนี้ตนและพวกถูกกล่าวหาว่าร่วมกันจัดงานชุมนุมที่ท้องสนามหลวงแต่ว่าตนไม่มีโอกาสได้ปรึกษาหารือกันเลยที่จะต่อสู้คดีนี้เพราะ"ทนายอานนท์-ไมค์-ไผ่"ยังอยู่ในคุก


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์













คดีละเมิดอำนาจศาล 'ณัฐชนน-เบนจา' มีความผิด ศาลสั่งจำคุก 'ณัฐชนน' 2 เดือน ส่วน 'เบนจา' ปรับ 500 บาท

 


คดีละเมิดอำนาจศาล 'ณัฐชนน-เบนจา' มีความผิด ศาลสั่งจำคุก 'ณัฐชนน' 2 เดือน ส่วน 'เบนจา' ปรับ 500 บาท


วันนี้ (2 ธ.ค. 64) ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งในคดี #ละเมิดอำนาจศาล ของเบนจา อะปัญ และ ณัฐชนน ไพโรจน์ สองนศ.มธ. กรณีชุมนุมเรียกร้องสิทธิประกันตัว หน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 64 ระหว่างที่กำลังยื่นขอประกันตัวเพนกวิน พริษฐ์


ในเวลาต่อมาศูนบ์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รายงานผ่านทางทวิตเตอร์ ความว่า


ด่วน! ศาลพิพากษาให้ เบนจา-ณัฐชนนมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามที่ถูกกล่าวหา โดยศาลสั่งจำคุก 'ณัฐชนน' 2 เดือน ส่วน 'เบนจา' ปรับ 500 บาท


โดยพฤติกรรมของ 'เบนจา' มีการอ่านเอกสารบนทางเท้า และชักชวนให้ประชาชนโปรยเอกสารและรายชื่อ ซึ่งมีเอกสารบางส่วนได้ตกหล่นเข้ามาในศาล แม้ไม่สกปรก รกรุงรัง แต่ก็ถือเป็นการประพฤติที่ไม่เรียบร้อยภายในศาลเช่นกัน


ซึ่ง 'เบนจา' ตัดสินใจจ่ายค่าปรับ 500 บาท แทนการถูกคุมขังที่สถานกักขังกลาง จังหวัดปทุมธานี 1 วัน 


ส่วนการกระทำของ 'ณัฐชนน' ที่ใช้โทรโข่งปลุกระดมให้ประชาชนร่วมตะโกน 'ปล่อยเพื่อนเรา' หลาย ๆ ครั้ง และมีการพูดถ้อยคำหยาบคายด่าว่าศาลเป็นบางช่วง ถือเป็นการพูดไม่สุภาพ หยาบคาย ถือเป็นการประพฤติไม่เรียบร้อย และก่อความไม่สงบในการใช้เครื่องขยายเสียงในศาล ซึ่งเป็นการละเมิดข้อกำหนดศาล โดยศาลสั่งจำคุก 'ณัฐชนน' 2 เดือน


ที่มา : ทวิตเตอร์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน


#ละเมิดอำนาจศาล

#เบนจา #ณัฐชนน

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564

"รุ้ง ปนัสยา" ได้ปล่อยตัวชั่วคราวภายใต้ 5 เงื่อนไขถึง 12 ม.ค.65 เจ้าตัวเผย เป็นนักโทษทางการเมืองโดยสมบูรณ์แล้ว

 


"รุ้ง ปนัสยา" ได้ปล่อยตัวชั่วคราวภายใต้ 5 เงื่อนไขถึง 12 ม.ค.65 เผย เป็นนักโทษทางการเมืองโดยสมบูรณ์แล้ว


วันนี้ (1 ธ.ค. 64) ภายหลังเป็นที่แน่นอนแล้วว่าศาลอนุญาตการขอปล่อยตัวชั่วคราว "รุ้ง" ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ดังนั้น เมื่อเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้นำตัว "รุ้ง ปนัสยา" ออกจากทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อติดกำไลข้อเท้า (EM) ก่อนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวถึงวันที่ 12 ม.ค. 65 ภายใต้ 5 เงื่อนไข ได้แก่ ห้ามจำเลยทำกิจกรรมหรือก่อเหตุที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์, ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, ห้ามออกนอกเคหสถานตลอดเวลา เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาล ไปเรียนและสอบ ไปติดต่อราชการที่ศาลอื่นหรือเหตุอื่น โดยได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่เรียกหลักประกัน แต่หากผิดสัญญาประกันปรับ 90,000 บาท 


ต่อมา 20.00 น. ที่บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานหญิงกลางฯ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ปล่อยตัว "รุ้ง ปนัสยา" โดยมีครอบครัวพ่อและแม่ขับรถยนต์มารับ 


จากนั้น "รุ้ง ปนัสยา "ได้เผยกับสื่อมวลชนว่า ฝากสื่อมวลชนช่วยติดตามสถานการณ์ที่ศาลและเรือนจำอย่างใกล้ชิด เพราะเพื่อน ๆ เงียบมาก อย่าง "เบนจา อะปัญ" อยู่ในเรือนจำมา 50 กว่าวันแล้ว  "เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์" ก็เกิน 100 วันแล้วแต่ยังไม่ได้สิทธิประกันตัว


ขณะที่การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มราษฎรที่จะมีขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียด 


ส่วนความเห็นต่อการปล่อยตัวชั่วคราว ภายใต้ 5 เงื่อนไข รุ้งตอบเพียงว่า "เงื่อนไขที่เกิดขึ้น ชัดเจนแล้วว่าเราเป็นนักโทษอย่างสมบูรณ์แล้ว" จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกจากเรือนจำ


#รุ้งปนัสยา

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

‘เบนจา’ เผย ดรอปเรียน! ไม่อยากให้การติดคุกมีผลต่อเกรดและอนาคต ร้องปล่อยเราเถอะ! แค่นี้ยังทำลายอนาคตเราไม่พออีกหรือ?

 


เบนจา เผย ดรอปเรียน! ไม่อยากให้การติดคุกมีผลต่อเกรดและอนาคต ร้องปล่อยเราเถอะ! แค่นี้ยังทำลายอนาคตเราไม่พออีกหรือ?


เบนจา อะปัญ สมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งขณะนี้เธอถูกฝากขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง คลองเปรม ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 64 ในคดีที่ถูกกล่าวหาจากการปราศรัยและอ่านแถลงการณ์ที่หน้าบริษัทซิโน-ไทย ในระหว่าง #ม็อบ10สิงหา ‘คาร์ม็อบใหญ่ไล่ทรราช’ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว สำนวนยังอยู่ในการพิจารณาของกองบัญชาการตำรวจนครบาลหรือหัวหน้าพนักงานสอบสวน ว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่? นับรวมวันนี้ เบนจา ถูกคุมขังมาเป็นเวลา 55 วันแล้ว


วันนี้ (1 ธ.ค. 64) ที่เฟซบุ๊ก Benja Apan แอดมินได้โพสต์ข้อความจาก เบนจา เขียนจากเรือนจำ ความว่า


เราดรอปเรียนในเทอมนี้แล้ว หลังจากศาลไม่อนุญาตให้เราประกันตัว


ก่อนหน้านี้ เราลงทะเบียนและเข้าสอบตามปกติ แต่อย่างที่หลายคนอาจจะเห็นช่วงสอบ Midterm เราก็ยังต้องไปศาล ไปสถานีตำรวจ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรังควาญ และเราก็ถูกตำรวจจับ


เราจำเป็นต้องเลือกว่าจะลงทะเบียนต่อไปและหวังว่าศาลจะอนุญาตให้ประกันตัว หรือจะ drop การเรียนไว้ก่อน ช่วงที่เราเกิดปัญหาอาจารย์คณะเรา ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออะไร มีเพียงเพื่อนที่ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่ก็ไม่เหมือนความช่วยเหลือจากอาจารย์ ไม่เหมือนกับอาจารย์คณะทางสังคมที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อน ๆ เมื่อต้องเข้าเรือนจำเราจึงไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเห็นความสำคัญของการเรียนต้องจัด class เรียนให้เราเฉพาะ


การต้องอยู่ในเรือนจำกับการเรียนสายวิศวกรรมที่ต้องมีการคำนวณนั้นยากลำบาก แค่ผลกระทบจากการต้องเรียน online ก็ไม่สะดวกมากอยู่แล้ว ถ้าต้องเรียนในเรือนจำ ถ้าเราคำนวณไม่ได้จะถามใคร จะค้นหาคำตอบอย่างไร เราจึงตัดสินใจดรอปการเรียนในเทอมนี้เนื่องจากติดอยู่ในเรือนจำ เพราะเราคาดหวังผลการเรียนที่ดี เพื่อใช้ในการเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอก


ถึง ณ ตอนนี้ เราไม่มีเหตุจำเป็นแบบเพื่อนที่ต้องออกไปสอบปลายภาค แต่เราก็ยังเป็นนักศึกษา และต้องการออกไปเรียน เราเรียนวิศวกรรมเครื่องกลเพื่อเป็น foundation เพื่อไปต่อปริญญาโท Aerospace Engineering เราอยากทำงานด้านอวกาศ แต่เราวางแผนว่าจะเรียนให้จบปริญญาเอก เพราะไม่ได้หวังว่าจะเป็นวิศวกรไปตลอด บั้นปลายชีวิตอยากเป็นอาจารย์ เลยอยากเรียนเฉพาะทางเพื่อเอามาพัฒนาประเทศในสาขาที่ประเทศไทยก็ยังขาดความรู้ด้านนี้ เพราะการเป็นอาจารย์และนักวิจัยก็สามารถทำคู่กันไปได้


ตอนนี้เราเกรดเฉลี่ยประมาณ 3.3 เราอยากเรียนเมื่อเราพร้อม เราจึงดรอปไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้การติดคุกมีผลต่อเกรดและอนาคต ถึงเราดรอปและไม่มีกำหนดสอบในเทอมนี้ แต่ปล่อยเราเถอะ เรายังต้องเรียน เรามีประโยชน์มากกว่าที่จะกักขังเราไว้ในเรือนจำเฉย ๆ แค่นี้ยังทำลายอนาคตเราไม่พออีกหรือ


ตอนนี้เราสงสัยว่านอกจากอาจารย์บางท่านที่เข้าใจนักศึกษา แต่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ As a whole ในฐานะที่เป็นองค์กรนั้นหายไปไหนเหรอ และตอนนี้ก็เริ่มสงสัยว่าหรือเราเองที่เข้าใจผิดมาตลอด เริ่มงงว่าเราผิดจริงเหรอ

ตอนนี้ถูกแยกห้องกับรุ้งและในห้องมีอยู่ 27 คน ต้องนอนเบียดกัน นอนงอเข่า เพื่อนในห้องบอกว่า “เดี๋ยวก็ชิน” แต่เราสงสัยว่าทำไมต้องชิน ในเมื่อเราทำให้ดีกว่านี้ได้ ในเรือนจำเองก็ต้องพัฒนา


เบนจา อะปัญ

ทัณฑสถานหญิงกลาง

30 พฤศจิกายน 2564


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

ด่วน! “รุ้ง ปนัสยา”ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกันตัว ในคดี #แต่งครอปท็อป วางหลักทรัพย์เงินสด 2 แสน พร้อมกำหนดเงื่อนไข 5 ข้อ เช่นเดียวกับศาลอาญา ขณะที่ศาลจ.อยุธยาให้ประกัน ในคดี #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ กำหนดเงื่อนไขคล้ายศาลอาญา

 


ด่วน! “รุ้ง ปนัสยา”ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกันตัว ในคดี #แต่งครอปท็อป วางหลักทรัพย์เงินสด 2 แสน พร้อมกำหนดเงื่อนไข 5 ข้อ เช่นเดียวกับศาลอาญา ขณะที่ศาลจ.อยุธยาให้ประกัน ในคดี #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ กำหนดเงื่อนไขคล้ายศาลอาญา


ตามที่วานนี้ (30 พ.ย. 64) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานผ่านทวิตเตอร์ กรณีทนายยื่นคำร้องขอประกันตัว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ความว่า


30 พ.ย. 64 ที่ศาลอาญา ทนายได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวรุ้ง ปนัสยา ใน 2 คดี ได้แก่ คดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และคดี #2ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว ศาลได้สั่งให้มีการไต่สวนคำร้องในช่วงบ่ายนี้จนเสร็จสิ้น และอยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งของศาล


ต่อมา ในเวลา 16.30 น. ที่ทวิตเตอร์ศูนย์ทนายฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 2 คดี แต่อนุญาตให้ปล่อยตัวตั้งแต่วันนี้-12 ม.ค. 65 ตามเหตุจำเป็นเรื่องการสอบ พร้อมกำหนดเงื่อนไขประกัน 5 ข้อ คือ

1. ห้ามทำกิจกรรมที่ทำให้สถาบันเสื่อมเสีย

2. ไม่ร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย

3. ห้ามออกนอกเคหสถาน 24 ชม. ยกเว้นเดินทางไปสอบ, ไปสถานพยานบาล หรือไปตามนัดพิจารณาคดี

4. ห้ามเดินทางออกนอกปท. 

5. ให้ติดกำไลอีเอ็ม


โดยวันนี้ (1 ธ.ค. 64) ทนายเตรียมยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวอีก 2 คดี คือคดี #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป และคดี #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป ซึ่งทั้งสองคดีนี้รุ้งถูกฟ้องร้องในข้อหา #ม112 


ทั้งนี้  รุ้ง ปนัสยา” ถูกดำเนินคดีในมาตรา #ม112 แล้ว 9 คดี นั้น


กระทั่งวันนี้ (1 ธ.ค. 64) ศูนย์ทนายความฯ รายงานว่า เวลา 13.04 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ประกัน #รุ้ง ในคดี #แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน โดยให้วางหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ พร้อมกำหนดเงื่อนไข 5 ข้อ เช่นเดียวกับศาลอาญาวานนี้ด้วย


รุ้งเหลือผลประกัน คดีชุมนุม #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป ซึ่งหากได้ประกันตัว เธอจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในเย็นนี้


คืบหน้าล่าสุด ศูนย์ทนายความฯ รายงานผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า ด่วน! เวลา 14.26 น. ศาลจ.อยุธยาให้ประกัน #รุ้ง ในคดี #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ ให้ทำสัญญาโดยมีเงื่อนไขคล้ายกับคำสั่งของศาลอาญา และหากผิดสัญญาประกันจะปรับ 150,000 บาท


จากคำสั่งทั้งหมดทำให้เย็นนี้รุ้งจะถูกปล่อยตัวหลังถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลางนานกว่า 17 วัน


ที่มา : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

“แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ - วีโว่” บุกสภายื่นหนังสือถึงกมธ.พัฒนาการเมือง ตรวจสอบจนท.ตร.ใช้กำลังและความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมเมื่อ 14 พ.ย. 64 หน้านิติเวช รพ.ตำรวจ

 


“แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ - วีโว่” บุกสภายื่นหนังสือถึงกมธ.พัฒนาการเมือง ตรวจสอบจนท.ตร.ใช้กำลังและความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมเมื่อ 14 พ.ย. 64 หน้านิติเวช รพ.ตำรวจ

 

วันนี้ (1 ธ.ค. 64) เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายวชิรกรณ์ วิภาศรีนิมิต ตัวแทนจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, นายรัฐภูมิ เลิศไพจิตร โฆษกกลุ่ม We Volunteer และนายเสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ ยื่นหนังสือและหลักฐานกรณีปราบปรามการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน บริเวณหน้าสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ต่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

นายวชิรกรณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา กรณีมีการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ต่อผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้าสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ มีผู้ชุมนุมถูกยิงโดยกระสุนปืนไม่ทราบชนิด เป็นการยิงที่สร้างความเสียหายรุนแรง ปกติหากยิงด้วยกระสุนยางจะเกิดเพียงแผลฟกซ้ำ แต่กรณีที่เกิดขึ้นกระสุนยางเจาะทะลุผิวหนังเข้าไปฝังอยู่ในผิวหนังของผู้ชุมนุม เป็นเหตุให้เชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการดัดแปลงอาวุธปืนให้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากภาพว่าอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่มีสะเก็ดไฟออกมามากกว่าปกติ

 

ด้านนายรัฐภูมิ กล่าวว่า กลุ่มแนวร่วม มธ.และกลุ่มวีโว่จึงอยากให้ กมธ.ตรวจสอบว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ได้ดัดแปลงอาวุธหรือดัดแปลงหัวกระสุนให้มีความรุนแรงขึ้นหรือไม่ ความจริงในวันนั้นเจ้าหน้าที่มีเวลาและสามารถเจรจากับผู้ชุมนุมได้ เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำการอยู่รพ.ตำรวจไม่เจรจากับเรา ทำไมถึงเลือกใช้กำลัง และจากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แถลงการณ์ว่าจุดดังกล่าวมีเสียงดังจากการจุดประทัดขึ้นมาก่อนนั้น คิดว่าต้องมาดูข้อเท็จจริงกันอีกครั้งหนึ่ง คือข้อเท็จจริงของเขากับข้อเท็จจริงของเรา เชื่อว่าประชาชนสามารถดูได้ว่าข้อเท็จจริงของใครน่าเชื่อถือกว่ากัน

 

นายปดิพัทธ์กล่าวว่า กรณีแรกที่ กมธ.พัฒนาการเมือง ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ คือ การชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่มีการยิงเยาวชนที่หน้า สน.ดินแดง ซึ่งเรารวบรวมหลักฐานได้ใช้กล้องวงจรปิดกว่า 54 ตัวและพยานแวดล้อม และเห็นว่าหลักฐานที่คณะกรรมการตรวจสอบได้กับหลักฐานของเจ้าหน้าที่รัฐมีความแตกต่างกันพอสมควร ซึ่งความรับผิดชอบจากกรณีดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น และเยาวชนก็เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งนี้ เมื่อมีการสลายการชุมนุมจะมีข้อมูล 2 ชุด คือ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐและข้อมูลจากผู้ชุมนุม คณะกรรมการก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยหลักฐานทั้งหมด ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจบริสุทธิ์ใจต้องเอาหลักฐานของตัวเองมาแสดงด้วย ที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือน้อยมาก และมีการอ้างอยู่เสมอว่าปฏิบัติตามหลักสากล โดยวันนี้เราได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) มาชี้แจงต่อกมธ. ซึ่งเราพยายามที่จะพูดคุยว่าแนวทางควรจะเป็นอย่างไร แต่ได้รับความร่วมมือน้อยมาก เช่น กรณีที่มีการจับกุมนักข่าวเมื่อปีที่แล้ว กว่าที่จะเชิญมาได้ต้องใช้เวลาถึง 6 ครั้ง

 

นายปดิพัทธ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เราจะเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาความรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลตำรวจอยู่ ขณะเดียวกัน ถ้าการชุมนุมโดยสันติ การนำเสนอข่าวอย่างเสรียังเป็นไปไม่ได้ เราก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในการโดนคุกคามทั้งคดีความที่เกิดขึ้นกับพรรคการเมือง สื่อมวลที่โดนลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างมาก ซึ่งนอกจาก กมธ.พัฒนาการเมืองจะดำเนินการตรวจสอบกรณีนี้แล้ว พรรคก้าวไกลก็จะดำเนินการในสภาด้วยที่จะทำให้พื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยกันสามารถเป็นไปได้

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์







ศาลขอนแก่นยกฟ้อง “ครูใหญ่ อรรถพล” คดีหมิ่นประมาทเจ้าของสโมสรฟุตบอล #ขอนแก่นยูไนเต็ด

 


ศาลขอนแก่นยกฟ้อง “ครูใหญ่ อรรถพล” คดีหมิ่นประมาทเจ้าของสโมสรฟุตบอล #ขอนแก่นยูไนเต็ด

 

วันนี้ (1 ธ.ค. 64) ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่เจ้าของสโมสรฟุตบอล #ขอนแก่นยูไนเต็ด เป็นโจทก์ฟ้อง #ครูใหญ่อรรถพล กล่าวหา #หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการปราศรัยในการชุมนุมเมื่อ20ส.ค.63 ขณะครูใหญ่ยืนยันวิจารณ์เพื่อประโยชน์สาธารณะ 

 

เวลา 10.30 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานผ่านทางทวิตเตอร์ ความว่า

 

“ศาลขอนแก่นพิพากษายกฟ้อง #ครูใหญ่อรรถพล คดี #หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เจ้าของสโมสรฟุตบอล #ขอนแก่นยูไนเต็ด ชี้จำเลยปราศรัยติชมด้วยความสุจริตเพื่อให้มีการตรวจสอบธุรกิจของเอกราช ช่างเหลา ส.ส.พปชร. ซึ่งมีภาพเป็นเจ้าของขอนแก่นยูไนเต็ด และมีคดียักยอกทรัพย์”

 

ย้อนดูรายละเอียดของคดีได้ที่ https://tlhr2014.com/archives/38405

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์