“แพทองธาร”
เผย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ วันนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่มีนายกฯ
คนแรกต้องจำคุก “ทักษิณ” มีกำลังใจดี ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ
วันที่
9 กันยายน 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำสั่งบังคับโทษถึงที่สุดหรือไม่
ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรณีที่นายทักษิณเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยเมื่อปี
2566 ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปรับโทษ
ซึ่งในวันเดียวกันหลังจากที่นายทักษิณถูกควบคุมตัว
ได้ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลตำรวจทันที
เนื่องจากมีอาการฉุกเฉิน
ก่อนที่ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากเดิมที่โทษจำคุก
8 ปี เหลือ 1 ปี
ก่อนที่จะได้รับการพักโทษเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2567
โดยเมื่อเวลาประมาณ
09.30 น.นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ และ น.ส.พินทองทา
ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว ได้เดินทางเข้าร่วมคำฟังคำสั่งคำสั่งบังคับโทษ
หลังศาลฯใช้เวลาอ่านราว
2 ชม. ศาลฎีกาฯสั่งให้นำตัวนายทักษิณ
กลับไปเข้าเรือนจำ โดยให้จำคุก 1 ปี ซึ่งไม่นับรวม 120
วันที่พักรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ทั้งนี้ เงื่อนไขที่ได้ชี้แจงอาการป่วยนั้นฟังไม่ขึ้น
ส่งตัวไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นการเตรียมการไว้แล้ว
คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก
หลังจากที่นายทักษิณ ได้เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566
ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปรับโทษ ใน 3 คดี คือ
คดีทุจริตที่ดินรัชดา 3, คดีหวยบนดิน จำคุก 2 ปี และคดีธนาคารกรุงเทพปล่อยกู้กฤษดามหานคร จำคุก 3 ปี
โดยถูกคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพเพื่อรับโทษ
ก่อนที่จะได้รับพระราชทานอภัยลดโทษแก่นายทักษิณ จากโทษจำคุก 8 ปี เหลือโทษจำคุก 1 ปี
แต่ในคืนวันที่
22 ส.ค. นายทักษิณ เกิดอาการป่วย
ทำให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจ โดยพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14
จนกระทั่งได้รับพักโทษเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2567
นำมาสู่เสียงวิจารณ์จากหลายฝ่ายที่ตั้งคำถามว่า
นายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ และต่อมา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์" อดีต
สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯให้ตรวจสอบนายทักษิณ
แต่ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง เนื่องจากไม่ใช่คู่กรณี แต่อย่างไรก็ตาม
ศาลฎีกาฯจะเป็นผู้ไต่สวนเอง ก่อนนัดไต่สวน ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษคนปัจจุบันอย่างนายมานพ
ชมชื่น ในวันที่ 13 มิ.ย.เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของขั้นตอนการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษานอกเรือนจำ
ก่อนที่จะออกหมายเรียกพยานมาไต่สวนกว่า 30 ปาก
ที่เป็นกลุ่มแพทย์และพยาบาลเวร ทั้งในเรือนจำ รพ.ราชทัณฑ์ พัศดีเวรและผู้ควบคุมตัว
อดีตนายกฯ ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ กลุ่มแพทย์ รพ.ตำรวจบุคลากรแพทยสภาและปิดท้าย
นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ
นอกจากนี้
คดีดังกล่าวแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย โดย มี 1 คนถูกว่ากล่าวตักเตือน ส่วนอีก 2 คนถูกพักใช้ใบอนุญาต
โดยพบให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากนายทักษิณ ป่วยไม่วิกฤต
ภายหลังที่ศาลฯ
มีคำสั่งให้จำคุก “ทักษิณ ชินวัตร” 1 ปี และให้นำตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที ด้าน
น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวว่า ทางครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่มีการอภัยโทษลดโทษคุณพ่อเหลือ 1 ปี
ซึ่งพวกเราทั้งครอบครัวก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
เรารู้สึกเรื่องนี้ในทุก ๆ วัน
ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจ
ส่งความห่วงใยมาให้คุณพ่อและครอบครัวของเราค่ะ
อย่างไรก็ตามท่านทักษิณเองยังเป็นผู้นำในทางจิตวิญญาณในเรื่องของไม่ว่าจะเป็นการเมืองที่ผ่านมา
ผลงานต่าง ๆ ที่ทำเพื่อบ้านเมือง ท่านก็ยังเป็นคนที่นึกถึงบ้านเมืองอยู่เสมอ
และตั้งใจจริงในการที่หวังจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนมีความกินดีอยู่ดี
ตอนนี้ดิฉันเองและครอบครัวก็มีความเป็นห่วงคุณพ่อ
แต่ว่าก็รู้สึกภูมิใจที่คุณพ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายในประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนในประเทศ
จนมาวันนี้ก็เป็นวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่มีนายกรัฐมนตรีคนแรกที่จะต้องจำคุก
เรื่องนี้ก็อาจจะค่อนข้างหนัก แต่แน่นอนค่ะว่ากำลังใจดีทั้งคุณพ่อและครอบครัวค่ะ และแน่นอนว่าในส่วนตัวของดิฉันและพรรคเพื่อไทยเองก็ยังมุ่งหน้าทำงานต่อเพื่อจะเป็นฝ่ายค้าน
และทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ตรวจสอบรัฐบาลต่อไป
ส่วนของพรรคเองทุกคนมีกำลังใจที่ดี
ก็ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน
ประชาชนทุก ๆ คนที่ให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ก็ขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้ด้วยค่ะ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ทักษิณชินวัตร #คดีชั้น14 #แพทองธารชินวัตร