วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568

'ปชน.' แถลงหลัง 'ศาล รธน.' ชี้ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง แนะ ควรเร่งทำประชามติรอบแรกพร้อมเลือกตั้ง-แก้ไขหมวด 15 เพื่อให้ทัน 4 เดือนยุบสภา จี้ 'ภูมิใจไทย' เสนอร่างเข้ารัฐสภาโดยเร็ว ย้ำตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ในข้อตกลง MOA มอง ยังไม่ปิดประตู 'สสร.' จากการเลือกตั้ง เหตุรัฐสภาออกแบบกลไกส่งร่างฯ มาที่รัฐสภา ก่อนทำประชามติได้

 


'ปชน.' แถลงหลัง 'ศาล รธน.' ชี้ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง แนะ ควรเร่งทำประชามติรอบแรกพร้อมเลือกตั้ง-แก้ไขหมวด 15 เพื่อให้ทัน 4 เดือนยุบสภา จี้ 'ภูมิใจไทย' เสนอร่างเข้ารัฐสภาโดยเร็ว ย้ำตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ในข้อตกลง MOA มอง ยังไม่ปิดประตู 'สสร.' จากการเลือกตั้ง เหตุรัฐสภาออกแบบกลไกส่งร่างฯ มาที่รัฐสภา ก่อนทำประชามติได้


วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา พรรคประชาชน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ,นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พร้อมด้วย สส.ของพรรค แถลงถึงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เรื่องกระบวนการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า


พรรคประชาชนยืนยันว่า เป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหาประเทศควบคู่ไปกับการฟื้นฟูความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ คือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ถูกระบุไว้อย่างชัดเจนในข้อตกลง MOA ที่พรรคประชาช นได้จัดทำกับพรรคภูมิใจไทย


วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้อย่างชัดเจนแล้ว ว่ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องมีการทำประชามติทั้งหมด 2 รอบ ได้แก่


ประชามติรอบที่ 1 เพื่อสอบถามประชาชนพร้อมกันใน 2 ประเด็น

- 1.1. เห็นด้วยหรือไม่ ว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

- 1.2. เห็นด้วยหรือไม่ กับวิธีการและเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ที่รัฐสภาเห็นชอบ


ประชามติรอบที่ 2 เพื่อสอบถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ กับร่างรัฐธรรนมูญฉบับใหม่


ดังนั้น หลังจากนี้ พรรคประชาชนเห็นว่าเราควรเดินหน้าสู่การจัดทำประชามติรอบที่ 1 พร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นจากการยุบสภาภายใน 4 เดือน หลัง ครม. ใหม่ เข้าปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะกระทำการได้หลังจากที่รัฐสภาพิจารณาและให้ความเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 เพื่อเพิ่มกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่


ดังนั้น พรรคประชาชนจึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่และเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มีการดำเนินการดังต่อไปนี้


1. สส. จากแต่ละพรรคการเมืองควรยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 เข้าสู่รัฐสภาโดยเร็ว ซึ่งไม่ควรเกินสัปดาห์หน้า เพื่อให้สามารถดำเนินการจัดทำประชามติรอบที่ 1 ได้ทันพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นจากการยุบสภาภายใน 4 เดือน หลัง ครม. ใหม่ เข้าปฏิบัติหน้าที่


ณ ปัจจุบัน ทาง สส. พรรคประชาชนและ สส. พรรคเพื่อไทยได้ยื่นร่างต่อประธานรัฐสภาและถูกบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภามาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ควรพิจารณารวบรวมเสียง สส. รัฐบาล เพื่อยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ของตนเองเข้าสู่รัฐสภาโดยเร็ว เพื่อเป็นการส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายตามข้อตกลง MOA 


แม้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง” แต่เราเห็นว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวอาจยังไม่ได้ปิดประตูต่อการมีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง เนื่องจากรัฐสภาสามารถออกแบบกลไกให้ สสร. ส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ สสร. จัดทำ มาที่รัฐสภา ก่อนส่งไปทำประชามติกับประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูรายละเอียดในคำวินิจฉัยฉบับเต็ม


2. สส. จากแต่ละพรรคการเมืองควรร่วมกันผลักดันให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ในวาระที่ 1 ภายในเดือนกันยายน โดยไม่จำเป็นต้องรอการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เนื่องจากเป็นกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารโดยตรง


การดำเนินการดังกล่าว จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ที่จะทำให้เป้าหมายในการจัดทำประชามติรอบที่ 1 พร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นจากการยุบสภาภายใน 4 เดือน หลัง ครม. ใหม่ เข้าปฏิบัติหน้าที่ เป็นจริงได้


สุดท้าย พรรคประชาชนยืนยันว่า เราจะทำหน้าที่เต็มที่ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน เพื่อดำเนินการตรวจสอบ เสนอแนะ และผลักดันรัฐบาลใหม่ ให้บริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชน และเดินหน้าสู่การปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ในข้อตกลง MOA


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #ประชามติ #เขียนรัฐธรรมนูญใหม่