“เชตวัน” จี้รัฐบาลอนุทินหยิบรายงาน "กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพฯ" มาดำเนินการ
วันที่ 7 กันยายน 2568 เชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี เขต 6 พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นที่เหมาะสมหรือย้ายไปอยู่สถานที่อื่นที่เหมาะสม แสดงความเห็นว่า สำหรับตนแล้ว ถ้าจะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะทวงถามหรือเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายใต้การนำของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล สิ่งหนึ่งสิ่งนั้นคือธุรกิจกองทัพ โดยที่ผ่านมาสภาผู้แทนราษฎรได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพฯ ขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ผลการศึกษาออกมาแล้ว เตรียมนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและส่งต่อให้กับรัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป และถึงแม้ว่าระยะเวลา 4 เดือนก่อนยุบสภาอาจทำอะไรไม่ได้มาก แต่ก็มีเรื่องที่สามารถมีมติคณะรัฐมนตรีทำได้ทันที รวมถึงมีบางระเบียบและบางคำสั่งที่สามารถปรับปรุงให้ทันสมัยได้
เชตวันกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของธุรกิจกองทัพ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ชุดนี้ได้รวบรวมจากสารพัดธุรกิจที่ไม่คิดว่ากองทัพจะดำเนินการ สารพัดธุรกิจที่ไม่คิดว่าจะเป็นภารกิจหน้าที่ของทหาร แบ่งออกมาเป็นหมวดหมู่ได้ 3 ประเภท คือ 1. กิจการที่ดำเนินการผ่านกองทุนสวัสดิการ ซึ่งแบ่งเป็นสวัสดิการภายในกับสวัสดิการเชิงธุรกิจ อาทิ สนามกอล์ฟ โรงแรม ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น 2. กิจการที่ดำเนินการในรูปแบบของเงินนอกงบประมาณ ทั้งเงินนอกงบประมาณประเภทที่หนึ่ง ซึ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ทุกส่วนราชการมี กับเงินนอกงบประมาณประเภทที่สอง ที่มีเฉพาะแต่ในกองทัพเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้ใช้จัดทำธุรกิจอย่างเช่น ททบ.5 คลื่นวิทยุ เป็นต้น และ 3. กิจการที่กองทัพลงทุนในบริษัทเอกชนโดยตรง ทั้งที่อยู่และไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
“ระยะเวลากว่า 1 ปีครึ่งในการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แม้จะยังไม่ใช่รายงานที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะหลายๆ เรื่องก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ ไม่ได้รับการเปิดเผยจากกองทัพ แต่นี่ก็น่าจะเป็นข้อมูลที่เข้าถึงได้มากที่สุด ลึกที่สุด นับตั้งการดำรงอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าธุรกิจกองทัพเป็นต้นมา ทั้งนี้ ในการพิจารณาก็มีตัวแทนจากทุกพรรคการเมือง ตัวแทนจากทุกเหล่าทัพ ได้มาร่วมกันก่อนที่จะมีมติรับรองรายงานเล่มนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้น เมื่อสภาฯ ชุดนี้ยังคงอยู่ ผมก็อยากเรียกร้องให้นำผลการศึกษาที่เสร็จสิ้นแล้วนี้เข้าสู่การพิจารณาโดยเร็ว เพื่อที่จะได้ส่งต่อให้รัฐบาล และดูว่ารัฐบาลชุดนี้จะเอาอย่างไรกับเรื่องธุรกิจกองทัพ ที่เป็นประตูบานหนึ่งซึ่งจะเปิดไปสู่การปฏิรูปกองทัพ” เชตวันกล่าว