กกต. กับความท้าทายสังคมไทย!
ผลงานของกกต.ในเรื่องการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ประชาชนรอคอยมา
8 ปี ถือว่าสอบตกในสายตาประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเลือกตั้งนอกประเทศและในประเทศ ไม่เรียบร้อย
ไม่น่าเชื่อถือ ไม่โปรงใส ตรวจสอบไม่ได้
แม้จนบัดนี้เราขอให้เอาคะแนนทุกหน่วยขึ้นเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบก็ไม่ (กล้า)
ทำ หรือทำไม่ได้ เพราะจะมีผลฟ้องร้องตามมามากมาย
ประการต่อมา ผลงานการตรวจสอบ
กกต.ก็ถูกร้องเรียนที่มีลักษณะเลือกปฏิบัติ, ไม่ทันเวลา
และมุ่งจัดการกับพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามคสช.
แต่การตรวจสอบประเด็นที่ฟ้องร้องพรรคของคสช.เรื่องกลับหายเงียบ
ประการต่อมาล่าสุด
คือการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำลังโด่งดังขณะนี้ กกต.ยังยืนยันให้พรรคเล็ก ๆ ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง
ๆ ที่ได้คะแนนไม่ถึง 7 หมื่นคะแนน
ซึ่งตามหลักการใหญ่สามารถได้ส.ส.ที่พึงมี 1 คน
(ตามการคำนวณที่ตรงกันทุกฝ่ายตามมาตรา 91 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา
128 (2)) โดยดันทุรังคำนวณไปเรื่อย ๆ จนได้ส.ส.จากพรรค 26 พรรค ทั้งที่พรรคเล็ก ๆ
ไม่มีสิทธิได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเมื่อยึดหลักรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และแม้แต่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.
มาตรา 128
ดิฉันวิเคราะห์แล้ว สาเหตุที่กกต.กล้าตัดสินใจแบบนี้ ทั้งที่มีคนทักท้วงกันทั่วประเทศคือ
นักวิชาการ, นักกฎหมาย, ประชาชนทั่วไป
ล้วนค้านการละเมิดรัฐธรรมนูญของกกต.ทั้งสิ้น
และไม่มีใครเขาคิดแบบที่กกต.คิด
ประการแรก
กกต. เชื่อกรธ. เชื่อสนง.กกต.จริง ๆ
ในการคำนวณว่านี่เป็นสูตรเดียวเท่านั้นที่ถูกต้องตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.
มาตรา 128 และศาลรัฐธรรมนูญก็ยืนยันว่าไม่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 91
ประการที่สอง กกต. เลือกผลการคำนวณที่ให้คุณและให้โทษแก่ฝักฝ่ายในการตั้งรัฐบาล เพราะคสช.ก็ถึงทางตันเมื่อผลการเลือกตั้งถ้าใช้สูตรคำนวณบัญชีรายชื่อแบบอื่นเท่ากับว่าพรรคที่หนุนคสช.ไม่อาจตั้งรัฐบาลได้ จึงต้องใช้สูตรที่มีตัวช่วยจากพรรคเล็ก
ประการที่สาม ความกล้าท้าทายสังคมไทยและโลกของนักกฎหมายและเนติบริกรประเทศไทย
ที่คิดว่าสามารถใช้อภินิหารทางกฎหมายโดยการตีความและบังคับใช้ได้ตามใจชอบอย่างได้ผลมาแล้วในหลายกรณี จึงย่ามใจ
คิดใช้อภินิหารสูตรคณิตศาสตร์คำนวณจำนวนส.ส.โดยไม่ยึดหลักการ ทั้งกฎหมาย
รัฐธรรมนูญ และหลักการคณิตศาสตร์ที่ถูกต้อง
คุณจะเอาพรรคสอบตกแล้วกลับมาปัดเศษให้สอบผ่านได้อย่างไร?
สิ่งที่ กกต. กำลังท้าทาย คือ
1) ท้าทายประชาชนไทย
ในการทิ้งคะแนนเสียงประชาชนที่เลือกพรรคใหญ่ที่สอบผ่านแล้วกว่าล้านคะแนน ไปให้อำนาจคะแนนเสียงพรรคเล็กที่สอบไม่ผ่าน
71,000 คะแนนไปแล้ว โดยอ้างปัดเศษทศนิยม
ประชาชนจะคิดอย่างไร?
ยอมได้ไหม?
เป็นการโกงอำนาจประชาชนดื้อ ๆ
2) ท้าทายพรรคการเมืองที่เสียจำนวนส.ส.ไปเพราะวิธีคิดที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญ และท้าทายพรรคการเมืองที่เห็นว่าไม่เป็นธรรม เมื่อ 3 หมื่นกว่าเสียงได้ส.ส. 1 คน
นี่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการได้ส.ส. 1 คนเสียแล้ว
พรรคอื่นก็ต้องฟ้องร้องประเด็นนี้เหมือนในต่างประเทศ ที่ศาลรัฐธรรมนูญให้เพิ่มจำนวนส.ส.ตามมาตรฐานขั้นต่ำใหม่ ดังนั้นส.ส.บัญชีรายชื่อก็ต้องบวมไปกว่า 300 คน
ไม่ใช่ 150 คน
กกต. และ กรธ. จะรับผิดชอบไหวไหม?