วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ศาลให้ประกันตัว 13 ผู้ชุมนุมม็อบรีเด็ม วงเงินคนละ 40,000 บางส่วนต้องติดกำไล EM ส่วน"สมยศ"วงเงิน 80,000 ติดกำไล EM 30 วัน ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

 


ศาลให้ประกันตัว 13 ผู้ชุมนุมม็อบรีเด็ม วงเงินคนละ 40,000 บางส่วนต้องติดกำไล EM ส่วน"สมยศ"วงเงิน 80,000 ติดกำไล EM 30 วัน ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร


วันนี้ (14 พ.ค. 64) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตามที่ พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ จูสกูลวิจิตร์ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาคดีชุมนุมหน้าศาลอาญา รวม 2 สำนวน สำนวนแรก คดี ฝ.547/2564 ผู้ต้องหา 13 คน ประกอบด้วย นายศุภกิจ บุญมหิทานนท์ อายุ 19 ปี, นายวีรภาพ วงษ์สมาน อายุ 18 ปี, นายปรณัท น้อยนงค์เยาว์ อายุ 25 ปี, นายพัชรวัฒน์ โกมลประเสริฐกุล อายุ 18 ปี, น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ อายุ 22 ปี (แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก), ว่าที่ ร.ต.อิทธิกร ทรัพย์แฉ่ง อายุ 21 ปี, น.ส.ปรัชญา สานจิตสัมพันธ์ อายุ 24 ปี, น.ส.สุทธิตา รัตนวงศ์ อายุ 23 ปี, นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง อายุ 22 ปี,นายศรัณย์อนุรักษ์ปราการ อายุ 21 ปี, นายชาติชาย แกดำ อายุ 37 ปี, นายชนกันต์ เคืองไม่หาย อายุ 19 ปี และนายยงยุทธ ฮังนนท์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-13


ส่วนสำนวนที่สองยื่นฝากขัง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อายุ 59 ปี แนวร่วมม็อบคณะราษฎร คดี ฝ.548/2564 ยื่นฝากขัง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อายุ 59 ปี แนวร่วมกลุ่มราษฎร ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 732/2564 ลงวันที่ 11 พ.ค. 2564


ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณา, ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้กระทำผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไปแต่ผู้กระทำไม่เลิกมั่วสุม, ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่แออัดเกินกว่า 20 คน โดยไม่ได้รับอนุญาตในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคติดต่อ, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา  198, 215, 216 ประกอบมาตรา 83 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 มาตรา 9, 18 พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34 ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 25 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2564 พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4,9


โดยเป็นการฝากขังครั้งแรกมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 - 25 พ.ค. 2564 เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยานอีก 10 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ และประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา


กระทั่ง 18.40น.ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวทั้งหมด โดยศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายสมยศ ผู้ต้องหา ระหว่างสอบสวนโดยทำสัญญาประกันราคาประกันคนละ 8 หมื่นบาท ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรยกเว้นได้รับอนุญาตจากศาลให้ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (กำไลอีเอ็ม) และห้ามออกนอกเขตกรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรี, ปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ


สำหรับนางสาวสุทธิตา ผู้ต้องหาที่ 8 เป็นพยาบาล และนายโสภณ ผู้ต้องหาที่ 9 เป็นนักศึกษาแพทย์ ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวนโดยตีราคาประกันคนละ 40,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล


ส่วนนายปรณัท ผู้ต้องหาที่ 3 นางสาวจุฑาทิพย์ ผู้ต้องหาที่ 5 ว่าที่ร้อยตรีอิทธิกร ผู้ต้องหาที่ 6 นางสาวปรัชญา ผู้ต้องหาที่ 7 และ นายชาติชาย ผู้ต้องหาที่ 11 กลุ่มนี้เป็นนักศึกษาศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวนโดยตีราคาประกันคนละ 40,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล พร้อมกับให้แจ้ง สตม.ทราบ และให้มีการแต่งตั้งผู้กำกับดูแลด้วย โดยให้นำผู้กำกับดูแลมาไต่สวนในวันที่ 18 พ.ค. นี้เวลา 13.30 น


สำหรับนายศุภกิจ ผู้ต้องหาที่ 1 ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยติดกำไล EM พร้อมวางหลักประกันจำนวน 40,000 บาทและกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามออกนอกเคหสถานเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. โดยให้ติดกำไล EM มีกำหนด 30 วัน


นายวีรภาพ ผู้ต้องหาที่ 2 ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยติดกำไล EM พร้อมวางหลักประกันจำนวน 40,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามออกนอกเขต กทม., นนทบุรี โดยให้ติดกำไล EM มีกำหนด 30 วัน


นายพัชรวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 4 และนายศรัณย์ ผู้ต้องหาที่ 10 ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยติดกำไล EM พร้อมวางหลักประกันจำนวน 40,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามออกนอกเขต กทม. โดยให้ติดกำไล EM มีกำหนด 30 วัน


นายชนกันต์ ผู้ต้องหาที่ 12 ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยติดกำไล EM พร้อมวางหลักประกันจำนวน 40,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล โดยให้ติดกำไล EM มีกำหนด 30 วัน โดยให้อยู่ในเคหสถาน เวลา 23.00 น.ถึง 04.00 น


นายยงยุทธ ผู้ต้องหาที่ 13 ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยติดกำไล EM พร้อมวางหลักประกันจำนวน 40,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามออกนอกเขต กทม., สมุทรปราการ โดยให้ติดกำไล EM มีกำหนด 30 วัน


โดยให้ผู้ต้องหา มาติดกำไล EM ในวันจันทร์ที่ 17 พ.ค.นี้.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #REDEM