วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

"คณะราษมัม" "ยืนหยุดขัง" 1.12 ชม. ครั้งที่ 4 จี้ปล่อยนักโทษการเมือง ด้านแม่เพนกวิน ยัน ยังไม่ได้พูดคุยกับลูก งงไม่ให้อยู่รามาฯ ลั่นพร้อมสู้สุดชีวิต จะไม่ยอมให้ลูกเป็นอะไรไป

 


"คณะราษมัม" "ยืนหยุดขัง" 1.12 ชม. ครั้งที่ 4  จี้ปล่อยนักโทษการเมือง ด้านแม่เพนกวิน ยันยังไม่ได้พูดคุยกับลูก งงไม่ให้อยู่รามาฯ ลั่นพร้อมสู้สุดชีวิต จะไม่ยอมให้ลูกเป็นอะไรไป


วันนี้ (8 พ.ค. 64) เวลา 17.00 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ริมถนนงามวงศ์วาน "คณะราษมัม" มารดาของนักกิจกรรมทางการเมือง ที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ นำโดย นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นางอรวรรณ แก้ววิบูลย์พันธุ์ มารดาของ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะ บอตทอมบลูส์, นางมาลัย นำภา มารดาของ ทนายอานนท์ นำภา, นางยุพิน มณีวงศ์ มารดาของ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง พร้อมด้วยพี่สาว และ นางสุริยา สิทธิจิรวัฒนกุล มารดาของ น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง ซึ่งแม้บุตรสาวจะได้รับการประกันตัวชั่วคราว แต่ยังคงมาร่วมยืนด้วย โดยมีบิดาของน.ส. วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา ที่วานนี้ได้รับการประกันตัวและถูกปล่อยตัวจากทัณฑสถานหญิงธนบุรี ก็ได้มาร่วมกิจกรรมแจกน้ำดื่มด้วย 


ขณะที่พี่สาวทั้ง 2 ของรุ้ง - ปนัสยา นำคุกกี้และบราวนี่ รูปสายรุ้งที่ทำขึ้นเอง ระบุข้อความบนหีบห่อว่า “#ฟ้าหลังฝนมีรุ้งเสมอ” มาแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมกิจกรรม


โดยทั้งหมดร่วมทำกิจกรรม ยืน 1.12 ชั่วโมง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 แล้ว เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง ให้ออกมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม #คืนสิทธิประกันตัวให้ประชาชน


ทั้งนี้ภายใต้สถานการณ์โควิด 19 ได้มีการตั้งโต๊ะปฐมพยาบาล โดยมีเครื่องวัดอุณหภูมิ บริการเจลล้างมือ และสเปรย์แอลกอฮอล์ด้วยการฉีดพ่นตามร่างกาย และผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องสวมแมสทุกราย


โดยบรรยากาศ เริ่มด้วยเวลา 17.00 น. มีประชาชนทยอยมาเข้าร่วมมากกว่า 150 คน โดยยืนเรียงแถวหน้ากระดาน ซ้อนกัน 2 แถว บริเวณหน้าประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยาวถึงทางเดินเท้าริมรั้วที่ขนานกับถนนงามวงศ์วาน โดยมีการถือป้ายภาพและข้อความเรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องขัง เช่นเดียวกัน


อีกทั้งยืนชูป้ายข้อความ และภาพแกนนำที่ถูกคุมขัง ทั้งจากลายเส้นของศิลปะปลดแอก รวมถึงภาพที่วาดขึ้นมาเอง โดยมีข้อความ อาทิ “คืนลูกให้แม่” บางรายถือภาพนายอานนท์ นำภา พร้อมข้อความ "คืนลูกให้แม่ คืนพ่อให้ลูกสาว คืนอิสรภาพให้ทุกคน ได้โปรดเมตตา  Free Our Friends" "สิทธิประกันตัว = สิทธิมนุษยชน" "ขอให้ความรักของแม่ ความรักของมวลชน เอาชนะความอยุติธรรม" "ไหนบอกว่าความจริงเป็นไม่สิ่งไม่ตายไง" "คืนความยุติธรรมให้ลูกหลานเรา" "อย่าลืมความเป็นมนุษย์" "ความเป็นธรรมอยู่ไหนใครรู้บ้าง" บางรายนำร่มตกแต่งด้วยโมบายข้อความ อาทิ "ปล่อยเพื่อนกู" "คืนเสรีภาพให้ประชาชน" "หยุดคุกคามประชาชน" 


สำหรับวันนี้ ผศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา  อาจารย์คณะ สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ตัวแทนจากกลุ่ม "หมู่บ้านทะลุฟ้า" และประชาชนเบียร์ มาร่วมยืนด้วย


ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง คอยดูแลการจราจร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย เฝ้าด้านขวามือของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รวมถึงฝั่งตรงข้าม ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบหลายนาย เฝ้าสังเกตการณ์พร้อมบันทึกภาพและคลิปเป็นระยะ


โดยนางสุรีย์รัตน์ มารดานายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน กล่าวถึงกรณีที่ นายพริษฐ์ถูกส่งตัว จากโรงพยาบาลรามาธิบดี กลับมารักษาที่ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ว่า มีการนำตัว เพนกวินไปโรงบาลราชทัณฑ์ โดยที่ตนก็ไม่ทราบ ถามใครก็ไม่รู้ ถามทนาย ก็ไม่เห็นว่ามีการพาเพนกวินมา รพ.ราชทัณฑ์จริง แต่วันที่ 6 พ.ค. มีปัญหาที่ว่า เพนกวินยังไม่ได้ตรวจโควิด ตนจึงรีบมาที่โรงพยาบาล มาค้นหาชื่อเพนกวินที่นี่ในระบบ ว่ามาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้จริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่บอกว่า หาไม่เจอ สักพักหนึ่งก็บอกว่า "คนละระบบ" ก็จบไป


นางสุรีย์รัตน์ กล่าวต่อไปว่า ตนกำลังพยายามประสานงานให้ได้เข้าเยี่ยมลูกชายให้ได้ เพื่อจะได้ปรึกษากับทนายและจะได้รู้ว่าลูกชายอาการเป็นอย่างไร เพราะเพนกวินเปิดวันทำการมาก็จะต้องไต่สวนเลย ซึ่งตนเงียบไม่ได้ 


มาวันที่ 7 พ.ค. มีผลตรวจโควิดมายื่น แต่ก็มีเหตุกักตัว ให้เลื่อนไต่สวนไปวันที่ 11 พฤษภาคม เราไม่เคยเจอเพนกวิน ได้ยินเเต่บอกว่า อยู่โรงพยาบาล แม่คิดถึงจึงมาหาที่โรงพยาบาลอีก เขาก็บอก "เข้าไม่ได้" เราก็เลยไปขอว่า แค่เยี่ยมลูกแบบไม่ต้องเอาลงมาเจอ เพราะเราก็รู้เรื่องโรคระบาด เราขอแค่คุยโทรศัพท์ก็โอเคเเล้ว ให้ได้ยินเสียงว่าเป็นเพนกวิน หรือตอนนี้มีวิดิโอคอนเฟอเรนซ์คุยกันก็ได้ เพราะเราเเค่อยากได้เจอ ได้ยินเสียงลูก ทีนี้เจ้าหน้าที่ก็พยายามคุย สุดท้ายบอกว่า "ไม่ได้ ขณะนั้นประมาณบ่ายสองกว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร คงเหนื่อยมาก แล้วคิดไม่ออก ก็เลยกลับบ้าน เพราะก่อนหน้านั้นวันที่ 6 พฤษภา มาถามหา ผอ.โรงพยาบาล เขาบอกว่า ผอ.ไปประชุมข้างนอก จึงให้ต่อสาย ไล่ระดับลงมาว่าใครอยู่บ้าง ก็บอกว่า ไปหมดทั้งยวง แม่จึงถามว่า ถ้าไม่อยู่ทั้งหมด เวลาเกิดอะไรขึ้นโรงพยาบาลจะทำอย่างไร เขาบอกว่า "ก็ยังไม่มีอะไรเกิดอะไรขึ้น" เขาไม่ให้เราเยี่ยม บอกว่า เราขัดหลักปฏิบัติ ทำไม่ได้ หลังจากนั้นคุยกับทนาย ทนายบอกว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า "ไม่ได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้เยี่ยม" แม่ก็เลยค้นหาเบอร์โทรฯ เพื่อคุยกับ ผอ.โรงพยาบาล แล้วบอกว่า แม่ต้องการยืนยัน อยากรู้ว่าเพนกวินยังปลอดภัยดีหรือไม่ เขาก็อ้างสถานการณ์โควิดเหมือนเดิม เเม่บอกว่าให้ยื่นโทรศัพท์เข้าไป ถ้ากลัวก็ใส่ถุงมือ ฉีดแอกอฮอล์ ไม่ต้องให้ออกมาจากห้อง เขาบอกว่า จะติดต่อกลับมา จะแก้ไขให้เร็วที่สุด สักพักก็ให้คนอื่นติดต่อกลับมาว่า "ให้เข้าเยี่ยมได้ เเต่ต้องมาให้ทันในเวลาราชการ" ซึ่งตอนนั้น 4 โมงกว่า อีก 15 นาทีก็หมดเวลาเข้าเยี่ยม ตอนนั้นแม่กลับบ้านแล้ว บ้านอยู่ไกลมาก เลยบอกว่า 15 นาที ยังไงก็ไปไม่ทัน  นางสุรีย์รัตน์กล่าว


นางสุรีย์รัตน์กล่าวต่อว่า ถ้าเกิดการเข้าใจผิด หรือเจ้าพนักงานเข้าใจผิด ก็ต้องชี้เเจง แม่ยังไม่ได้เจอหรือพูดคุยกับเพนกวินว่าสบายดีหรือไม่ แต่เห็นว่าจากนั้นราชทัณฑ์แถลงการณ์ ยอมรับว่า เพนกวินอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ อย่างน้อยก็ต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ต้องเป็นคนรับผิดชอบที่พาเพนกวินมาที่นี่ ซึ่งไม่เข้าใจ


เพราะพริษฐ์กลัวการเข้ามาใน รพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งตนมองว่าการที่ย้ายลูกชายกลับมา รพ.ราชทัณฑ์นี้เปรียบเสมือนผู้ใหญ่รังแกเด็ก ซึ่งการย้ายมาครั้งนี้ นายพริษฐ์ไม่ทราบว่าจะต้องถูกย้าย ถ้าหากแม่ไม่ออกมาตามหา ถ้าสื่อไม่ได้นำเสนอข่าว นายพริษฐ์จะถูกตัดขาดจากการข่าว ซึ่งวานนี้ตนขอร้องว่าไม่ให้เจอตัวลูกชายก็ได้เพราะเข้าใจในสถานการณ์โควิด ขอเพียงแค่ได้คุยหรือได้ยินเสียงลูกก็ได้ ซึ่งทาง รพ.แจ้งว่าทำไม่ได้ เพราะผิดหลักฏิบัติ ซึ่งขณะนี้ได้รับแจ้งเพียงแต่ข่าวสารจากกรมราชทัณฑ์เท่านั้น ถ้าหากตนไม่ไปตามหาลูกชายว่าอยู่จริงไหม ลูกชายของตนก็จะถูกโดดเดี่ยว


ซึ่งการไต่สวนคำร้องของปล่อยตัวชั่วคราวที่จะถึงในวันอังคารนี้ ตนยังไม่รู้ว่าทางการจะหาสาเหตุอื่นมาอ้างหรือไม่ ซึ่งตนติดว่าไม่ควรจะมีการเลื่อนอีกแล้ว เพราะวินาทีการเลื่อนคือนาทีชีวิตของคน ซึ่งตอนนี้เพนกวินกำลังอดอาหารเหมือนเดิม ซึ่งในวันจันทร์นี้ตนจะพยายามขอเข้าพบลูกชาย เพราะตนสู้สุดชีวิต จะไม่ยอมให้ลูกตายต่อหน้าโดยที่ตนไม่ทำอะไรให้มากที่สุด ขอให้พี่น้องประชาชนให้จับตาดูว่าวันที่ 11 นี้จะไม่มีการเลื่อนอีก ซึ่งเราเป็นห่วงเด็กทุกคนที่ถูกจองจำเพราะอาจจะติดโควิด ทั้งที่เด็กทุกคนยงยังไม่ได้มีความผิด ไม่ใช่อาชญากร ไม่ได้ไปจี้ปล้นหรือขนแป้ง นางสุรีย์รัตน์กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คณะราษมัม #ยืนหยุดขัง


ประมวลภาพ