ม็อบ 14 พฤศจิกา ส่งเสียงสภาจงฟังก่อนยุติชุมนุม เน้นย้ำให้มวลชนจับตาดูการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐสภาในสัปดาห์หน้าด้วย
#MobFest ที่จัดกิจกรรมในวันที่ 14 พ.ย. 63 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เวลาประมาณ 00.40 น. (วันที่ 15 พ.ย. 63 ) กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก (เดิมคือกลุ่มผู้หญิงปลดแอก) ประกาศยุติเวทีบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งตรงข้ามร้านแมคโดนัลด์ ขณะที่เวทีบริเวณแยกผ่านฟ้ายุติลงเช่นเดียวกัน
จากนั้นเวลาประมาณ 00.50 น. มีผู้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า งานยังไม่ยุติ และขอให้มารวมตัวกันหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะมีการปิดงานอย่างเป็นทางการ
ต่อมากลุ่มนักศึกษาอาชีวะต่างตะโกนบอกต่อ ๆ กัน ให้ช่วยกันนำรั้วเหล็กย้ายกลับไปวางเรียงในจุดเดิมรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ต่อมาสิรภพ อัตโตหิ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง คือ
1. ประยุทธ์และองคาพยพต้องลาออก
2. แก้รัฐธรรมนูญใหม่
3. ปฏิรูปสถาบัน
จากนั้น ได้ขอให้ทุกคนนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์ผ่านสื่อโซเชี่ยลของตนเอง ถึงข้อเรียกร้องส่วนตัว 3 ข้อแล้วติดแฮชแท็ก #สภาจงฟัง
สิรภพ ได้กล่าวต่อไปว่า วันนี้ที่เสื้อแเดงได้ศักดิ์ศรีคืนมา คือชัยชนะ เสียงของคนทุกภาคส่วนได้รับการได้ยินก็คือชัยชนะ ขอให้เป็นแรงใจให้ทุกคนหายเหนื่อย สู้กันต่อไป สิ่งที่ไม่เคยหมดจากประเทศคือนักสู้ กาลเวลาเปลี่ยนไปเท่าไร แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ คนเท่ากัน เป็นสัจธรรม แสงสว่างไม่ไกล ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม และกาลเวลาอยู่ข้างเรา เราจะเขียนอนาคตร่วมกัน
จากนั้นผู้ชุมนุมต่างชู 3 นิ้ว และพูดพร้อมกันว่า “สภาจงฟัง” 3 ครั้งด้วยกัน แล้วช่วยกันปลดป้ายผ้าสีขาวที่เขียนข้อความเสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ และนำไปปิดรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมาออกจากอนุสารีย์ประชาธิปไตย และแยกย้ายกันกลับบ้าน เวลาประมาณ 01.50 น.
ทั้งนี้ได้มีการเล่นเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ผลงานจิตร ภูมิศักดิ์ คลอตลอดเวลา โดยมีไผ่ ดาวดิน และวงสามัญชนเล่นดนตรีด้วย
ประมวลภาพ