ยูดีดีนิวส์ : 29 มี.ค. 62 ในการทำ Facebook Live ของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ วันนี้ ได้กล่าวในประเด็น : การแถลงข้อมูลของ กกต. ที่สับสน!
อ.ธิดากล่าวว่า "กกต.ชุดนี้รวมถึงข้าราชการด้วย ต้องปรับทัศนคติใหม่ การทำงานต้องเน้นความโปร่งใสและการตรวจสอบได้ของประชาชน เพราะผลของการเลือกตั้งมีความสำคัญยิ่ง และมันจะน่าเชื่อถือก็ต่อเมื่อกกต.ต้องมีความโปร่งใส โดยเฉพาะเป็นกกต.ที่มาจากการแต่งตั้งของรัฏฐาธิปัตย์ และยามที่ผู้มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์กระโดดเข้าสู่สนามการเลือกตั้งเสียเอง"
ดังนั้นความระแวงแคลงใจ อย่าว่าแต่คนในประเทศ แม้กระทั่งคนต่างประเทศก็จะกดดันกกต.ไม่ใช่น้อย แต่คนไทยใจดีและได้ให้โอกาส กกต. ทำงาน เมื่อมาถึงตอนนี้เราก็ได้แต่พากันอธิบายว่า ท่านจงใจหรือเปล่าที่ทำให้เกิดปัญหาแบบนี้!
หรือเป็นข้อบกพร่องโดยสุจริต สังคมย่อมเกิดความสงสัย เพราะเวลาคนแคลงใจว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต ไม่โปร่งใส ไม่เที่ยงธรรม ก็คือการทอดเวลาการประกาศผลที่ยาว และเกิดปรากฎการณ์ของความไม่น่าเชื่อถือขึ้นมากมาย
นานาประเทศจึงพยายามออกแถลงการณ์กดดันกกต.
การแถลงข้อมูลของกกต.ในวันที่ 24 มี.ค. และวันที่ 28 มี.ค. ให้ข้อมูลอันเป็นที่น่าสับสนต่อประชาชน ยิ่งทำให้สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีก
อ.ธิดา ได้สรุปสิ่งที่ กกต. ต้องทบทวน ตรวจสอบข้อมูลและปรับทัศนคติ คือ ตัวเลขที่ กกต. ต้องแถลงทั้งในระดับหน่วย, ระดับเขต และระดับประเทศในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1) จำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงในประเทศไทย ควรเป็นตัวเลขเดียวกันไม่ว่าจะแถลงข่าวกี่รอบ และควรเป็นตัวเลขที่ กกต. รู้ชัดเจน (ไม่ต้องนับใหม่นะ)
2) จำนวนบัตรที่พิมพ์ทั้งหมดหรือได้รับมาทั้งหมดจำนวนกี่ใบ? ควรแจ้งและแสดงว่ามีบัตรเหลือเท่าไร? ได้ใช้ไปเท่าไร? ต้องมีบัตรทุกประเภท เป็นพยานหลักฐานได้ทั้งบัตรที่เหลือ, บัตรดี, บัตรเสีย, บัตรผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน
3) จำนวนผู้มาใช้สิทธิ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแถลงเมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง เป็นตัวเลขที่ไม่ควรแตกต่างจาก 65.96% เป็น 74.69% ต่างกันถึง 8.73% คิดเป็น 4,493,145 คน ทำให้ความน่าเชื่อถือในการจัดการเลือกตั้งแทบไม่เหลือ และประเมินการใช้สิทธิของประชาชนผิดไปมาก เสียทั้งเครดิต กกต. และเครดิตประชาชนผู้มาใช้สิทธิ
4) ความสัมพันธ์ระหว่าง "ผู้ออกมาใช้สิทธิ" กับ "จำนวนบัตรที่ใช้" ในแต่ละหน่วย, เขต และทั่วประเทศ ต้องเท่ากัน
ถ้าจำนวนบัตรที่ใช้น้อยกว่าผู้ออกมาใช้สิทธิ แสดงว่ามีผุ้เอาบัตรออกไปจากคูหา จะเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้มาใช้สิทธิ ต้องเป็นบัตรหาย ไม่ใช่บัตรเขย่ง และเป็นที่มาของการเกิดการทุจริต "เวียนเทียน" เอาบัตรออกไปกาข้างนอกแล้วให้คนเอาบัตรใหม่ออกมาให้หัวคะแนนกา โดยหย่อนบัตรที่กาโดยหัวคะแนนในคูหา
ถ้าจำนวนผู้ใช้สิทธิน้อยกว่าจำนวนบัตรที่ใช้ไป แสดงว่ามีบัตรเกินกว่าผู้ใช้สิทธิ มาเพิ่มคะแนนให้ผู้สมัคร เป็นบัตรผี
5) ความสัมพันธ์ระหว่าง "บัตรดี" กับ "คะแนนรวมทุกพรรค" ต้องเท่ากัน ข้อมูลเบื้องต้นจากการแถลงแสดงถึงความสับสน ข้อมูลจาก Voice TV ในวันที่ 24 มี.ค. และวันที่ 28 มี.ค. แม้ข้อมูลล่าสุดจะมีการปรับปรุง ทำให้ไม่แตกต่างกันมาก แต่ก็มีบัตรหายไป 9 ใบ และคะแนนเกินบัตรดีอยู่เล็กน้อย
ขอเรียกร้องให้แสดงหลักฐานคะแนนผู้สมัคร จำนวนบัตรต่าง ๆ บัตรดี, บัตรเสีย, บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน, บัตรที่เหลือในระดับหน่วย ระดับเขต
ส่วนกลางกกต. มีการนับใหม่, ทบทวนใหม่, ตรวจสอบใหม่ ในเขตและหน่วยที่ผิดปกติ
ก่อนที่จะมีการแจกใบส้ม, ใบแดง, ใบดำ
ก่อนจะเลือกตั้งซ่อม
เพราะความไม่เชื่อมั่นในตัวเลขที่ กกต. แถลงนั้นมีมากเกินกว่าที่จะยอมรับการลงโทษจาก กกต. ได้