วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2563

ธิดาถาวรเศรษฐ : ข้อบกพร่องและการไร้ความสามารถของรัฐบาล ในกรณีโรคระบาด COVID 19


'ธิดา' แจงข้อบกพร่องกรณี COVID 19 รัฐบาลไร้ความสามารถ
ยูดีดีนิวส์ : 6 มี.ค. 63 ในเพจ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อการไร้ความสามารถของรัฐบาลในการรับมือสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID 19 มีข้อความว่า

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ข้อบกพร่องและการไร้ความสามารถของรัฐบาล ในกรณีโรคระบาด COVID 19

ไม่เข้าใจเรื่องโรคระบาดไวรัสว่าจะระบาดได้ทั่วโลกในยุคโลกาภิวัตน์ ในการเดินทาง กลัวประเทศจีนจะโกรธเอา หรือกลัวนักท่องเที่ยวจีนจะไม่มา!

จึงไม่มีมาตรการรองรับการเดินทางของคนออกจากประเทศจีนในตอนระบาดแรก ๆ แม้แต่งด visa on arrival (คือวีซ่าที่มาประทับที่สนามบิน) ก็ไม่ยอมงด

แม้กระทั่งบัดนี้ ก็ไม่กล้าระงับการเดินทางเข้าออกประเทศที่มีการระบาดโรคมาก

ผ่านมากว่า 2 เดือน จึงเพิ่งออกมาตรการควบคุมตรวจสอบการเดินทางไป-กลับยังประเทศกลุ่มเสี่ยง 4 ประเทศ ต้องรอให้จีนประกาศก่อนหรือไร ตอนนี้คนจีนจากไทยเขายังไม่ให้เข้าประเทศเลย ประเทศไทยกลายเป็นสวรรค์ของผู้เสี่ยงติดเชื้อที่จะมาต่อสายการบินและแหล่งพักพิงไปเสียแล้ว!

พบตัวเลขคนเดินทางจากประเทศเสี่ยงถึงกว่าแสนคน ถือเป็นลำดับ 1 ของโลกเลย!

แล้วคนไข้ที่รักษามีค่าใช้จ่ายต่อคนนับล้าน ล้วนเป็นคนชาติอื่น ๆ หรือคนไทยก็ติดมาจากนักท่องเที่ยวหรือเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

ไร้มาตรการรองรับและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ไร้วิสัยทัศน์ การสื่อสาร ประสานงานระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ของรัฐ ไม่รู้ว่าควรทำอะไรก่อน - หลัง

ห่วงเงินจากนักท่อเที่ยว (จนไม่มีนักท่องเที่ยว)
"กลัว" หรือ "เชื่อมั่น" ประเทศจีนมากเกินไป

ไม่มีความรู้ความสามารถในการบริหารงานในสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรงขนาดนี้ รัฐมนตรีที่ดูแลการท่าอากาศยาน ท่าเรือ และช่องทางเข้าออกชยแดน รัฐมนตรีสาธารณสุข ต้องสามารถนำพาคณะแพทย์ไทยที่มีความสามารถอยู่แล้ว (เก่งมากด้วย หาไม่คงตายเป็นเบือ)

มีมาตรการรองรับการตรวจผู้ติดเชื้อ ผู้เสี่ยงกับการติดเชื้อ มาตรการตรวจเชื้อให้ได้รวดเร็ว

เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่ผู้นำเก่งนั้นเทียบไม่ได้เลย!!!

ลองเทียบกับ Audrey Tung รัฐมนตรีดิจิทัลของไต้หวัน ที่ใช้ Digital Technology ประเทศเกาหลีที่พัฒนาการค้นหาตรวจผู้ติดเชื้อและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ขนาดผู้มาตรวจนั่งอยู่ในรถส่วนตัว รถแท็กซี่ได้ ตัวเลขค้นพบจึงสูงอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการขยายตัวของการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว

แม้กระทั่งจีนก็ออกมาตรการเด็ดขาด ตามที่องค์การอนามัยโลกมีรายงาน เวียดนาม กัมพูชา ก็ทำได้ดี

แล้วยังมาขาย มาแจก "หน้ากากอนามัย" ที่หน่วยงาน (เพื่อหาเสียงหรือ?) มันใช่ธุระที่จะมาทำหรือเปล่า?

แจกเงินแสนล้านทำไม???  ทำไมไม่เอามาใช้ในภาวะฉุกเฉิน ช่วยแพทย-พยาบาล ให้มีเครื่องมือแพทย์ หน้ากากอนามัยใช้เพียงพอ

ทำแต่เรื่องกาก ๆ ไม่เข้าท่า ประชาชนจะตายกันหมด!!!

คิดแต่จะหาเสียง  แจกเงิน  หวังให้ประชาชนได้เงินโดยไม่ต้องทำงานสร้างตัวเอง

ไม่รักประชาชน ไม่รู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดในยามนี้
สมควรแล้วที่เยาวชนจะ "ไม่ศรัทธา"

แม้แต่ธนาคารโลกยังรายงานตัวเลขคนจน (ภายใต้เส้นยากจน) มากขึ้นก็ในช่วง 5-6 ปีนี้แหละ ทั้งในอดีตคนจนใต้เส้นยากจนลดลงมาเป็นลำดับจนเกือบจะเป็นศูนย์แล้ว จาก 30 ล้านคน จนเหลือ 4.85 ล้านคน ตอนนี้กลับเพิ่มมาเป็น 6.7 ล้านคน โดยเฉพาะปี 2559 และ 2561 อัตราความยากจนของประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 7.21% เป็น 9.85% ตามลำดับ

จึงเป็นคำพูดว่า ถ้าเรามีผู้นำรัฐบาล งจพกตม