"คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน"
ดิฉันเคยอ้างไว้แล้วว่า ประโยคข้างต้นนี้จะเป็นวรรคทองของประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมและตุลาการไทย ถัดมาจากวรรคทองที่ว่า
"ชนใดเขียนกฎหมายก็แน่ไซร้เพื่อ (ชน) ชั้นนั้น"
การทำอัตวินิบาตกรรมของท่านผู้พิพากษา คณากร เพียรชนะ นั้นก็เป็นเช่นเดียวกับ ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ และ คุณสืบ นาคะเสถียร เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชนให้หันมาสนใจแก้ปัญหาที่หนักหน่วงในเรื่องนั้น ๆ
กรณีลุงนวมทอง คือการต่อต้านรัฐประหาร
กรณีคุณสืบ นาคะเสถียร คือการคุ้มครองสัตว์ป่าและป่าไม้
กรณีท่านผู้พิพากษาคณากร คือปัญหาความยุติธรรมของประชาชน ไม่ให้คำพิพากษาถูกแทรกแซง ถูกสั่งการโดยผู้บังคับบัญชา ท่านไม่ปรารถนาจะลงโทษชาวบ้านที่ไม่มีหลักฐานกระทำความผิดจริง
นี่ไม่ใช่เรื่องปัญหาเฉพาะคน เฉพาะเรื่อง แต่เป็นปัญหาหลักความยุติธรรมและกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งศาลต้องมีอิสระบนพื้นฐานกฎหมาย, รัฐธรรมนูญ และหลักฐานข้อเท็จจริงแห่งคดี
ความเลวร้ายทั้งหมดเกิดจากการทำรัฐประหาร 2549, รัฐประหาร 2557 อันเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญ 2550 และรัฐธรรมนูญ 2560 ในเรื่องราวอัปลักษณ์เหล่านี้ซึ่งถูกซ่อนไว้ในรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับหลัง ดังจะเห็นได้จาก
รัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 249 ผู้พิพากษาและตุลาการมีอิสระ ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีของผู้พิพากษาและตุลาการไม่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาตามลำดับชั้น
การจ่ายสำนวนคดีให้ผุ้พิพากษาและตุลาการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติ
การเรียกคืนสำนวนคดีหรือการโอนสำนวนคดี จะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่จะกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรมในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี
การโยกย้ายผู้พิพากษาและตุลาการโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้พิพากษาและตุลาการนั้นจะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นการโยกย้ายตามวาระตามที่กฎหมายบัญญัติ เป็นการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น เป็นกรณีที่อยู่ในระหว่างถูกดำเนินการทางวินัยหรือตกเป็นจำเลยในคดีอาญา
แต่ปรากฏว่า รัฐธรรมนูญ 2550 เรื่องเหล่านี้ไปอยู่ในมาตรา 197 ตัดวรรค 2, วรรค 3, วรรค 4 ที่ว่าด้วยห้ามการแทรกแซงออกไปหมด เหลือวรรค 5
พอรัฐธรรมนูญ 60 เรื่องเหล่านี้ไปอยู่ในมาตรา 188 ตัดข้อห้ามการแทรกแซงจากผู้บังคับบัญชาหรือส่วนอื่นหมดทิ้งไปเกลี้ยง
กล่าวได้ว่า เจตนารมณ์การร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 และรัฐธรรมนูญ 2560 จงใจที่จะไม่ให้ความเป็นอิสระแก่ผู้พิพากษา แต่ถูกควบคุมและแทรกแซงโดยผู้บังคับบัญชาซึ่งให้คุณให้โทษได้
ดังนั้นขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2540 โดยสิ้นเชิง
นี่เป็นอีกเรื่องที่เปิดเผยธาตุแท้ของชนชั้นนำจารีตนิยมไทย ใช้อำนาจนิยมทำรัฐประหารเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ที่คณะชนชั้นนำสามารถครอบงำ, บงการ, แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมไทยให้คำพิพากษาแตกต่างไปจากคณะผู้พิพากษา ซึ่งต้องกระทำภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยตามหลักฐานข้อเท็จจริงให้เกิดความยุติธรรมในหมู่ประชาชนไทยมากที่สุด
แม้นการทำอัตวินิบาตกรรมไม่ใช่เรื่องที่จะสนับสนุนให้เกิดขึ้น
แต่กุศลเจตนาของท่านเพื่อให้สังคมได้รับรู้เรื่องราวในวงกรยุติธรรมเช่นนี้ เพื่อเรียกร้องให้
"คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา
คืนความยุติธรรมให้ประชาชน"
จะเป็นกุศลกรรมอันยิ่งใหญ่ที่จะรักษาประเทศไทยให้สันติเกิดขึ้นได้
ดิฉันและประชาชนขอคารวะการจากไป การเสียสละของท่านต่อประชาชนไทย ทั้งที่ท่านจัดเป็นชนชั้นนำของสังคมไทยที่สุขสบายแล้วก็ตาม
ชื่อของท่านและข้อเรียกร้องของท่านจะอยู่ในหัวใจคนไทยตลอดกาล
เห็นแล้วยัง...ความชั่วร้ายของการทำรัฐประหารและรัฐธรรมนูญ 2550, รัฐธรรมนูญ 2560