ยูดีดีนิวส์ : 26 พ.ย. 62 Facebook Live ของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ วันนี้ได้มาสนทนากับท่านผู้ชมในประเด็น
ปัญหา 'ปารีณา' กับการเลือกปฏิบัติของราชการไทย
อ.ธิดากล่าวว่าปกติดิฉันไม่อยากจะพูดถึงผู้หญิงกับเรื่องการเมืองในเรื่องที่เป็นลบสักเท่าไหร่ แต่ว่าปัญหาคุณปารีณา คือมองให้ดีก็จะพบว่าตัวคุณปารีณาเองก็อาจจะทำให้เกิดผลดีขึ้นมาในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะปัญหาที่ดิน
ในส่วนคุณปารีณาเอง ดิฉันคิดว่าพัฒนาการของเธอเมื่อเป็น ส.ส. เที่ยวนี้เป็นพัฒนาการที่แย่ลงมาก เธอเคยเป็นอดีต ส.ส.เพื่อไทย แต่จากการย้ายข้างมาอยู่ฝั่งที่สนับสนุนการทำรัฐประหาร คุณปารีณาอาจจะภาคภูมิใจว่า ออกจากพรรคเพื่อไทยแล้วก็ยังสามารถเป็นส.ส.ได้
อาจจะดู "มีค่า" เป็นตัวเอกในพรรคพลังประชารัฐมากกว่าอยู่ส.ส.เพื่อไทย เพราะเพื่อไทยมีดาราเต็มไปหมด
แต่ดิฉันคิดว่าการเป็นตัวเอกในพลังประชารัฐนั้นทำให้คุณปารีณาดูมีพฤติกรรม พฤติการณ์ และพัฒนาการที่มันแปลก ๆ ไม่ได้ไปในทางที่ดี เริ่มต้นเธอมีปัญหาในการที่จะมาชนกับคุณช่อ (อนาคตใหม่) จากนั้นก็ไปทางคุณเสรีพิศุทธ์ ประธานกมธ. แล้วไปเรื่องคุณแม่ของคุณธนาธร คือดูเธอจะแสดงตัวเป็น "กองหน้า" ในการชนกับพรรคฝ่ายค้าน
ถ้าดูปฏิกิริยาจากผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและมองด้วยความหวังดี อ.ธิดากล่าวว่า ดิฉันว่ามันไม่ดีกับคุณปารีณาเลย ไปมีเรื่องแม้กระทั่งคุณชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสภา ไปแดกดันว่า "อาจจะไม่พอใจที่นั่งข้าง ๆ คนที่ชนะในพื้นที่ตรัง" อันนี้ดิฉันว่าเป็นเรื่องที่แย่มากเพราะคุณไม่จำเป็นต้องพูดออกมาแม้จะรู้สึกเช่นนั้น
ดังนั้น ดิฉันมองว่าต่อไปนี้พรรคพลังประชารัฐก็คงจะต้องถอยจากเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาปรากฎตัวต่อหน้าสื่อแล้วถูกตั้งคำถามแบบไปไม่เป็นเลย!!!
ดิฉันบอกได้เลยว่าบทบาทที่จะมาเป็นตัวชนของคุณปารีณากับพรรคฝ่ายค้าน เป็นบทบาทที่ผิด ไม่เหมาะสม เพราะเธอไม่แข็งแรงพอในทุกระดับ ทำไปมีแต่ด้านลบ ต่อไปนี้ พปชร. ก็คงจะลดบทบาทเธอลง
แต่มองด้านกลับอีกด้านหนึ่ง สิ่งที่คุณปารีณาทำมันก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า บทบาทส.ส.หญิงที่จะถูกดันให้เป็นกองหน้าในการไปชนพรรคฝ่ายค้านเขาหยิบตัวมาไม่ถูก และบทบาทอันนี้คุณปารีณาไปต่อไม่ได้ ยิ่งไปยิ่งเจ็บ ไม่ใช่เจ็บเฉพาะตัวปารีณา แต่จะทำให้องค์คณะทั้งหมดแย่ไปด้วย รวมถึงท่านนายกฯ ที่สนับสนุนคุณปารีณา (ภาพที่กอดนายกฯ) หรือรองนายกฯ ประวิตรบอกว่าคุณปารีณาเก่งอยู่แล้วอะไรทำนองนี้ ถ้าคุณชมว่า 'ปารีณา' เก่ง ก็ลองดูซิว่าหลังจากเจอสื่อแล้วไปถูกไหมคะ? อย่างนี้ก็แสดงให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ของผู้นำรัฐบาลและคนใน พปชร. ที่มอง 'ปารีณา' ถูกต้องหรือไม่? อย่างไร?
มองไม่ถูก!!!
มองไม่เป็น!!!
แล้วก็หยิบฉวยออกมาปรากฎว่ากลายเป็นเรื่องอื้อฉาว ยกตัวอย่างเรื่องที่ดิน หรือเรื่องที่ไปแดกดันประธานรัฐสภา ต่อให้คนที่ไม่ใช่พรรคฝ่ายค้านเขาก็รับไม่ได้ หลายคนในฝ่ายรัฐบาลอาจจะสะใจที่ 'ปารีณา' ออกมาตอบโต้ แต่ในที่สุดแล้วก็จะพบว่าเจ็บหมด โดยเฉพาะคุณปารีณาเจ็บหนัก ก็คือขนไก่ ขนขี้ไก่และฟาร์มไก่ก็จบ
ในระดับแนวความคิดและสติปัญญา การที่นำไปเสนอ ป.ป.ช. ในเรื่องที่ดินของตัวเองมันก็สะท้อนวิธีคิดของตัวเองที่ยังไม่รู้ ไม่เข้าใจกฎหมาย และไม่สนใจที่จะเรียนรู้
เธออ้างว่าไม่เห็นมีใครมาบอกเลย!
ที่ไม่มีใครมาบอกเพราะพฤติกรรมของระบบราชการไทยที่มีลักษณะเลือกปฏิบัติใช่หรือเปล่า?
อ.ธิดากล่าวต่อไปว่า จากรายงานของ iLaw สรุปสถานการณ์ 14 ชาวบ้านคดีไทรทองบุกรุกพื้นที่อุทยาน ซึ่งการบุกรุกพื้นที่อุทยาน, ป่าสงวน, พื้นที่ สปก. ล้วนมีโทษทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายในช่วงหลัง ใครมีใบเหยียบย่ำ ใบ ภ.บ.ท.5 ก็ถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด ดังที่คุณดำรงค์ พิเดชบอกว่าจับได้เลย ผิดหมด เพราะนโยบายทวงคืนผืนป่าด้วย
โดยเฉพาะที่ดิน สปก. ถ้าคุณครอบครองเกิน 50 ไร่ มันไม่ได้ แล้วคุณต้องเป็นเกษตรกร นี่คุณมีตั้ง 1,700 ไร่ มันสะท้อนการเลือกปฏิบัติของข้าราชการไทย
แต่เรากลับมาดูชาวบ้านไทรทองที่ถูกดำเนินคดี มีถูกจำคุกตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 4 ปีก็มี ชดเชยค่าเสียหายอีกตั้งแต่ 20,000 ถึง 1,587,211 บาท อย่างนี้เป็นต้น ชาวบ้านพวกนี้ที่ดินนิดเดียวมี 1 ไร่ 2 งาน อย่างมากสุดคือ 46 ไร่ 3 งาน 3 ตารางวา แต่นี่ของคุณปารีณาตั้ง 1,700 ไร่
'ปารีณา' เธอจะเป็นอย่างแบบไหนก็แล้วแต่
อ.ธิดากล่าวว่าดิฉันก็งงนะ??? เป็นนางงาม แล้วก็มาเป็นส.ส. ก็ไม่ได้เสียหายอะไร มาตอนนี้ถูกยกระดับโดยนายกฯ รองนายกฯ เชิดชูยกย่อง คุณปารีณาอย่าหลงผิดนะ แล้วที่ไปกอดนายกฯ เอาไว้นั่นน่ะ พอถึงเวลาจริง ๆ เขาผลักคุณทิ้งหมดนะ
ดูอย่างคุณธรรมนัสซิ เดิมทีก็ต้องการจะอุ้ม ซึ่งจริง ๆ เขาอยากจะอุ้ม อยากจะกอดเอาไว้ แต่ถ้าทำให้เขาลำบากด้วยนะ
ดิฉันเชื่อว่าเขาไม่ใช่ผลักธรรมดานะ....ถีบเลย!!! ถีบทิ้งเลย!!!
เพราะคุณธรรมนัสเขาก็อ้างว่าถ้าผิดสั่งยึดที่ดินฟาร์มไก่ปารีณา แต่เขาพูดแค่ 600 กว่าไร่ พวกอธิบดี พวกอะไรต่าง ๆ ออกมาพูดก็ 600 กว่าไร่ คำถามจากสังคมไทยก็คือ 1,700 ไร่ล่ะ ใน 600 กว่าไร่เป็นพื้นที่ สปก. เป็นส่วนใหญ่ (เขาว่างั้น) แล้วที่เหลือ 46 ไร่เป็นป่าสงวน
ขนาดป่าสงวน 46 ไร่ คุณก็ติดคุกแย่แล้ว สปก. เขาห้ามเกิน 50 ไร่ แล้วคำถามว่าที่เหลืออีกพันกว่าไร่ล่ะ สังคมตั้งคำถาม!!!
ดังนั้น ชั่ว ๆ ดี ๆ เรื่องของ 'ปารีณา' สะท้อนอะไร?
ด้านลบ อยู่ที่คุณปารีณา อยู่ที่ว่า สังคมไทยถูกยึดครองที่ดิน 1,700 ไร่มายาวนาน
ด้านบวก คือ
1) สะท้อนวิสัยทัศน์การมองคนของพรรคพลังประชารัฐ การมองคนของนายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ ซึ่งบอกว่าปารีณานั้นเก่ง เอาตัวรอด แล้วกอด...กัน ก็แสดงว่าคุณไม่รู้หรือว่าคุณปารีณาเป็นคนอย่างไร
2) สะท้อนให้เห็นว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สปก. และอุทยาน ไม่ใช่ไปเล่นงานคนเล็กคนน้อย ชาวบ้านไปเก็บเห็ด
ที่แล้วมาดิฉันไม่อยากพูดถึง เช่น กรณีเขายายเที่ยง เขาแพง ในที่สุด "เขายายเที่ยง" ก็รื้อบ้านอย่างเดียวไม่มีความผิด แต่ชาวบ้านติดคุก ผ่านไปแล้ว
คราวนี้ 'ปารีณา' เธออาจจะไม่ติดคุก อาจจะคืนที่ดินจำนวนหนึ่ง แต่กรณีชาวบ้านไทรทอง...ติดคุกกันเป็นแถวกว่าจะได้ประกันตัว เป็นต้น
ขอให้กรณี 'ปารีณา' ไม่ใช่ไปสนใจเฉพาะคุณปารีณา ให้สนใจวิธีคิด วิธีทำงานของนายกฯ กับรองนายกฯ ต่อประเด็น 'ปารีณา' การใช้คนไปชนกับพรรคฝ่ายค้าน และให้สนใจการเลือกปฏิบัติของราชการไทยที่จัดการกับคนเล็กคนน้อย
คุณจะจัดการกับที่ดินสปก.อย่างไร?
คุณจะจัดการกับปัญหาที่ดินของอุทยานฯ และป่าสงวนอย่างไร?
มันต้องเปิดให้กระจ่าง!!!
ดังนั้น ข้อดีกรณี 'ปารีณา' ก็ยังมีอยู่ แต่ว่าสังคมไทยอย่าโฟกัสเฉพาะว่าคุณปารีณาเธอเป็นโรคจิตหรือเปล่า? ดิฉันอยากให้นำมาสู่ปัญหาส่วนรวมค่ะ
ขอให้กรณีของปารีณา เปิดโปงราชการไทยและปัญหาที่ดินของประเทศไทยด้วยค่ะ อ.ธิดากล่าวปิดท้าย
ขอบคุณภาพจากรายการ "ทุบประเด็น" ไบร์ททีวี |
มองไม่เป็น!!!
แล้วก็หยิบฉวยออกมาปรากฎว่ากลายเป็นเรื่องอื้อฉาว ยกตัวอย่างเรื่องที่ดิน หรือเรื่องที่ไปแดกดันประธานรัฐสภา ต่อให้คนที่ไม่ใช่พรรคฝ่ายค้านเขาก็รับไม่ได้ หลายคนในฝ่ายรัฐบาลอาจจะสะใจที่ 'ปารีณา' ออกมาตอบโต้ แต่ในที่สุดแล้วก็จะพบว่าเจ็บหมด โดยเฉพาะคุณปารีณาเจ็บหนัก ก็คือขนไก่ ขนขี้ไก่และฟาร์มไก่ก็จบ
ในระดับแนวความคิดและสติปัญญา การที่นำไปเสนอ ป.ป.ช. ในเรื่องที่ดินของตัวเองมันก็สะท้อนวิธีคิดของตัวเองที่ยังไม่รู้ ไม่เข้าใจกฎหมาย และไม่สนใจที่จะเรียนรู้
เธออ้างว่าไม่เห็นมีใครมาบอกเลย!
ที่ไม่มีใครมาบอกเพราะพฤติกรรมของระบบราชการไทยที่มีลักษณะเลือกปฏิบัติใช่หรือเปล่า?
อ.ธิดากล่าวต่อไปว่า จากรายงานของ iLaw สรุปสถานการณ์ 14 ชาวบ้านคดีไทรทองบุกรุกพื้นที่อุทยาน ซึ่งการบุกรุกพื้นที่อุทยาน, ป่าสงวน, พื้นที่ สปก. ล้วนมีโทษทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายในช่วงหลัง ใครมีใบเหยียบย่ำ ใบ ภ.บ.ท.5 ก็ถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด ดังที่คุณดำรงค์ พิเดชบอกว่าจับได้เลย ผิดหมด เพราะนโยบายทวงคืนผืนป่าด้วย
โดยเฉพาะที่ดิน สปก. ถ้าคุณครอบครองเกิน 50 ไร่ มันไม่ได้ แล้วคุณต้องเป็นเกษตรกร นี่คุณมีตั้ง 1,700 ไร่ มันสะท้อนการเลือกปฏิบัติของข้าราชการไทย
สรุปสถานการณ์ 14 ชาวบ้าน คดีไทรทอง ถูกดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานไทรทอง รวบรวมโดย iLaw |
'ปารีณา' เธอจะเป็นอย่างแบบไหนก็แล้วแต่
อ.ธิดากล่าวว่าดิฉันก็งงนะ??? เป็นนางงาม แล้วก็มาเป็นส.ส. ก็ไม่ได้เสียหายอะไร มาตอนนี้ถูกยกระดับโดยนายกฯ รองนายกฯ เชิดชูยกย่อง คุณปารีณาอย่าหลงผิดนะ แล้วที่ไปกอดนายกฯ เอาไว้นั่นน่ะ พอถึงเวลาจริง ๆ เขาผลักคุณทิ้งหมดนะ
ดูอย่างคุณธรรมนัสซิ เดิมทีก็ต้องการจะอุ้ม ซึ่งจริง ๆ เขาอยากจะอุ้ม อยากจะกอดเอาไว้ แต่ถ้าทำให้เขาลำบากด้วยนะ
ดิฉันเชื่อว่าเขาไม่ใช่ผลักธรรมดานะ....ถีบเลย!!! ถีบทิ้งเลย!!!
เพราะคุณธรรมนัสเขาก็อ้างว่าถ้าผิดสั่งยึดที่ดินฟาร์มไก่ปารีณา แต่เขาพูดแค่ 600 กว่าไร่ พวกอธิบดี พวกอะไรต่าง ๆ ออกมาพูดก็ 600 กว่าไร่ คำถามจากสังคมไทยก็คือ 1,700 ไร่ล่ะ ใน 600 กว่าไร่เป็นพื้นที่ สปก. เป็นส่วนใหญ่ (เขาว่างั้น) แล้วที่เหลือ 46 ไร่เป็นป่าสงวน
ขนาดป่าสงวน 46 ไร่ คุณก็ติดคุกแย่แล้ว สปก. เขาห้ามเกิน 50 ไร่ แล้วคำถามว่าที่เหลืออีกพันกว่าไร่ล่ะ สังคมตั้งคำถาม!!!
ดังนั้น ชั่ว ๆ ดี ๆ เรื่องของ 'ปารีณา' สะท้อนอะไร?
ด้านลบ อยู่ที่คุณปารีณา อยู่ที่ว่า สังคมไทยถูกยึดครองที่ดิน 1,700 ไร่มายาวนาน
ด้านบวก คือ
1) สะท้อนวิสัยทัศน์การมองคนของพรรคพลังประชารัฐ การมองคนของนายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ ซึ่งบอกว่าปารีณานั้นเก่ง เอาตัวรอด แล้วกอด...กัน ก็แสดงว่าคุณไม่รู้หรือว่าคุณปารีณาเป็นคนอย่างไร
2) สะท้อนให้เห็นว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สปก. และอุทยาน ไม่ใช่ไปเล่นงานคนเล็กคนน้อย ชาวบ้านไปเก็บเห็ด
ที่แล้วมาดิฉันไม่อยากพูดถึง เช่น กรณีเขายายเที่ยง เขาแพง ในที่สุด "เขายายเที่ยง" ก็รื้อบ้านอย่างเดียวไม่มีความผิด แต่ชาวบ้านติดคุก ผ่านไปแล้ว
คราวนี้ 'ปารีณา' เธออาจจะไม่ติดคุก อาจจะคืนที่ดินจำนวนหนึ่ง แต่กรณีชาวบ้านไทรทอง...ติดคุกกันเป็นแถวกว่าจะได้ประกันตัว เป็นต้น
ขอให้กรณี 'ปารีณา' ไม่ใช่ไปสนใจเฉพาะคุณปารีณา ให้สนใจวิธีคิด วิธีทำงานของนายกฯ กับรองนายกฯ ต่อประเด็น 'ปารีณา' การใช้คนไปชนกับพรรคฝ่ายค้าน และให้สนใจการเลือกปฏิบัติของราชการไทยที่จัดการกับคนเล็กคนน้อย
คุณจะจัดการกับที่ดินสปก.อย่างไร?
คุณจะจัดการกับปัญหาที่ดินของอุทยานฯ และป่าสงวนอย่างไร?
มันต้องเปิดให้กระจ่าง!!!
ดังนั้น ข้อดีกรณี 'ปารีณา' ก็ยังมีอยู่ แต่ว่าสังคมไทยอย่าโฟกัสเฉพาะว่าคุณปารีณาเธอเป็นโรคจิตหรือเปล่า? ดิฉันอยากให้นำมาสู่ปัญหาส่วนรวมค่ะ
ขอให้กรณีของปารีณา เปิดโปงราชการไทยและปัญหาที่ดินของประเทศไทยด้วยค่ะ อ.ธิดากล่าวปิดท้าย