ยูดีดีนิวส์ : 4 พ.ย. 62 การสนทนาในเฟสบุ๊คไลฟ์แฟนเพจ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ในวันนี้ได้กล่าวถึงประเด็น "มองพรรคอนาคตใหม่และอนาคตการเมืองไทย"
การที่พรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นและยิ่งใหญ่ในระดับหนึ่งนั้นมาจากอะไร?
อ.ธิดากล่าวว่า ประการแรกคือ กลุ่มคนที่ตั้งพรรคเป็นคนที่ก้าวหน้าและอยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ต้องการให้ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ ให้ประเทศเป็นการปกครองในประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วด้วยความที่มีศักยภาพจึงคิดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อทำให้การต่อสู้โดยสันติของประชาชนในทิศทางที่เป็นไปตามกฎหมายบรรลุผลขึ้นมาได้
ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่ นอกจากเป็นผลิตผลของประชาชนที่ก้าวหน้าและมีศักยภาพพอในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย และคนเหล่านี้ก็มีสืบเนื่องมาตั้งแต่ 2475, 2516, 2519, 2535 และ 2553 นี่คือการต่อสู้่ของประชาชนที่เป็นสายธารประวัติศาสตร์
ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง (ระบอบอำมาตย์และอำนาจนิยม) จะมองไปอีกแบบหนึ่ง คือ เกลียด 2475 ทำไมต้องพูดถึง 2475
อ.ธิดากล่าวว่า ต้องพูดซิคะ เพราะว่า 2475 คือหมุดหมายและคือการทำฉันทามติระหว่างพระมหากษัตริย์กับคณะประชาชน (ซึ่งขณะนั้นเรียกว่าคณะราษฎร) เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ไม่ได้เรียนกันหรืออย่างไร? เพราะว่าล่าสุด ผบ.ทบ. ก็พูดเช่นนี้
เมื่อคนจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมอำนาจนิยมเกลียด 2475, 2516, 2535 มันจึงเกิดการรัฐประหาร 2490, 2500, 2534, 2549 ล่าสุด 2557 มันเป็นการต่อสู้ระหว่างสองแนวคิด (แนวคิดอนุรักษ์นิยม อำนาจนิยม กับ แนวคิดที่เป็นเสรีประชาธิปไตย) และต่อสู้กันมาตลอดจนถึงปัจจุบัน และนี่คือสิ่งที่เป็นหัวใจว่า เราจะเข้าใจอนาคตใหม่และเข้าใจอนาคตการเมืองไทยอย่างไร?
ในทัศนะดิฉัน อนาคตใหม่ เป็นผลิตผลที่มาจากการต่อสู้ของประชาชนและกลุ่มคนที่มีศักยภาพ ส่วนที่ว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหนนั้น มนุษย์ทุกคนก็มีข้อจำกัดของแต่ละฝ่าย ไม่มีใครที่ทำได้สมบูรณ์แบบ
แต่สิ่งหนึ่งก็คืออนาคตใหม่เกิดจาก คสช.
เพราะว่า คสช. ต้องการเล่นงานพรรคการเมืองเก่าที่เป็นพรรคการเมืองใหญ่ รวมทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ซึ่งดิฉันพูดมาตลอด ความพยายามจะทำลายพรรคใหญ่เพื่อสามารถที่จะช่วงชิงมวลชนมาก่อตั้งพรรคใหม่ และรวมทั้งการที่เขียนรัฐธรรมนูญ'60 ความพยายามทำลาย นั่นก็คือใช้ระบบบัตรใบเดียว หมายความว่าไม่มีระบบบัญชีรายชื่อ อันนี้ก็คือทำลายพรรคใหญ่ เพราะพรรคใหญ่เขาได้ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะฉะนั้น ส.ส.บัญชีรายชื่อสำหรับเพื่อไทยและแม้กระทั่งประชาธิปัตย์ก็มีน้อยลง แต่เพื่อไทยนั้นเป็นอันว่าไม่มี
เขาประสบความสำเร็จในการทำลายเพื่อไทย แต่ปรากฎว่าเจออนาคตใหม่
แล้วอนาคตใหม่นั้นไม่ใช่ได้จากคสช.และความพยายามในการสืบทอดอำนาจอย่างเดียว แต่ได้จากเพื่อไทยด้วย เพราะเพื่อไทย รวมทั้งจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค
พูดง่าย ๆ คืออนาคตใหม่ได้หลายเด้ง!!! คือ ได้มวลชนที่ก้าวหน้าที่เพื่อไทย, นปช. และการต่อสู้ของประชาชนได้สร้างขึ้นมาเป็นลำดับ แล้ว ยังได้จาก คสช. เองด้วย และได้จากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเองด้วย ที่วางแผนแล้วผิดพลาด (หรืออย่างไร)
อนาคตใหม่จึงเป็นผลิตผลที่ได้จากฝ่ายก้าวหน้าและได้จากพรรคการเมืองเดิมฝ่ายประชาธิปไตย แต่ที่ได้เต็ม ๆ ก็คือได้จากคสช.และรัฐธรรมนูญ'60 สิ่งที่เกิดขึ้นของอนาคนใหม่จึงเกิดเป็นเสือตัวใหม่ เป็นสิ่งที่อีกฝั่งเขาคิดไม่ถึง!!!
อ.ธิดากล่าวด้วยว่า เคยบอกแล้วว่าทุกครั้งที่คุณเขียนรัฐธรรมนูญ ถ้าคุณตั้งใจจะทำลายพรรคการเมืองที่คุณถือว่าเป็นทุนสามานย์ หรือคุณต้องการทำลายฝ่ายก้าวหน้า คุณจะได้อะไรขึ้นมาที่คุณไม่รู้ และจะพบว่าระบบที่คุณเขียนขึ้นมาในรัฐธรรมนูญ'60 นั้นมันใช้ไม่ได้
ก็เกิดเสือตัวใหม่ คือ อนาคตใหม่ และในทัศนะของปฏิปักษ์ฝ่ายประชาธิปไตยนั้น เขามองว่าเสือตัวใหม่ร้ายกว่าเสือตัวเก่า เพราะเสือตัวใหม่ได้กลุ่มฟ้ารักพ่อ ได้กลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นที่ตกอกตกใจกันมาก...ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
ทัศนะของอ.ธิดานั้น เมื่อความเกลียดชังเป็นความไม่เข้าใจ คือประชาธิปไตยมันต้องตรงไปตรงมา แต่เมื่อคุณไม่ตรงไปตรงมา คุณพยายามทำให้อำนาจประชาชนบิดเบี้ยวไม่ตรงตามความจริง (แทนที่จะได้เลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขต) ทำให้เกิดโกลาหลอลหม่านทั้งวิธีคิด รวมทั้งคะแนนที่ได้ เพราะงั้นผลิตผลอันนี้ อนาคตใหม่แม้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ได้ 88 ที่นั่ง แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นเสือที่น่ากลัวสำหรับฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตย
เมื่อเขามองว่าเป็นเสือตัวใหม่ ฝั่งปฏิปักษ์ประชาธิปไตยเขาก็ต้องจัดการเต็มที่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเพื่อไทยจะกระหยิ่มยิ้มย่องนะ เพราะฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยยังจ้องเล่นงานทั้งเสือตัวเก่าและเสือตัวใหม่
นอกจากเสือตัวเก่า พวกกลุ่มแกนนำนปช. ก็ถูกมองว่าเป็นสมุนบริวาร และอยู่ในฝั่งของเสือตัวเก่า หรือเสือตัวใหม่ อะไรก็แล้วแต่ ก็ยังจะต้องถูกจัดการ และในทัศนะของดิฉันมองว่า นี่กลายเป็นเรื่องของสงครามระหว่าง เอา หรือ ไม่เอา ระบอบประชาธิปไตย
ถ้าไม่เอาระบอบประชาธิปไตย หรือเอาประชาธิปไตยเป็นป้ายลวง ๆ ถ้าระบอบอำนาจนิยมกับอนุรักษ์นิยม และชนชั้นนำ นายทุนที่เกาะเกี่ยวกันอยู่ ยังมีอำนาจอยู่ นั่นก็แปลว่าสิ่งที่เขาจัดการก็คือ ต้องจัดการอีกฝั่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นเขาจึงใช้ทฤษฎีที่ดิฉันพูดอยู่เสมอว่า Zero sum game คือเป็นศูนย์ แปลว่าต้องหมดสิ้น ตายกันไปข้างหนึ่ง แบบเดียวกับในอดีต ก็คือเจ็ดชั่วโคตร ทั้งพ่อ ลูก หลาน บริวาร ต้องถูกจัดการหมด อันนี้เป็นวิธีคิดของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในยุคศักดินาและในระบอบเก่า ไม่ใช่เป็นการแข่งขันโดยเสรี ไม่ใช่วิธีคิดของคนในระบบทุนนิยมและในระบอบประชาธิปไตย
การทำลายล้างจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว และต้องใช้ทุกรูปแบบ ไและคำว่า "นิติรัฐ นิติธรรม" และ "กฎหมาย" ก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการกับฝ่ายเห็นต่างหรือฝ่ายที่จะเป็นอันตรายต่ออำนาจ
แน่นอน...อนาคตใหม่ก็คงต้องเจอทุกรูปแบบ
คนของอนาคตใหม่ฝ่ายนำ, คนของเพื่อไทยฝ่ายนำ ล้วนเป็นคนในโลกของทุนนิยมและโลกของระบอบเสรีประชาธิปไตย อาจจะคิดไม่ถึงว่าคนในโลกเก่าและความคิดแบบเดิม มันหนักหน่วง ไม่มีคำว่าน้ำใจนักกีฬา ไม่มีคำว่า win-win ยังเป็น Zero sum game ก็คือยังกำจัดไม่ไว้หน่อ และด้วยทุกวิธี ทุกกลยุทธ์ ทุกกลเกม ไม่มีคำว่าตรงไปตรงมา แม้กระทั่งคำว่า ลูกผู้ชาย ไม่มีแน่นอน
ดิฉันมองในฐานะเป็นคนที่ชอบและศึกษาประวัติศาสตร์ ทั้งประวัติศาสตร์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมาตลอดว่า ต้องไม่แปลกใจว่ามันน่าจะเหลือเชื่อ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดังนั้นประชาชนไทยส่วนหนึ่งซึ่งก้าวหน้าก็จะถูกดึงเพื่อให้เป็นมวลชนของฝ่ายล้าหลัง แต่การบ่มเพาะตั้งแต่ 2475, 2516, 2519, 2534, 2535, 2549, 2550, 2553 มาจนถึงปัจจุบัน มันสร้างคนแบบลุงนวมทอง แบบจ๋า นฤมล และแบบที่ประชาชนทั่วไปที่เป็นฝ่ายก้าวหน้า
พรรคการเมืองต้องเข้าใจปัญหานี้ด้วยว่า คุณจะต่อยอดความก้าวหน้านี้อย่างไร แน่นอนว่าคุณจะไปใช้วิธีแบบเดียวกับฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยไม่ได้ แต่มันคือความยากลำบาก เพราะคุณต้องสู้อย่างถูกต้อง เพราะพวกคุณยังไม่ใช่ผู้ชนะ ประชาชนยังไม่ใช่ผู้ชนะ
ในสงครามครั้งนี้ยังเป็นสงครามระหว่างอำนาจอธิปไตยของประชาชน กับอำนาจอธิปไตยของกลุ่มอนุรักษ์นิยม อำนาจนิยม เราก็ขอเอาใจช่วยฝ่ายที่ก้าวหน้า แต่พรรคการเมืองถ้าคุณไม่ก้าวหน้าจริง คุณก็จะไม่ได้ประชาชนที่ก้าวหน้า ขอให้ทำใจว่าศึกนี้ยังไม่จบค่ะ อ.ธิดากล่าวในที่สุด
การที่พรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นและยิ่งใหญ่ในระดับหนึ่งนั้นมาจากอะไร?
อ.ธิดากล่าวว่า ประการแรกคือ กลุ่มคนที่ตั้งพรรคเป็นคนที่ก้าวหน้าและอยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ต้องการให้ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ ให้ประเทศเป็นการปกครองในประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วด้วยความที่มีศักยภาพจึงคิดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อทำให้การต่อสู้โดยสันติของประชาชนในทิศทางที่เป็นไปตามกฎหมายบรรลุผลขึ้นมาได้
ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่ นอกจากเป็นผลิตผลของประชาชนที่ก้าวหน้าและมีศักยภาพพอในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย และคนเหล่านี้ก็มีสืบเนื่องมาตั้งแต่ 2475, 2516, 2519, 2535 และ 2553 นี่คือการต่อสู้่ของประชาชนที่เป็นสายธารประวัติศาสตร์
ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง (ระบอบอำมาตย์และอำนาจนิยม) จะมองไปอีกแบบหนึ่ง คือ เกลียด 2475 ทำไมต้องพูดถึง 2475
อ.ธิดากล่าวว่า ต้องพูดซิคะ เพราะว่า 2475 คือหมุดหมายและคือการทำฉันทามติระหว่างพระมหากษัตริย์กับคณะประชาชน (ซึ่งขณะนั้นเรียกว่าคณะราษฎร) เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ไม่ได้เรียนกันหรืออย่างไร? เพราะว่าล่าสุด ผบ.ทบ. ก็พูดเช่นนี้
เมื่อคนจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมอำนาจนิยมเกลียด 2475, 2516, 2535 มันจึงเกิดการรัฐประหาร 2490, 2500, 2534, 2549 ล่าสุด 2557 มันเป็นการต่อสู้ระหว่างสองแนวคิด (แนวคิดอนุรักษ์นิยม อำนาจนิยม กับ แนวคิดที่เป็นเสรีประชาธิปไตย) และต่อสู้กันมาตลอดจนถึงปัจจุบัน และนี่คือสิ่งที่เป็นหัวใจว่า เราจะเข้าใจอนาคตใหม่และเข้าใจอนาคตการเมืองไทยอย่างไร?
ในทัศนะดิฉัน อนาคตใหม่ เป็นผลิตผลที่มาจากการต่อสู้ของประชาชนและกลุ่มคนที่มีศักยภาพ ส่วนที่ว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหนนั้น มนุษย์ทุกคนก็มีข้อจำกัดของแต่ละฝ่าย ไม่มีใครที่ทำได้สมบูรณ์แบบ
แต่สิ่งหนึ่งก็คืออนาคตใหม่เกิดจาก คสช.
เพราะว่า คสช. ต้องการเล่นงานพรรคการเมืองเก่าที่เป็นพรรคการเมืองใหญ่ รวมทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ซึ่งดิฉันพูดมาตลอด ความพยายามจะทำลายพรรคใหญ่เพื่อสามารถที่จะช่วงชิงมวลชนมาก่อตั้งพรรคใหม่ และรวมทั้งการที่เขียนรัฐธรรมนูญ'60 ความพยายามทำลาย นั่นก็คือใช้ระบบบัตรใบเดียว หมายความว่าไม่มีระบบบัญชีรายชื่อ อันนี้ก็คือทำลายพรรคใหญ่ เพราะพรรคใหญ่เขาได้ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะฉะนั้น ส.ส.บัญชีรายชื่อสำหรับเพื่อไทยและแม้กระทั่งประชาธิปัตย์ก็มีน้อยลง แต่เพื่อไทยนั้นเป็นอันว่าไม่มี
เขาประสบความสำเร็จในการทำลายเพื่อไทย แต่ปรากฎว่าเจออนาคตใหม่
แล้วอนาคตใหม่นั้นไม่ใช่ได้จากคสช.และความพยายามในการสืบทอดอำนาจอย่างเดียว แต่ได้จากเพื่อไทยด้วย เพราะเพื่อไทย รวมทั้งจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค
พูดง่าย ๆ คืออนาคตใหม่ได้หลายเด้ง!!! คือ ได้มวลชนที่ก้าวหน้าที่เพื่อไทย, นปช. และการต่อสู้ของประชาชนได้สร้างขึ้นมาเป็นลำดับ แล้ว ยังได้จาก คสช. เองด้วย และได้จากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเองด้วย ที่วางแผนแล้วผิดพลาด (หรืออย่างไร)
อนาคตใหม่จึงเป็นผลิตผลที่ได้จากฝ่ายก้าวหน้าและได้จากพรรคการเมืองเดิมฝ่ายประชาธิปไตย แต่ที่ได้เต็ม ๆ ก็คือได้จากคสช.และรัฐธรรมนูญ'60 สิ่งที่เกิดขึ้นของอนาคนใหม่จึงเกิดเป็นเสือตัวใหม่ เป็นสิ่งที่อีกฝั่งเขาคิดไม่ถึง!!!
อ.ธิดากล่าวด้วยว่า เคยบอกแล้วว่าทุกครั้งที่คุณเขียนรัฐธรรมนูญ ถ้าคุณตั้งใจจะทำลายพรรคการเมืองที่คุณถือว่าเป็นทุนสามานย์ หรือคุณต้องการทำลายฝ่ายก้าวหน้า คุณจะได้อะไรขึ้นมาที่คุณไม่รู้ และจะพบว่าระบบที่คุณเขียนขึ้นมาในรัฐธรรมนูญ'60 นั้นมันใช้ไม่ได้
ก็เกิดเสือตัวใหม่ คือ อนาคตใหม่ และในทัศนะของปฏิปักษ์ฝ่ายประชาธิปไตยนั้น เขามองว่าเสือตัวใหม่ร้ายกว่าเสือตัวเก่า เพราะเสือตัวใหม่ได้กลุ่มฟ้ารักพ่อ ได้กลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นที่ตกอกตกใจกันมาก...ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
ทัศนะของอ.ธิดานั้น เมื่อความเกลียดชังเป็นความไม่เข้าใจ คือประชาธิปไตยมันต้องตรงไปตรงมา แต่เมื่อคุณไม่ตรงไปตรงมา คุณพยายามทำให้อำนาจประชาชนบิดเบี้ยวไม่ตรงตามความจริง (แทนที่จะได้เลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขต) ทำให้เกิดโกลาหลอลหม่านทั้งวิธีคิด รวมทั้งคะแนนที่ได้ เพราะงั้นผลิตผลอันนี้ อนาคตใหม่แม้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ได้ 88 ที่นั่ง แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นเสือที่น่ากลัวสำหรับฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตย
เมื่อเขามองว่าเป็นเสือตัวใหม่ ฝั่งปฏิปักษ์ประชาธิปไตยเขาก็ต้องจัดการเต็มที่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเพื่อไทยจะกระหยิ่มยิ้มย่องนะ เพราะฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยยังจ้องเล่นงานทั้งเสือตัวเก่าและเสือตัวใหม่
นอกจากเสือตัวเก่า พวกกลุ่มแกนนำนปช. ก็ถูกมองว่าเป็นสมุนบริวาร และอยู่ในฝั่งของเสือตัวเก่า หรือเสือตัวใหม่ อะไรก็แล้วแต่ ก็ยังจะต้องถูกจัดการ และในทัศนะของดิฉันมองว่า นี่กลายเป็นเรื่องของสงครามระหว่าง เอา หรือ ไม่เอา ระบอบประชาธิปไตย
ถ้าไม่เอาระบอบประชาธิปไตย หรือเอาประชาธิปไตยเป็นป้ายลวง ๆ ถ้าระบอบอำนาจนิยมกับอนุรักษ์นิยม และชนชั้นนำ นายทุนที่เกาะเกี่ยวกันอยู่ ยังมีอำนาจอยู่ นั่นก็แปลว่าสิ่งที่เขาจัดการก็คือ ต้องจัดการอีกฝั่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นเขาจึงใช้ทฤษฎีที่ดิฉันพูดอยู่เสมอว่า Zero sum game คือเป็นศูนย์ แปลว่าต้องหมดสิ้น ตายกันไปข้างหนึ่ง แบบเดียวกับในอดีต ก็คือเจ็ดชั่วโคตร ทั้งพ่อ ลูก หลาน บริวาร ต้องถูกจัดการหมด อันนี้เป็นวิธีคิดของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในยุคศักดินาและในระบอบเก่า ไม่ใช่เป็นการแข่งขันโดยเสรี ไม่ใช่วิธีคิดของคนในระบบทุนนิยมและในระบอบประชาธิปไตย
การทำลายล้างจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว และต้องใช้ทุกรูปแบบ ไและคำว่า "นิติรัฐ นิติธรรม" และ "กฎหมาย" ก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการกับฝ่ายเห็นต่างหรือฝ่ายที่จะเป็นอันตรายต่ออำนาจ
แน่นอน...อนาคตใหม่ก็คงต้องเจอทุกรูปแบบ
คนของอนาคตใหม่ฝ่ายนำ, คนของเพื่อไทยฝ่ายนำ ล้วนเป็นคนในโลกของทุนนิยมและโลกของระบอบเสรีประชาธิปไตย อาจจะคิดไม่ถึงว่าคนในโลกเก่าและความคิดแบบเดิม มันหนักหน่วง ไม่มีคำว่าน้ำใจนักกีฬา ไม่มีคำว่า win-win ยังเป็น Zero sum game ก็คือยังกำจัดไม่ไว้หน่อ และด้วยทุกวิธี ทุกกลยุทธ์ ทุกกลเกม ไม่มีคำว่าตรงไปตรงมา แม้กระทั่งคำว่า ลูกผู้ชาย ไม่มีแน่นอน
ดิฉันมองในฐานะเป็นคนที่ชอบและศึกษาประวัติศาสตร์ ทั้งประวัติศาสตร์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมาตลอดว่า ต้องไม่แปลกใจว่ามันน่าจะเหลือเชื่อ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดังนั้นประชาชนไทยส่วนหนึ่งซึ่งก้าวหน้าก็จะถูกดึงเพื่อให้เป็นมวลชนของฝ่ายล้าหลัง แต่การบ่มเพาะตั้งแต่ 2475, 2516, 2519, 2534, 2535, 2549, 2550, 2553 มาจนถึงปัจจุบัน มันสร้างคนแบบลุงนวมทอง แบบจ๋า นฤมล และแบบที่ประชาชนทั่วไปที่เป็นฝ่ายก้าวหน้า
พรรคการเมืองต้องเข้าใจปัญหานี้ด้วยว่า คุณจะต่อยอดความก้าวหน้านี้อย่างไร แน่นอนว่าคุณจะไปใช้วิธีแบบเดียวกับฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยไม่ได้ แต่มันคือความยากลำบาก เพราะคุณต้องสู้อย่างถูกต้อง เพราะพวกคุณยังไม่ใช่ผู้ชนะ ประชาชนยังไม่ใช่ผู้ชนะ
ในสงครามครั้งนี้ยังเป็นสงครามระหว่างอำนาจอธิปไตยของประชาชน กับอำนาจอธิปไตยของกลุ่มอนุรักษ์นิยม อำนาจนิยม เราก็ขอเอาใจช่วยฝ่ายที่ก้าวหน้า แต่พรรคการเมืองถ้าคุณไม่ก้าวหน้าจริง คุณก็จะไม่ได้ประชาชนที่ก้าวหน้า ขอให้ทำใจว่าศึกนี้ยังไม่จบค่ะ อ.ธิดากล่าวในที่สุด