ยูดีดีนิวส์ : 13 ส.ค. 62 อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ได้กล่าวในการทำเฟสบุ๊คไลฟ์วันนี้ผ่านทางเฟสบุ๊คแฟนเพจว่า มีความจำเป็นต้องโต้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. คนปัจจุบัน โดยตั้งคำถามว่า "ผบ.ทบ. นำกองทัพไทยสู้กับประชาชนเช่นนั้นหรือ?"
เหตุเพราะ ผบ.ทบ. ได้ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ และมีข่าวแพร่หลายออกมาว่าขณะนี้กำลัง "ทำสงครามลูกผสม" ท่านใช้คำว่า Hybrid War ซึ่งมีทั้งระเบิด มีทั้ง Fake news
ท่านใช้ภาษาอังกฤษในการให้สัมภาษณ์หลายครั้ง เช่น เมื่ออธิบายเหตุการณ์เรื่องระเบิดท่านใช้คำว่า Master Mind พอมาตอนนี้ท่านก็มีศัพท์ Hybrid War เป็นสงครามพันธุ์ผสม คือมีทั้งระเบิดและข่าวลวงทางอินเตอร์เน็ต
อ.ธิดา กล่าวว่า ประการแรกก็คือ ดีใจที่ท่านได้พูดออกมาตรง ๆ ในหลาย ๆ เรื่อง แต่ก็อดเสียใจไม่ได้ว่าท่านเป็น ผบ.ทบ. ที่ได้ไปศึกษาต่อในต่างประเทศ นอกจากใช้ศัพท์ทางการทหารแล้ว ดิฉันคิดว่าที่ท่านน่าจะนำกลับมาศึกษายังประเทศไทยก็คือสัมพันธภาพระหว่างทหารกับการเมือง ดูว่าในประเทศต่าง ๆ นั้น ผบ.ทบ. มีบทบาทอย่างไร ออกมาพูดในประเด็นทางการเมืองแบบนี้ ได้หรือไม่ได้?
ภาพจากรอยเตอร์ |
แต่จุดสำคัญที่ดิฉันอยากตั้งคำถามว่า ขณะนี้ท่านทำสงครามกับใคร?
ข่าวจาก "ไทยทริบูน" ถอดคำสัมภาษณ์มาว่า "ภัยคุกคามในขณะนี้ก็คือข่าวปลอมหรือ Fake news (แต่ดิฉันอยากใช้คำว่าข่าวลวงมากกว่า คือเป็นข่าวปลอมที่เจตนาเป็นข่าวลวงเพื่อให้ได้เป้าหมายทางการเมืองนั่นแหละ) มันเป็นเหมือนสงครามไซเบอร์ และเมื่อมันมารวมกับเหตุระเบิดมันจึงเป็นสงครามลูกผสมก็คือ Hybrid War ซึ่งมาจากระเบิดผสมกับ Fake news"
อ.ธิดากล่าวต่อว่า ดิฉนมองว่านี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ที่ไม่น่าชื่นชม และค่อนข้างจะใช้ศัพท์ทางการทหารและศัพท์ทางเรื่องของอินเตอร์เน็ตที่ไม่เข้าท่าหรือมันมั่ว เพราะว่า Fake news หรือสงครามไซเบอร์กับเรื่องของระเบิด ท่านเอามาผสมปนเปกัน ในทัศนะของดิฉัน นอกจากคำถามแรกว่าท่านพูดว่าท่านกำลังทำสงครามกับใคร ขณะนี้การวางระเบิดค่อนข้างจะแจ่มชัดว่ามาจากความขัดแย้งในเรื่องภาคใต้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก
แต่อยากจะบอกว่ารัฐไทยโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง พยายามที่จะทำให้เหตุระเบิดแต่ละครั้ง (หลังปี 49 เป็นต้นมา) โยงมาเป็นเรื่องของคนเสื้อแดง และเมื่อปรากฎความจริงว่าไม่ใช่ ก็ทำอ้อมแอ้มแล้วก็เงียบ ๆ จากปี 49 มาจนบัดนี้ พยายามจะโยงโดยใช้คำว่า "คู่ขัดแย้งเดิม" ที่ท่านคิดว่าเป็นด้านหลักก็คือสิ่งที่ท่านคิดว่าเป็นระบอบทุนสามานย์ ระบอบทักษิณ ขัดแย้งกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม และรัฐข้าราชการไทย
ดิฉันอยากจะบอกว่าท่านเอามาผสมแล้วบอกว่าเป็นไฮบริดนั้น ไม่ใช่!
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ว่าจะมีปัญหาที่ท่านรู้สึกว่ากำลังพ่ายแพ้ในสงครามไซเบอร์ให้กับคนรุ่นใหม่ หรือการเกิดเหตุระเบิด จริง ๆ แล้วปัญหาประเทศไทยมันมีความขัดแย้งหลายตัวที่ซ้อนกันอยู่ ดังที่ดิฉันได้เคยพูดมาก่อนแล้วว่า ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ก็เป็นคู่ความขัดแย้งกับรัฐไทยหนึ่ง อาจจะไม่ใช่ความขัดแย้งหลัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการทำรัฐประหาร แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งนี้มีการขยายตัวจากการทำระเบิดในพื้นที่ก็ขยายมาเป็นภาคใต้ตอนบนและที่สุดก็มากรุงเทพฯ
ซึ่งท่านไม่ต้องการให้คนเข้าใจเช่นนั้น ดังนั้นเหตุระเบิดแต่ละครั้งก็มักจะโยนไปให้สิ่งที่ท่านถือว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมือง เวลาพูดถึงการขยายตัวของการวางระเบิดจากภาคใต้ก็ไปพูดเรื่อง Master Mind ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง อาจจะอยู่ต่างประเทศ คือดึงให้เป็นเรื่องของความขัดแย้งทางการเมืองที่ท่านถือเป็นความขัดแย้งสำคัญอยู่ตลอด
แต่ในทัศนะดิฉัน ระเบิดครั้งนี้มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของความขัดแย้งจากพื้นที่มาดีสเครดิตรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ ในช่วงเวลาสำคัญก็คือมีแขกจากต่างประเทศมาประชุม นี่เป็นการมองวิเคราะห์เข้ามาว่า ท่านจะเอาเรื่องการที่ท่านรู้สึกว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคดูเหมือนประสบความสำเร็จในการดึงคนรุ่นใหม่มา แล้วก็เอามาปนมั่วกับเรื่องระเบิด แล้วบอกว่าเป็น Hybrid War ดิฉันว่ามันมั่วนะ...มันคนละเรื่องกันเลย
ถามว่าเรื่องระเบิดมันเกี่ยวข้องอะไรกับพรรคการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วเขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องไซเบอร์
เรื่องระเบิดมันเกี่ยวข้องอะไรกับคนรุ่นใหม่ (16-17) ที่บอกว่าถูกข่าวลวง ท่านจะเอามาปนเปกันไม่ได้
ดิฉันถือว่าการพูดถึง Hybrid War แล้วเอาเรื่องของพรรคการเมือง เอาเรื่องของสงครามไซเบอร์ มาผสมกับระเบิดนั้น เป็นเรื่องที่ผิดมาก มันน่าผิดหวังว่าระดับ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นผู้นำกองทัพไทย เอาเรื่องแบบนี้มาปะปนแล้วมานำเสนอในระดับโลก ดิฉันว่ามันเป็นความไม่เข้าท่า อ่อนด้อย
นี่พูดอย่างหวังดีนะ ต่อไปถ้าท่านจะให้สัมภาษณ์อีก ให้ท่านมองความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับการเมืองในอารยประเทศก่อนที่ท่านจะพูด
อันที่สองท่านจะต้องมองเห็นว่ามีความขัดแย้งหลายความขัดแย้ง แล้วท่านจะจับเอามารวมแล้วพูดง่าย ๆ ว่าเป็นสงครามลูกผสม แปลว่าท่านกำลังทำสงครามกับประชาชนไทยทุกหมู่ทุกฝ่าย จับรวมเป็นอันเดียวกันจึงเรียกว่า Hybrid War เอาภาคใต้มาผสมกับพรรคการเมือง กับคนรุ่นใหม่ กับประชาชนทั่วไป นี่จึงเป็นที่มาของคำถามที่ว่า แล้วท่านกำลังทำสงครามกับประชาชนทั้งประเทศหรือ ท่านจึงใช้ความว่า Hybrid War
อีกอันคือท่านใช้คำว่า Fake news (ซึ่งดิฉันใช้คำว่าข่าวลวง) ดิฉันอยากจะเรียนท่านว่าประชาชนไทยถ้าเขามีการทะเลาะเบาะแว้งกัน เขาก็มีกฎหมายในการฟ้องร้องกันอยู่แล้ว แต่จริง ๆ คำว่า Fake news ในจุดมุ่งหมายของทางรัฐบาล มันเป็นข่าวปลอม ข่าวลวงที่มีเป้าหมายทางการเมือง
ถ้ามาใช้คำว่า Fake news ในความขัดแย้งที่สำคัญ ดิฉันอยากจะบอกว่ารัฐไทยนี่แหละที่ใช้ Fake news มาตลอด ตัวอย่าง Fake news ตัวฉกรรจ์เลยก็คือ "ผังล้มเจ้า" เป็นเรื่องเท็จแล้วนำมาออกโดยมีจุดมุ่งหมายในการทำลายฝ่ายการเมืองที่อยู่ตรงข้ามว่าเป็นพวกล้มเจ้า แล้วโยงหมดเลย ในที่สุดต้องสารภาพว่า "ผังล้มเจ้า" เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาลอย ๆ ไม่ได้มีมูลความจริง
"ผังล้มเจ้า" คือตัวอย่าง Fake news ที่เจ้าหน้าที่รัฐไทย (นายทหาร) กระทำต่อประชาชน ประชาชนจะทำ Fake news ต่อรัฐ มันเป็นไปไม่ได้ มันอาจจะมีเรื่องส่วนตัวระหว่างกัน และขณะนี้รัฐไทยมีการฟ้องประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนไม่มีสิทธิจะมาใช้ Fake news กับรัฐบาล คุณไม่ต้องมาตั้งศูนย์ฯ ทุกวันนี้ที่คุณไปเที่ยวฟ้อง...นับมาซิ...เท่าไหร่?
การใช้ภาษาอังกฤษหรู ๆ คำว่า Master Mind, Hybrid War, Fake news เพื่อให้ดูว่าเป็นการพูดแบบอินเตอร์ แต่ในความเป็นจริงดิฉันถือว่ามันผิดพลาดหมด ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาในประเทศไทยขณะนี้คุณว่าใครเป็น Master Mind ที่สั่งว่าให้เกิดพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมา ให้เขาไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ Master Mind ให้เขาไปวางระเบิด ทั้งหมดนี่คุณว่าเป็น Master Mind อันเดียวหรือ คือมันเป็นความขัดแย้งคนละส่วนกัน
ดังนั้นศัพท์ที่ใช้คำว่า Fake news หรือแม้กระทั่งการที่รัฐบาลนี้ตั้งศูนย์ Fake news ดิฉันว่ามันไม่เข้าท่าหรอก เขามีคนทำอยู่แล้ว นั่นคือหน่วยงานของตำรวจ ทหาร ที่ทำหน้าที่นี้มีอยู่แล้ว แล้วปฏิบัติการ I/O สมัยก่อนใช้วิทยุ (ในกรณี 6 ตุลา) มีการใช้วิทยุยานเกราะ ออกข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์ก็ปลุกระดมคนได้ เวลาเขาจะยึดอำนาจก็จะยึดสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุ แต่ปัจจุบันคุณมีหน่วยงานของกองทัพ ของตำรวจ ของข้าราชการ ที่ปฏิบัติการในการตรวจสอบและตอบโต้เป็นระดับหมื่นคนอยู่แล้ว ส่วนศูนย์ Fake news ดิฉันว่ามันเป็นปฏิบัติการจิตวิทยามากกว่า
ดิฉันอยากพูดมายัง ผบ.ทบ. ว่า ที่ท่านให้สัมภาษณ์แล้วใช้ศัพท์อะไรต่าง ๆ ข้างต้นนี้ ในทัศนะของประชาชนไทยเต็มขั้นอย่างดิฉันและคนอื่น ๆ รู้สึกว่ามันไม่ได้ความ เป็นคำพูดที่ดูไม่น่าเชื่อถือเลย ไม่ได้ดูดีทั้งในสายตาต่างประเทศและคนไทย นอกจากนั้นยังไม่ได้เป็นการชี้นำที่ถูกต้อง กลับชี้นำในทางที่ผิด ประหนึ่งว่าคนไทยและพรรคการเมืองที่เขามาต่อสู้ในเวทีรัฐสภา กลายเป็นคู่ขัดแย้ง เป็นศัตรูกับกองทัพไทย
ดิฉันคิดว่าเป็นความผิดพลาด ล้มเหลว ทั้งในด้านชี้นำในประเทศไทย ซึ่งไม่ถูกต้อง ถ้าคุณคิดว่าคุณจะทำให้กองทัพไทยมารบกับประชาชน อันนี้เป็นเรื่องคิดผิด
หรือคุณมองว่าคนรุ่นใหม่นั้นถูกปฏิบัติการจิตวิทยา ข่าวลวง โดยพรรคการเมือง นี่ก็เป็นเรื่องที่ผิด
แล้วก็เอาระเบิดมาผสมกับความคิดเห็นแตกต่างของประชาชนแล้วบอกว่านี่คือ Hybrid War นี่ก็เป็นเรื่องที่ผิด
รวมความแล้ว ผบ.ทบ. กำลังทำสิ่งที่ผิดพลาดต่อตัวเอง ต่อประเทศชาติ!!!
อ.ธิดากล่าวต่อว่า ดิฉนมองว่านี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ที่ไม่น่าชื่นชม และค่อนข้างจะใช้ศัพท์ทางการทหารและศัพท์ทางเรื่องของอินเตอร์เน็ตที่ไม่เข้าท่าหรือมันมั่ว เพราะว่า Fake news หรือสงครามไซเบอร์กับเรื่องของระเบิด ท่านเอามาผสมปนเปกัน ในทัศนะของดิฉัน นอกจากคำถามแรกว่าท่านพูดว่าท่านกำลังทำสงครามกับใคร ขณะนี้การวางระเบิดค่อนข้างจะแจ่มชัดว่ามาจากความขัดแย้งในเรื่องภาคใต้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก
แต่อยากจะบอกว่ารัฐไทยโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง พยายามที่จะทำให้เหตุระเบิดแต่ละครั้ง (หลังปี 49 เป็นต้นมา) โยงมาเป็นเรื่องของคนเสื้อแดง และเมื่อปรากฎความจริงว่าไม่ใช่ ก็ทำอ้อมแอ้มแล้วก็เงียบ ๆ จากปี 49 มาจนบัดนี้ พยายามจะโยงโดยใช้คำว่า "คู่ขัดแย้งเดิม" ที่ท่านคิดว่าเป็นด้านหลักก็คือสิ่งที่ท่านคิดว่าเป็นระบอบทุนสามานย์ ระบอบทักษิณ ขัดแย้งกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม และรัฐข้าราชการไทย
ดิฉันอยากจะบอกว่าท่านเอามาผสมแล้วบอกว่าเป็นไฮบริดนั้น ไม่ใช่!
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ว่าจะมีปัญหาที่ท่านรู้สึกว่ากำลังพ่ายแพ้ในสงครามไซเบอร์ให้กับคนรุ่นใหม่ หรือการเกิดเหตุระเบิด จริง ๆ แล้วปัญหาประเทศไทยมันมีความขัดแย้งหลายตัวที่ซ้อนกันอยู่ ดังที่ดิฉันได้เคยพูดมาก่อนแล้วว่า ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ก็เป็นคู่ความขัดแย้งกับรัฐไทยหนึ่ง อาจจะไม่ใช่ความขัดแย้งหลัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการทำรัฐประหาร แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งนี้มีการขยายตัวจากการทำระเบิดในพื้นที่ก็ขยายมาเป็นภาคใต้ตอนบนและที่สุดก็มากรุงเทพฯ
ซึ่งท่านไม่ต้องการให้คนเข้าใจเช่นนั้น ดังนั้นเหตุระเบิดแต่ละครั้งก็มักจะโยนไปให้สิ่งที่ท่านถือว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมือง เวลาพูดถึงการขยายตัวของการวางระเบิดจากภาคใต้ก็ไปพูดเรื่อง Master Mind ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง อาจจะอยู่ต่างประเทศ คือดึงให้เป็นเรื่องของความขัดแย้งทางการเมืองที่ท่านถือเป็นความขัดแย้งสำคัญอยู่ตลอด
แต่ในทัศนะดิฉัน ระเบิดครั้งนี้มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของความขัดแย้งจากพื้นที่มาดีสเครดิตรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ ในช่วงเวลาสำคัญก็คือมีแขกจากต่างประเทศมาประชุม นี่เป็นการมองวิเคราะห์เข้ามาว่า ท่านจะเอาเรื่องการที่ท่านรู้สึกว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคดูเหมือนประสบความสำเร็จในการดึงคนรุ่นใหม่มา แล้วก็เอามาปนมั่วกับเรื่องระเบิด แล้วบอกว่าเป็น Hybrid War ดิฉันว่ามันมั่วนะ...มันคนละเรื่องกันเลย
ถามว่าเรื่องระเบิดมันเกี่ยวข้องอะไรกับพรรคการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วเขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องไซเบอร์
เรื่องระเบิดมันเกี่ยวข้องอะไรกับคนรุ่นใหม่ (16-17) ที่บอกว่าถูกข่าวลวง ท่านจะเอามาปนเปกันไม่ได้
ดิฉันถือว่าการพูดถึง Hybrid War แล้วเอาเรื่องของพรรคการเมือง เอาเรื่องของสงครามไซเบอร์ มาผสมกับระเบิดนั้น เป็นเรื่องที่ผิดมาก มันน่าผิดหวังว่าระดับ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นผู้นำกองทัพไทย เอาเรื่องแบบนี้มาปะปนแล้วมานำเสนอในระดับโลก ดิฉันว่ามันเป็นความไม่เข้าท่า อ่อนด้อย
ภาพจากรอยเตอร์ |
นี่พูดอย่างหวังดีนะ ต่อไปถ้าท่านจะให้สัมภาษณ์อีก ให้ท่านมองความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับการเมืองในอารยประเทศก่อนที่ท่านจะพูด
อันที่สองท่านจะต้องมองเห็นว่ามีความขัดแย้งหลายความขัดแย้ง แล้วท่านจะจับเอามารวมแล้วพูดง่าย ๆ ว่าเป็นสงครามลูกผสม แปลว่าท่านกำลังทำสงครามกับประชาชนไทยทุกหมู่ทุกฝ่าย จับรวมเป็นอันเดียวกันจึงเรียกว่า Hybrid War เอาภาคใต้มาผสมกับพรรคการเมือง กับคนรุ่นใหม่ กับประชาชนทั่วไป นี่จึงเป็นที่มาของคำถามที่ว่า แล้วท่านกำลังทำสงครามกับประชาชนทั้งประเทศหรือ ท่านจึงใช้ความว่า Hybrid War
อีกอันคือท่านใช้คำว่า Fake news (ซึ่งดิฉันใช้คำว่าข่าวลวง) ดิฉันอยากจะเรียนท่านว่าประชาชนไทยถ้าเขามีการทะเลาะเบาะแว้งกัน เขาก็มีกฎหมายในการฟ้องร้องกันอยู่แล้ว แต่จริง ๆ คำว่า Fake news ในจุดมุ่งหมายของทางรัฐบาล มันเป็นข่าวปลอม ข่าวลวงที่มีเป้าหมายทางการเมือง
ถ้ามาใช้คำว่า Fake news ในความขัดแย้งที่สำคัญ ดิฉันอยากจะบอกว่ารัฐไทยนี่แหละที่ใช้ Fake news มาตลอด ตัวอย่าง Fake news ตัวฉกรรจ์เลยก็คือ "ผังล้มเจ้า" เป็นเรื่องเท็จแล้วนำมาออกโดยมีจุดมุ่งหมายในการทำลายฝ่ายการเมืองที่อยู่ตรงข้ามว่าเป็นพวกล้มเจ้า แล้วโยงหมดเลย ในที่สุดต้องสารภาพว่า "ผังล้มเจ้า" เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาลอย ๆ ไม่ได้มีมูลความจริง
"ผังล้มเจ้า" คือตัวอย่าง Fake news ที่เจ้าหน้าที่รัฐไทย (นายทหาร) กระทำต่อประชาชน ประชาชนจะทำ Fake news ต่อรัฐ มันเป็นไปไม่ได้ มันอาจจะมีเรื่องส่วนตัวระหว่างกัน และขณะนี้รัฐไทยมีการฟ้องประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนไม่มีสิทธิจะมาใช้ Fake news กับรัฐบาล คุณไม่ต้องมาตั้งศูนย์ฯ ทุกวันนี้ที่คุณไปเที่ยวฟ้อง...นับมาซิ...เท่าไหร่?
การใช้ภาษาอังกฤษหรู ๆ คำว่า Master Mind, Hybrid War, Fake news เพื่อให้ดูว่าเป็นการพูดแบบอินเตอร์ แต่ในความเป็นจริงดิฉันถือว่ามันผิดพลาดหมด ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาในประเทศไทยขณะนี้คุณว่าใครเป็น Master Mind ที่สั่งว่าให้เกิดพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมา ให้เขาไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ Master Mind ให้เขาไปวางระเบิด ทั้งหมดนี่คุณว่าเป็น Master Mind อันเดียวหรือ คือมันเป็นความขัดแย้งคนละส่วนกัน
ดังนั้นศัพท์ที่ใช้คำว่า Fake news หรือแม้กระทั่งการที่รัฐบาลนี้ตั้งศูนย์ Fake news ดิฉันว่ามันไม่เข้าท่าหรอก เขามีคนทำอยู่แล้ว นั่นคือหน่วยงานของตำรวจ ทหาร ที่ทำหน้าที่นี้มีอยู่แล้ว แล้วปฏิบัติการ I/O สมัยก่อนใช้วิทยุ (ในกรณี 6 ตุลา) มีการใช้วิทยุยานเกราะ ออกข่าวสถานีวิทยุโทรทัศน์ก็ปลุกระดมคนได้ เวลาเขาจะยึดอำนาจก็จะยึดสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุ แต่ปัจจุบันคุณมีหน่วยงานของกองทัพ ของตำรวจ ของข้าราชการ ที่ปฏิบัติการในการตรวจสอบและตอบโต้เป็นระดับหมื่นคนอยู่แล้ว ส่วนศูนย์ Fake news ดิฉันว่ามันเป็นปฏิบัติการจิตวิทยามากกว่า
ดิฉันอยากพูดมายัง ผบ.ทบ. ว่า ที่ท่านให้สัมภาษณ์แล้วใช้ศัพท์อะไรต่าง ๆ ข้างต้นนี้ ในทัศนะของประชาชนไทยเต็มขั้นอย่างดิฉันและคนอื่น ๆ รู้สึกว่ามันไม่ได้ความ เป็นคำพูดที่ดูไม่น่าเชื่อถือเลย ไม่ได้ดูดีทั้งในสายตาต่างประเทศและคนไทย นอกจากนั้นยังไม่ได้เป็นการชี้นำที่ถูกต้อง กลับชี้นำในทางที่ผิด ประหนึ่งว่าคนไทยและพรรคการเมืองที่เขามาต่อสู้ในเวทีรัฐสภา กลายเป็นคู่ขัดแย้ง เป็นศัตรูกับกองทัพไทย
ดิฉันคิดว่าเป็นความผิดพลาด ล้มเหลว ทั้งในด้านชี้นำในประเทศไทย ซึ่งไม่ถูกต้อง ถ้าคุณคิดว่าคุณจะทำให้กองทัพไทยมารบกับประชาชน อันนี้เป็นเรื่องคิดผิด
หรือคุณมองว่าคนรุ่นใหม่นั้นถูกปฏิบัติการจิตวิทยา ข่าวลวง โดยพรรคการเมือง นี่ก็เป็นเรื่องที่ผิด
แล้วก็เอาระเบิดมาผสมกับความคิดเห็นแตกต่างของประชาชนแล้วบอกว่านี่คือ Hybrid War นี่ก็เป็นเรื่องที่ผิด
รวมความแล้ว ผบ.ทบ. กำลังทำสิ่งที่ผิดพลาดต่อตัวเอง ต่อประเทศชาติ!!!