วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2564

โตโต้นำสมาชิก Wevo บุกสตช.ถามความคืบหน้ากรณีปาไปป์บอมคืนเคาน์ดาวน์

 


โตโต้ นำสมาชิกกลุ่มวีโว่(Wevo) ขอเข้าพบ ผบ.ตร. ยื่นจดหมายปิดผนึก เพื่อติดตามคดีปาระเบิดงาน Wevo countdown 2021


เมื่อเวลา 16:30 น.วันที่ 8 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนปทุมวัน กทม. นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้ากลุ่ม wevo พร้อมสมาชิกกลุ่มวีโว่ (Wevo) จำนวน 40 คน โดยจะส่งตัวแทนขอเข้าพบ ผบ.ตร.ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นจดหมายปิดผนึกถามความคืบหน้าคดีปาระเบิดงาน Wevo countdown 2021 ที่บริเวณถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา เรื่องและคดีไม่คืบหน้าเลย 


นายปิยรัฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.ชนะสงคราม และกองบัญชาการตำรวจนครบาล บช.น. เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังเหตุการณ์ปาระเบิดไปป์บอมบ์ผ่านไป 7 วันแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี โดยได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ระหว่างการติดตามกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่จะหาได้ในช่วงเวลานี้ ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ และยังเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมยังมีประสิทธิภาพพอที่จะสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้


ซึ่งวันเกิดเหตุปาไปป์บอมบ์ มีประชาชนนับร้อย สื่อมวลชน และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย แต่ก็มีการปล่อยปละละเลย วันนี้จึงต้องการมาพบ ผบ.ตร.เพื่อติดตามสอบถามความคืบหน้าทางคดีจาก ผบ.ตร. รวมทั้งติดตามทุกคดีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่น คดีบ่อนพนัน รวมถึงคดีการลักลอบพาต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย


ตนจะให้เวลาตำรวจ 10 นาที ไปบอกผบ.ตร. ให้ออกมารับหนังสือ หากไม่ออกมา จะอ่านจดหมายที่เตรียมมาหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ประชาชนได้ทราบทั่วกัน


ต่อมา โตโต้ ได้อ่านจดหมายเปิดผนึกถึง ผบ.ตร.ให้เวลา 3 วัน จะมาติดตามความคืบหน้า


เวลา16.50 น.ภายหลังนายปิยรัฐ ได้เดินเข้าไปพร้อมเจ้าหน้าที่นายตำรวจเพื่อยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ได้เปิดอ่านจดหมายเปิดผนึก มีใจความว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 23.35 น.ของวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เกิดเหตุคนมีร้ายจำนวน 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบทะเบียนมุ่งหน้าจากถนนราชดำเนินผ่านไปยังบริเวณหน้ากองสลากเก่า (สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม) ก่อนจะขว้างปาวัตถุคล้ายระเบิดชนิดทำเอง เข้ามายังพื้นที่จัดกิจกรรมของกลุ่มประชาชนร่วมกับกลุ่ม WEVOLUNTEER (WEVO) จนเกิดการระเบิดขึ้น และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย


หลังจากเกิดเหตุ ตัวแทนกลุ่ม WEVO ได้เร่งดำเนินการติดตามตัวคนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุหลบหนีด้วยความเร็วมุ่งตรงไปยังสะพานผ่านฟ้าลีลาศ แต่สุดวิสัยจะติดตามทันได้ตัวคนร้าย จึงได้เร่งประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลในพื้นที่สน.ชนะสงคราม เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในรายละเอียด


จากวันนั้น จนถึงวันนี้เป็นเวลามากกว่า 7 วันแล้วที่คดีไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย ทั้งที่วันเวลาที่เกิดเหตุในพื้นที่บริเวณโดยรอบพบกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกจำนวนมาก อีกทั้งยังมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไม่น้อยกว่า 3 กองร้อย ประจำการตามถนนราชดำเนินกลางเพื่อฝ้าระวังเหตุอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญยังคงมีประชาชน และสื่อมวลชนเป็นพยานในที่เกิดเกิดเหตุหลายราย


แต่เหตุใดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย และดูแลความสงบเรียบร้อยจึงไม่สามารถทำหน้าที่ของตนได้อย่างเต็มความสามารถ หรือจงใจให้ประชาชนเข้าใจว่าผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลที่มีประโยชน์แอบแฝงไม่ทางหนึ่งก็ทางใดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เฉกเช่น กรณีบ่อนการพนัน การลักลอบค้าแรงงานข้ามชาติ จนเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในขณะนี้


เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา และสงสัยต่อการทำหน้าที่ของตำรวจไทยทางกลุ่ม WEVO จึงมีความปรารถนาดีต่อพี่น้องตำรวจที่ยังมีจิตสำนึกรักในเกียรติ ศักดิ์ศรี และหน้าที่ของตน เราขอให้กำลังใจ และส่งความหวังมายังเจ้าหน้าที่ทุกนายให้ตื่นจากความหวาดกลัว ตื่นจากความลุ่มหลงในลาภยศสรรเสริญ และตื่นความอคติในประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ที่สำคัญตื่นจากการอยู่ใต้คำสั่งของทหารการเมืองผู้เหยียบย่ำเกียรติตำรวจเพื่อเป็นใหญ่มาหลายชั่วอายุคน ขอให้ตำรวจไทยทุกคนทุกนาย กล้าหาญที่จะปฏิเสธคำสั่งที่ไม่ชอบ กล้าหาญที่จะปฏิบัติตนให้ดำรงอยู่อย่างผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง


“ตื่นเถิดตำรวจกล้า ปวงประชาจะคุ้มภัย”


มวลชนอาสา (We Volunteer) 


หลังอ่านจดหมายเปิดผนึกเสร็จ นายโตโต้ และสมาชิกกลุ่ม WEVO ได้แยกย้ายกันกลับโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆเกิดขึ้น

ประมวลภาพ