ราษฎรบุกคลังยื่น 3 ข้อ เยียวยาโควิดถ้วนหน้าเท่าเทียม ที่หน้าประตูกระทรวง หลังปิดประตูเข้า-ออก ให้เวลาพิจารณาภายใน 7 วัน
วันนี้ (22 ม.ค. 64) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่หน้าประตู 4 กระทรวงการคลัง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ พร้อมมวลชนกลุ่มราษฎร รวมตัวยื่นหนังสือกรณีโครงการเราชนะ เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนได้รับการเยียวยาที่เท่าเทียมกัน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมี นางเฉลิมรัตน์ อิ่มนุกูลกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
ทั้งนี้กระทรวงการคลังปิดประตูทางเข้าและออก โดยพ.ต.อ.กฤษฎางค์ จิตตรีพล ผกก.สน.บางซื่อ นำเจ้าหน้าที่เจรจาให้ถอยห่างจากประตู เนื่องจากเกิดความแออัด เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ขณะที่มวลชนได้ตะโกนกดดันให้เจ้าหน้าที่เปิดประตู แต่ก็ไม่เป็นผล
ทำให้"ภาณุพงศ์"ต้องอ่านข้อเรียกร้องดังกล่าว ที่บริเวณหน้าประตู 4 โดยจดหมายเปิดผนึกจากราษฎรถึง รมว.คลัง ระบุว่า
เนื่องด้วยปัจจุบันได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในประเทศ ก่อให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง ส่งผลให้พี่น้องประชาชนต้องประสบความทุกข์ยาก แต่รัฐบาลกลับไม่สามารถช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนจำนวนมากเข้าไม่ถึงการเยียวยาจากโครงการคนละครึ่งเฟสสอง ทั้งจากที่ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และต้องแย่งชิงกันลงทะเบียนรับสิทธิจนสิทธิหมดลงในเวลาไม่ถึงห้านาที เป็นข้อตอกย้ำว่ามาตรการเยียวยาประชาชนของรัฐบาลลัมเหลวโดยสิ้นเชิง
ดังนั้น ราษภูรจึงขอสนอแนะให้พิจารณาตัดลดงบประมาณที่สูงเกินความจำเป็น ไม่เหมาะสมแก่เวลา หรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะมาใช้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนดังต่อไปนี้
1. เยียวยาประชาชนอย่างถ้วนหน้าเท่าเทียม โดยให้รัฐเยียวยาประชาชนผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปด้วยเงินรายได้พื้นฐานถ้วนหน้า เดือนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยมาตรการดังกล่าวจะใช้งบประมาณ 525,000 ล้านบาท หากตัดลดและโยกย้ายงบที่ไม่จำเป็นข้างต้นรวมกับงบประมาณที่คงเหลือจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรงการคลังกู้เงิน ฯ ก็จะมีบประมาณเพียงพอเยียวยาประชาชนได้อย่างถ้วนหน้า
2. นำเข้าและกระจายวัคซีนโควิต-19 แก่ทุกคนอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และทันท่วงที และเป็นการควบคุมการแพร่กระจายของโรคและเสริมสร้างความมั่นใจและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
3. ลดหรือช่วยอุดหนุนค่าครองชีพของประชาชน ทั้งค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าโดยสาร อย่างน้อยเป็นวลา 3 เดือน และสำหรับนักเรียน นักศึกษาจะต้องมีการลดค่าเล่าเรียน พร้อมทั้งช่วยอุดหนุนคำใช้จ่ายที่เกิดจากการเรียนออนไลน์ด้วย
ทั้งนี้ ภาณุพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ให้เวลาทางกระทรวงการคลังพิจารณาข้อเรียกร้องภายใน 7 วัน หากไม่มีการตอบรับใด ๆ จะมีการยกระดับการเรียกร้องให้เข้มข้นขึ้นต่อไป
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ราษฎร #TheRatsadon #เยียวยาถ้วนหน้า
ประมวลภาพ