จม.จากแดน4 “อานนท์” เขียน “ความรู้สึกในห้องพิจารณาคดีลับ” บอกลูก 3 ธ.ค. นี้ วันพิพากษาอีกคดีก่อนโดนย้ายไปคลองเปรม พ่อจะเดินไปเผชิญด้วยความกล้าหาญในทุกคดีจากนี้ จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
วันที่ 30 พ.ย. 2567 เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์จดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อความในจดหมายฉบับวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ระบุว่า
เสียดายเมื่อวานที่พ่อไม่ได้อุ้ม ได้กอดก่อนกลับจากศาล ศาลให้พาตัวออกจากห้องก่อนกำหนด เจ้าขาลในอ้อมอกแม่และอ้อมแขนของลุงป้าน้าอาที่มาให้กำลังใจดูร่าเริงสมวัย อาจบางทีเราเข้าใจว่ามีกำลังใจเต็มเปี่ยมแต่พอได้รับกำลังใจใหม่ๆกลับทำให้เรารู้ว่าเราต้องการกำลังใจ ทุกแววตาที่ปรารถนาดี ทุกความห่วงใยที่ได้รับหน้าห้องพิจารณาลับ คือกำลังใจ คือพลังใจ คือถ้อยคำย้ำเตือนว่าการต่อสู้ของเรายังดำเนินอยู่และจะยัง ดำรงเช่นนี้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
29 พฤศจิกายน 2567 ถึงปราณและขาล ที่คิดถึง
ในห้วงเวลาที่ชีวิตเผชิญกับวิกฤติ มนุษย์เรามีความจำเป็นต้องกล้าหาญ เป็นความกล้าหาญที่จำเป็นอย่างยิ่งและเราย่อมตระหนักรู้ได้เมื่อบังเกิดความกล้าหาญนั้นแล้ว เราอาจพร่ำบ่นคำว่ากล้าหาญได้เป็นร้อยเป็นพันครั้ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความมืดมนอลธการ เผชิญกับวิกฤติ เราจึงอาจรู้ว่าระหว่างเสียงที่เปล่งออกมาจากปากกับเสียงที่เปล่งออกมาจากหัวใจมันเป็ยความกล้าหาญคนละอย่างกัน
พ่อรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ความกล้าหาญบังเกิดขึ้นในยามจำเป็นต้องกล้าหาญเพราะหากปราศจากความกล้าหาญในยามจำเป็น หลายอย่างอาจไม่เกิดขึ้น ผลลัพท์อาจเปลี่ยนไป “จำเป็นต้องกล้าหาญ” จึงเป็นความกล้าหาญที่แท้จริง
ภาวนาให้ความกล้าหาญเช่นว่านี้ยังดำรงอยู่ และบังเกิดขึ้นทุกครั้งที่จำเป็นต้องใช้ ขอบคุณทุกกำลังใจ ที่ทำให้ความกล้าหาญในยามจำเป็น งดงามและเปี่ยมพลัง
3 ธันวาคม 2567 วันพิพากษาพ่ออีกคดีก่อนโดนย้ายไปคลองเปรม พ่อจะเดินไปเผชิญด้วยความกล้าหาญและกล้าหาญในทุกคดีจากนี้จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
รักและคิดถึงลูกทั้งสอง
อานนท์ นำภา
สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63
จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564
โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท
ทำให้ปัจจุบันนี้ อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20 วัน เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และ 17 ม.ค. 2567
ทั้งนี้ภายในเดือน ธันวาคม 2567 นี้ อานนท์ นำภา มีนัดฟังคำพิพากษาอีก 2 คดี คือวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา คดีเขียนจดหมายถึงกษัตริย์ และวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา คดีแฮรี่พอร์ตเตอร์ 1 กรณีแต่ปราศรัยที่หน้าร้านแมคโดนัล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563