วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

จดหมายจากเรือนจำ “อานนท์” เขียน “ภาวะที่เสาหลักของสังคมกลายเป็นไม้หลักปักขี้เลน การบันทึกจึงอาจเป็นสิ่งที่ทำได้และจะส่งผลให้คนรุ่นต่อๆไป ได้เรียนรู้และรับรู้”

 


จดหมายจากเรือนจำ “อานนท์” เขียน “ภาวะที่เสาหลักของสังคมกลายเป็นไม้หลักปักขี้เลน การบันทึกจึงอาจเป็นสิ่งที่ทำได้และจะส่งผลให้คนรุ่นต่อๆไป ได้เรียนรู้และรับรู้”


เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2567 เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์ภาพจดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อความในจดหมายฉบับวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ระบุว่า


วันนี้กลับจากศาลอาญาถึงเรือนจำมืดค่ำ ระหว่างทางเดินกลับแดน 4 มองเห็นดาวดวงหนึ่งส่องแสงสว่างจ้า ถ้าจะพูดให้โรแมนติกก็อาจบอกว่า “ดาวแห่งศรัทธา” แต่ความจริงนึกในใจว่า เอ๊ะ! มันดาวหรือดาวเทียม หรือเป็นเครื่องบินกันแน่… แต่มองดูแล้วสวยดี


แม้ไม่ได้เจอปราณกับขาลที่ศาล แต่ก็ยังมีบรรดาลุง ป้า น้า อา มาให้กำลังใจพ่อในฐานะทนายความ ในคดีม.112 ที่ศาลจะไม่ให้เป็นทนายเพราะแต่งกายไม่เรียบร้อย ในคดีที่จำเลยลี้ภัยการเมืองแต่ศาลยังพิจารณาต่อโดยไม่มีตัวจำเลย และในคดีที่ศาลเร่งคดีให้เสร็จโดยไม่สืบพยาน พนักงานสอบสวน


แน่นอนว่าคดีที่จำเลยโต้แย้งว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้วอัยการไม่สืบสวน หรือศาลไม่เอาพนักงานสอบสวนมาสืบ ศาลต้องพิพากษายกฟ้องเพราะโจทก์ไม่นำสืบข้อโต้แย้งนี้ แต่สำหรับม.112 ที่จำเลยลี้ภัยการเมืองแล้ว คดีจะต้องห้ามอุทธรณ์โดยปริยายเพราะไม่มีตัวจำเลยมายื่นอุทธรณ์ ซึ่งตามกฎหมายใหม่ทนายความยื่นแทนไม่ได้ ดังนั้นคดีนี้แม้ศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษามาอย่างไรก็จะสิ้นสุดทันที อุทธรณ์ไม่ได้ ทำให้พ่อทำได้เพียงเขียนบันทึกโต้แย้งไว้ในสำนวน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะได้เห็นถึงความไม่ยุติธรรมในอนาคตต่อไป


ในหลาย ๆ เรื่องและหลาย ๆ คดี เราทำได้เพียงบันทึกเรื่องราวเอาไว้ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไปได้ศึกษาถึงความอยุติธรรมและเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงที่บ้านเมืองป่วยไข้นี้ ภาวะที่เสาหลักของสังคมกลายเป็นไม้หลักปักขี้เลน การบันทึกจึงอาจเป็นสิ่งที่ทำได้และจะส่งผลให้คนรุ่นต่อๆไป ได้เรียนรู้และรับรู้


ถามว่าเหนื่อยมั้ย ท้อมั้ย? พ่อต้องบอกว่าถือเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่นี้ หน้าที่ทางประวัติศาสตร์ของตัวละครเล็กๆคนนึง ขอให้ลูกทั้งสองเป็นกำลังใจให้พ่อด้วย


อานนท์ นำภา


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564


โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ทำให้ปัจจุบันนี้ อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20 วัน เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และ 17 ม.ค. 2567


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อานนท์นำภา #นิรโทษกรรมประชาชน