จากนั้นเป็นกิจกรรมรำลึกโดยวางดอกไม้และจุดเทียนประกอบเพลง “นักสู้ธุลีดิน” ภายหลังจากเสร็จกิจกรรมดังกล่าว อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยกล่าวถึงการจัดงานในวันนี้่ว่า
"การจัดงานในวันนี้ก็เหมือนทุกปีคือมีการทำบุญซึ่งก็มีรายชื่อของวีรชนทั้งเมษา-พฤษภาในการทำวันนี้ ส่วนใหญ่ของงานก็เป็นประเพณีในการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนา เราก็จัดพิธีรำลึกเล็ก ๆ นั่นก็คือมีการจุดเทียน มีการวางดอกไม้ แล้วก็เปิดเพลงไว้อาลัยเพื่อเป็นการคารวะผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งนับเป็นวาระครบรอบ 9 ปีมาแล้ว"
แน่นอนบางคนอาจจะสงสัยว่าเราทำได้แค่นี้หรือเปล่า?
"ก็คือพวกคุณมาทำบุญกันทุกปี แต่ในทัศนะของอ.ธิดาก็คิดว่า เราดูประหนึ่งว่าเป็นการทำบุญมาตลอด 9 ปี ดิฉันเชื่อว่าความรู้สึกของพี่น้องประชาชนรวมทั้งแกนนำ พี่น้องประชาชนที่ได้ร่วมชะตากรรมมาเป็นเวลากว่า 10 ปี รวมทั้งโดยเฉพาะในเหตุการณ์นี้นั้น เขาไม่ได้ลืม และสิ่งเหล่านี้มันยังท่วมท้นอยู่ในหัวใจของเขาทั้งหมด" อ.ธิดากล่าว
เพราะฉะนั้นภารกิจก็คือ นอกจากทวงถามความยุติธรรมซึ่งเราได้พยายามทำอยู่ตลอด แต่ว่าประสบปัญหา สำหรับการสั่งการในการที่ทำให้เกิดการสูญเสียครั้งนี้ ภารกิจนี้ก็ต้องเป็นภารกิจที่เราทิ้งไม่ได้ แม้ว่าจะมีปัญหาอ้างว่ามีการยื่นผิดศาลบ้าง ปปช.ไม่สั่งฟ้องบ้าง
สำหรับคดีอาญา 30 ปี ก็ไม่สาย!!!
ในหลายประเทศการเข่นฆ่าประชาชนนั้นกว่าจะได้สะสางมันจะทำได้ก็ต่อเมื่อบรรยากาศการเมืองเป็นประชาธิปไตยและก็สามารถทวงถามความยุติธรรมได้ แต่ถ้าตราบใดที่ยังเป็นระบอบอื่นที่ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เราต้องเจออุปสรรค แต่ในทัศนะของอ.ธิดาเชื่อว่าประชาชนแม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันนี้ไม่ได้ท้อถอย เราก็อยากจะให้เข้าใจว่า ในอดีตรวมทั้งในประเทศอื่น ๆ นั้น เขาใช้เวลานานมาก หลายสิบปี
อ.ธิดาทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "ที่สำคัญก็คือการต่อสู้ของประชาชนเพื่อให้ได้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง เมื่อนั้นความยุติธรรมจึงจะสามารถเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นในขณะนี้มันเป็นการสะสมในเชิงคุณภาพของประชาชน ให้เข้าใจว่าการเรียกร้องความยุติธรรม กับการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และการเรียกร้องระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน"
