นพ.เหวง
โตจิราการ #19ปีนวมทองไพรวัลย์ : แก่นอยู่ที่คำนี้
เราต้องแบกรับภารกิจ หยุดรัฐประหารให้ได้
ในงาน
19 ปี 19 กันยายน 2549 ต่อต้านรัฐประหาร
รำลึก
“นวมทอง ไพรวัลย์”
วันที่
31 ตุลาคม 2568
ณ
สดมอนุสรณ์นวมทองไพรวัลย์
หน้าสำนักงานใหญ่
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต
ขอน้อมรำลึก
เสด็จสู่สวรรคาลัย กราบเรียนพี่น้องผู้รักลุงนวมทอง ผู้รักประชาธิปไตย
และผู้ที่เกลียดชังรัฐประหารที่เคารพรักทุกท่าน
ผมอยากจะเริ่มอย่างนี้ครับ
การที่เรามารำลึกลุงนวมทอง แก่นข้อหนึ่งที่ผมอยากจะกราบเรียนก็คือว่า
เราจะบอกกับลุงนวมทอง ไม่ว่าท่านจะสถิตอยู่ที่ไหนก็ตามว่า เราจะแบกรับภารกิจของลุงนวมทองไปจนกว่าจะสำเร็จ
ใช่ไหมครับ?
ภารกิจที่สำคัญที่สุดของท่านอยู่ตรงนี้ครับ
“ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก” ถูกต้องไหมครับ?
ท่านอาจจะเขียนหนังสือยาวหลายแผ่นหลายหน้า ผมไปนั่งอาจซ้ำหลายครั้ง
แต่สำหรับผมแล้วแก่นอยู่ที่คำนี้ครับ “ชาติหน้าเกิดมาคงไม่เจอการปฏิวัติอีก” ดังนั้นพวกเราจะต้องแบกรับภารกิจในการที่จะหยุดการรัฐประหารในประเทศไทยให้ได้
ถูกต้องหรือเปล่า?
ผมอยากจะร่วมคิดกับพี่น้องนะครับว่าเราจะหยุดยังไง?
เริ่มจากความเป็นจริงในปัจจุบันก็คือว่า ขณะนี้ผมอยากใช้ภาษาไพเราะ
ผมไม่อยากใช้ภาษาหยาบคาย ก็คือมรดกบาปของคณะคสช.ยังคงดำรงอยู่ ใช่มั้ย?
ที่จริงผมอยากจะใช้ภาษาชาวบ้าน ขออนุญาตนะครับถ้าหากว่าหยาบคาย ขอประทานอภัยด้วย ว่าปีศาจร้ายของคสช.ยังสิงสถิตในสังคมไทย
ใช่หรือเปล่า? มันอยู่ในรัฐธรรมนูญ 60 นี่ครับ เพราะฉะนั้นแสดงออกชัด ๆ แสดงชัดมากเลยก็คือว่าการเลือกตั้งปี
66 ประชาชน 25 ล้าน 6 แสนกว่าคน จาก 35 ล้านคน มาเลือกฟากประชาธิปไตย
เพราะฉะนั้นแสดงว่าประชาชนประชาธิปไตยของประเทศไทยต้องการให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย
ใช่ไหมครับ? แต่ปรากฏว่าฝั่งประชาธิปไตยไม่สามารถมาจัดตั้งรัฐบาลและบริหารประเทศได้
เกิดจากอะไรครับ? เรื่องนี้ต้องไม่ลืมนะ ถ้าท่านลืม ผมว่าน่าเป็นห่วง
เพราะมันจะทำให้แก่นการต่อสู้ของพวกเราหายไปเลย ต้องไม่ลืมข้อนี้ครับ
ที่มันเป็นไปไม่ได้เพราะเรามีสว.ลากตั้ง 250 คน ของพวกคสช. ใช่หรือเปล่า?
มันก็เลยเกิดรัฐบาลข้ามขั้ว ตระบัดสัตย์ ใช่มั้ย?
ประเทศไทยก็เลยอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในวันนี้ จะเรียกว่าถอยหลังก็ได้
นี่คือเรื่องที่ 1 นะ
พอเรื่องที่
1 ผ่านพ้นไปแทนที่มันจะดีขึ้น กลับแย่กว่าเก่าอีก ทำไมล่ะหมอ
หมอมองโลกในแง่ร้ายหรือเปล่า ไม่ใช่ครับ เพราะมันเกิดเลือกตั้งสว.ตามสายวิชาชีพ
แล้วก็ปรากฏว่าพวกอนุรักษ์นิยมใช้ความสามารถของพวกเขาเลือกสว.ที่เรียกว่าสายสีน้ำเงินขึ้นมา
ใช่ไหมครับ? ปรากฏว่าขณะนี้อำนาจจริง ๆ มันอยู่ในมือของสว.สายสีน้ำเงินครับ
สว.สายสีน้ำเงินมีอำนาจในการที่จะกลั่นกรองสนับสนุนเลือกตั้งองค์กรอิสระได้ทั้งหมด
แล้วองค์กรอิสระทั้งหมดนี่แหละ พี่น้องที่เคารพ ในความเห็นส่วนตัวของผมนะครับว่า
มีอำนาจมากยิ่งกว่าสส.ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศอีกใช่ไหม?
แล้วอย่างนี้เป็นประชาธิปไตยยังไง?
สว.ซึ่งไปวางแผนแยบยลมาก จนสามารถเลือกตั้งขึ้นมาเป็นกลุ่มใหญ่
เสร็จแล้วมายึดอำนาจในการที่มากลั่นกรอง คัดกรอง คัดสรร องค์กรอิสระ
ซึ่งมีอำนาจมากกว่าสส.ที่มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน
รัฐธรรมนูญปี
2560 เป็นรัฐธรรมนูญมรดกบาปของคสช. เป็นรัฐธรรมนูญที่ยึดอำนาจของคณะรัฐประหารให้ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
อย่างที่ผมใช้ภาษาชาวบ้านว่า เป็นรัฐธรรมนูญปีศาจร้ายของคณะรัฐประหาร ใช่ไหมครับ?
ดังนั้นหน้าที่ของเราก็คือต้องเปลี่ยนแปลง
ผมไม่อยากจะใช้คำว่ายกเลิก เดี๋ยวเขาจะยัดข้อหาให้ผมอีก เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญปี
2560 ให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชน อ้าว...เกิดเรื่องอีก ศาลรัฐธรรมนูญปี 2564
เขาเคยวางหลักไว้ว่าอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญก็คือประชาชน แต่ปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญในปีปัจจุบันท่านเขียนใหม่
ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะไปขัดแย้งกับที่ท่านวางไว้ในปี 2564 หรือเปล่า ท่านเขียนบอกว่า
รัฐสภาไม่สามารถเลือกสสร.มายกร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง
ในขณะนี้เราอยู่ในระบบรัฐสภา
เราต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ภายใต้กฎหมาย
แต่โชคดีเหลือเกินว่าเรายังมีพรรคการเมืองที่รักประชาธิปไตย
ที่พยายามหาหนทางให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้ว่าไม่ได้มีการเลือกโดยตรงจากประชาชนแต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประชาชน
ก็มีการเสนอขึ้นมา
ขณะนี้พระราชบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขหรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่มาถึงวาระสองแล้วครับ
ก็ภาวนาว่าให้ผ่านไปตลอดจนไปสู่การเลือกตั้งได้
เพราะฉะนั้น
การเลือกตั้งครั้งหน้า
เราต้องตั้งใจในการเลือกตั้งพรรคการเมืองที่มุ่งมั้นในการสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในสังคมไทยให้ได้
ใช่มั้ยพี่น้อง? ส่วนจะชื่ออะไรพี่น้องไปตัดสินใจเองก็แล้วกัน
นี่คือเรื่องที่หนึ่งนะ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเป็นห่วงประเทศชาติบ้านเมืองก็คือว่า
ขณะนี้ไม่เพียงแต่ประเทศไทย แต่ทั้งโลกเลยนะ ถูกต้มตุ๋นกลืนกินโดยสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์
แล้วตรงนี้ก็ปรากฏอยู่ในเมืองไทยนะ ไม่ใช่ว่าประเทศไทยไม่เกี่ยวข้อง
ประเทศไทยก็โดนด้วย เพราะว่าทุนสีเทามันคืบคลานเข้ามาในเมืองไทยแล้ว
ฉะนั้นพี่น้องครับผมฝากอีกเรื่องหนึ่งนะครับ
ถ้าหากว่าเราไม่สามารถจัดการกับทุนเงินสีเทาที่มันกำลังคืบคลานเข้ามากลืนกินสังคมไทยได้
โอกาสที่เราจะสร้างสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
เป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าที่มันกำลังจะมาถึงในครั้งถัดไปอันใกล้ไม่กี่เดือนนี้
ผมขอกราบเรียนพี่น้องประกอบการพิจารณา 2 ประการเท่านั้นเองครับ
ประการที่
1 เราต้องเลือกพรรคการเมืองที่มีความแน่วแน่ในการที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยให้ปรากฏขึ้นเป็นจริงในสังคมไทยให้ได้
ประการที่
2 เราต้องเลือกตั้งพรรคการเมืองที่จริงใจในการขุดรากถอนโคนทุนเงินสีเทาให้พ้นไปจากประเทศไทยให้ได้
เพราะขณะนี้เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ทุนเงินสีเทามันมากลืนกลินคืบคลานเข้ามา
กลืนกินอำนาจทางการเมืองในประเทศไทย
ดังนั้น
ผมฝาก 2 ประเด็นนี้ไว้กับพี่น้องนะครับ เพื่อที่เป็นการยืนยันว่าพวกรทุกคนแบกรับภารกิจและสืบทอดอุดมการณ์ของลุงนวมทองที่เขียนชัดไว้ว่า
“ชาติหน้าเกิดมาคงไม่เจอการปฏิวัติอีก” ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
