“ประธานสภา”
แถลงความสำเร็จประชุม IPU
รับญัตติด่วนของไทย แก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ จี้
รัฐบาล-หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการจริงจัง เหตุเป็นวาระโลก
เมื่อวันที่
29 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
และคณะผู้แทนรัฐสภาไทย แถลงผลเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (ไอพียู)
ครั้งที่ 151 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยจัดขึ้นในวันที่ 19-23
ต.ค. 2568 ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติเจนีวา
(ซีไอซีจี) นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
โดยนายวันมูหะมัดนอร์
มะทา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้
เป็นการสะท้อนบทบาทการทำงานเชิงรุกของประเทศไทยบนเวทีรัฐสภาระหว่างประเทศ
โดยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ญัตติของไทยได้รับความเห็นชอบ ซึ่งจะต้องใช้เสียง 2 ใน 3
ของที่ประชุม เพื่อให้ได้รับการรับรอง โดยการประชุมไอพียูมีทั้งหมด 183
ประเทศ ซึ่งใหญ่พอกันกับที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
โดยญัตติเร่งด่วนที่ไทยเสนอคือ
การเสริมสร้างบทบาทของรัฐสภาในการต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ
นายวันมูหะมัดนอร์
มะทา กล่าวต่อว่า โดยยึดหลักมนุษยธรรม ซึ่งต้องขอชมเชย นายรังสิมันต์ โรม
สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน และคณะ ทำงานร่วมกันอย่างหนัก
จนได้เลือก 2
ใน 3 ขณะที่มีญัตติที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณา
2 ญัตติ คือ
ญัตติของแอฟริกาใต้ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในมาดากัสการ์
แต่เมื่อมีการลงมติเป็นที่น่ายินดีว่าญัตติของประเทศไทยได้รับการสนับสนุนหลักจากยุโรปและอเมริกา
และนำญัตติที่สอดคล้องของเขา ในเรื่องของภัยข้ามชาติ
การฟอกเงินและยาเสพติดมารวมกับญัตติของเรา ได้รับคะแนนท่วมท้น 852 คะแนน โดยมีกว่า 200 เสียง ที่ไม่เห็นด้วย
นายวันมูหะมัดนอร์
กล่าวอีกว่า ด้วยว่าความสำเร็จครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของรัฐสภาไทย
ที่ได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก แต่สิ่งที่อยากจะบอกกับพวกเรา
เมื่อญัตติของเราได้รับเลือกเป็นญัตติเร่งด่วน จะถูกกระจายไปทั่วโลก
“อยากจะฝากให้รัฐบาลของเรา
ซึ่งขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ชุดใหญ่
รวมถึงคณะอนุกรรมการอีก 3 ชุด ดำเนินการติดตามเรื่องนี้
ต้องมีผลงานที่ชัดเจน ไม่ใช่มีแค่คณะกรรมการ เพราะไทยเป็นเจ้าของญัตติ
ถ้าไม่ดำเนินการให้เห็นผล บ้านเราไม่สะอาด
แล้วเราจะไปชี้แนะบ้านอื่นให้สะอาดได้อย่างไร
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ กวาดบ้านให้สะอาด
เพราะในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งหน้าในเดือนเมษายนปีหน้า
จะต้องรายงานความคืบหน้า และคณะกรรมการไอพียู ก็จะสอบถามถึงการดำเนินการ
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของมนุษยชาติว่ามีความปลอดภัยมากกว่าเดิมหรือไม่
ไม่ใช่เฉพาะคนยากจนเท่านั้น แต่ยังกระทบกับคนมีเงิน ซึ่งตนเศร้าใจ
ที่เห็นคนทำงานมาทั้งชีวิต เช่น ข้าราชการที่เกษียณแล้วมีเงินเก็บอยู่บ้าง
ถูกพวกนี้หลอกจนหมดตัว สภาวะจิตใจจะอยู่ได้อย่างไร” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์
กล่าวย้ำว่า ยังมีการค้ามนุษย์ที่นายรังสิมันต์ ศึกษาข้อมูลว่า มีคนเป็นแสนคน
ที่ถูกจับไปเพื่อไปรับใช้ขบวนการนี้ ถ้าทำไม่ได้ตามเป้า ก็จะถูกทรมาน
ถ้าจะออกมาได้ต้องจ่ายเงิน เป็นการทำลายความเป็นมนุษย์ของคน
นายวันมูหะมัดนอร์
กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหา สภามีหน้าที่เพียงออกกฎหมายแนะนำ
แต่หน่วยงานที่แก้ไขสำเร็จได้ คือฝ่ายบริหารรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสถาบัน
การเมือง และธนาคารต้องให้ความร่วมมือ
ถ้าทุกคนคิดว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องเรื่องนี้จะไม่จบจากโลกนี้แน่นอน
นายวันมูหะมัดนอร์
กล่าวอีกว่า ในภาคของสภาตนจะทำหนังสือถึงสภาว่าผลการประชุมมีการลงมติร่วมอย่างไร
และจะส่งให้รัฐบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเวลา 1-2 วัน
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะทำหนังถือแจ้ง
รวมถึงเราต้องมีการรายงานให้กับสภาเป็นระยะ ๆ เพราะมีกรรมาธิการต่าง ๆ
ที่สอดคล้องกับการเรื่องนี้ และกรรมาธิการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
คงจะมีการนำเรื่องนี้ไปผลักดัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมไอพียูจะเป็นการกดดันให้รัฐบาล
ปราบสแกมเมอร์ได้มากกว่าที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า
เรื่องสแกมเมอร์เป็นเรื่องของประชาชนที่เดือดร้อนจริง ๆ
ประชาชนที่ถูกจับจะต้องนำกลับมาให้หมด แต่การที่จะทำ ต้องนึกถึงอธิปไตยของแต่ละประเทศด้วย
ตนเห็นการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ณ ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์
ประเทศมาเลเซีย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย
ได้บอกว่าจะขอเป็นเจ้าภาพในการตั้งกรรมการระหว่างประเทศ
อย่างน้อยที่สุดก็มีประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ไทย ซึ่งจะต้องมีเข้ามาอีกหลายชาติ
ให้เข้ามาทำงานร่วมกัน
นายวันมูหะมัดนอร์
กล่าวอีกว่า มีคนที่ถูกจับกลุ่มไปทำงานเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า 30 ประเทศ
รวมจำนวนเงินที่ถูกหลอกในช่วงเวลา 2-3 ปีนี้ มีจำนวน 7
แสนล้าน ฉะนั้นการกดดันตรงนี้
ใครที่ทำหน้าที่ในรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องรีบทำอย่างจริงจัง
หากได้ผลก็จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
อย่าลืมว่าการเลือกตั้งก็คงจะไม่นานเท่าไหร่ ไม่ได้ทำเพื่อเลือกตั้ง
แต่ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ตนจึงขอเรียกร้องว่า
คนที่มีหน้าที่ในรัฐบาลโดยเฉพาะคนที่ทำหน้าที่ในเรื่องนี้ ขอให้ทำอย่างจริงจัง
ละเว้นจากการแก่ประโยชน์เล็กน้อย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับโลกและมนุษยชาติ
เราได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ แสดงให้เห็นว่าเราได้รับการยอมรับ
แต่หากเจ้าหน้าที่เราหย่อนยาน เห็นแก่ประโยชน์เล็กน้อย แน่นอนว่าเราจะถูกตำหนิได้
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #รัฐสภาโลก #IPU


