วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568

“นันทนา” ลั่น มติวุฒิสภา‘อัปยศ ’หลัง “สว.” เสียงข้างมาก ลงมติ ผิดจริยธรรมร้ายแรง กล่าวหาด้อยค่า สว.แม่ค้าขายหมู ลั่นสู้ต่อถึงที่สุด ไม่สยบยอมให้สีน้ำเงินกินรวบประเทศ วอน ป.ป.ช.ตรวจสอบโปร่งใส

 


“นันทนา” ลั่น มติวุฒิสภา‘อัปยศ ’หลัง “สว.” เสียงข้างมาก ลงมติ ผิดจริยธรรมร้ายแรง กล่าวหาด้อยค่า สว.แม่ค้าขายหมู ลั่นสู้ต่อถึงที่สุด ไม่สยบยอมให้สีน้ำเงินกินรวบประเทศ วอน ป.ป.ช.ตรวจสอบโปร่งใส


เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.แถลงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ภายหลังที่วุฒิสภา มีมติว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีกล่าวหา สว.มีอาชีพขายหมู และส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า มติของวุฒิสภาวันนี้เป็นมติอัปยศ สะท้อนชัดเจนว่าวุฒิสภาแห่งนี้มีเจ้าของ สั่งการได้ ไม่ว่าต้องการอะไร จะสามารถกดปุ่ม และให้เดินหน้าไปตามนั้นได้ สิ่งที่ตนถูกกระทำคือการพยายามที่จะเรียกร้องให้จัดกรรมาธิการไปตามกลุ่มอาชีพและความถนัด แต่กลับถูกลงมติให้ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง นี่คือการสมคบคิดมาตั้งแต่ต้น เพราะผู้ที่มาร้องตนนั้นเป็นทนาย ซึ่งรับจ้างมาและวันที่พบกับตนก็มาขอโทษ บอกว่าอาจารย์เป็นคนดีแต่ต้องทำ ซึ่งเมื่อยื่นเรื่องเข้ามาทางคณะกรรมาธิการจริยธรรมก็รีบรับ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เมื่อเข้ากรรมาธิการใหญ่ก็ไม่ให้ตนเข้าไปปากคำ แล้วลงมติกันลับๆ สุดท้ายก็มากดปุ่มในสภา 130 เสียง ส่งตนให้ ป.ป.ช.


"นี่คือความอัปลักษณ์ของสิ่งที่เราพบในการเมืองไทย และนี่คือสิ่งที่ดิฉันจะต่อสู้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น กับดิฉัน ดิฉันจะไม่แตกสลาย ไม่สยบยอม กับสีน้ำเงิน ดิฉันจะไม่ยอมให้สีน้ำเงินมากินรวบประเทศไทย และจะยืนหยัดเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน จะต่อสู้ให้การกินรวบในประเทศนี้ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการกินรวบวุฒิสภา องค์กรอิสระ ฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายนิติบัญญัติ ดิฉันจะต่อสู้จนถึงที่สุด และการลงมติวันนี้เป็นไปตามที่ สส.ท่านหนึ่งโพสต์ว่าคนที่พัวพันฮั้วคดี สว.มาตัดสินจริยธรรมคนที่เปิดโปง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง การแจกเอกสารในห้องประชุมก็บิดเบือน ข้อเท็จจริงไม่ถูกต้องแล้วให้ สว.อ่าน และลงมติเลย อยากถามว่านี่คือวุฒิสภาหรือ คำกล่าวเพียงว่าคนขายหมู เข้าไปในกรรมาธิการพัฒนาการเมือง ผิดฝาผิดตัว ทำไมจึงต้องผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรง นี่คือวุฒิสภาที่มีเจ้าของและสั่งได้ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นใบสั่งมาทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น พวกเราอยู่ในสภาแห่งนี้อยู่ด้วยการถูกกดขี่ข่มเหงไม่ได้เป็นกรรมาธิการพิจารณากฎหมายแม้แต่คณะเดียว ใส่ชื่อซ้ำไปซ้ำมา บางคนเป็น 20 กว่าคณะ แต่ สว.อิสระไม่ได้เลย และการที่ดิฉันถูกลงมติว่าจะผิดจริยธรรมร้ายแรงส่งผลจะส่งผลสะเทือนไปสู่ สว.อิสระคนอื่น ถือเป็นการปิดปาก และใช้นิติสงครามในการที่จะมาเล่นงานคนเห็นต่าง และออกมาต่อต้าน" น.ส.นันทนา กล่าว


เมื่อถามว่า เมื่อเรื่องถูกส่งไปยัง ป.ป.ช.มองว่าจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า หวังว่ากระบวนการของ ป.ป.ช.จะโปร่งใส ชัดเจน และให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนพิจารณาว่าจากคำพูดที่ว่าคนขายหมู จะถือว่าผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ แต่มี สว.รายหนึ่งที่มีคดีพัวพันกับการฆาตกรรม ถูกโหวตไม่ผิดจริยธรรม และ สว.อีกรายที่มีคดียาเสพติดถูกโหวตว่าไม่ผิดเช่นกัน ดังนั้น ถ้าในกระบวนการยุติธรรมไม่ยุติธรรม ตนถือว่า สว.ไม่ใช่ที่พึ่งของประชาชน


เมื่อถามถึงกรณีที่มีคดีค้างอยู่ที่ศาล จะมีผลต่อการพิจารณาของ ป.ป.ช.หรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.แดง กองมา สว.ที่เป็นคู่กรณีได้ยื่นเรื่องฟ้องตนต่อศาลอาญาข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งในชั้นพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีหรือไม่ ตนมอบหมายให้ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ดำเนินการ ซึ่งจากการซักค้านพบว่านางแดง ภูมิใจในอาชีพแม่ค้าขายหมู และมองว่าที่ถูกด้อยค่านั้นคิดไปเอง ซึ่งกรณีดังกล่าวศาลจะพิจารณาว่ารับเป็นคดีหรือไม่ 10 พ.ย.นี้ ซึ่งมีประเด็นที่ขอให้รอการพิจารณาจนกว่าศาลจะพิจารณา แต่กระบวนการในวุฒิสภาไม่รอ ซึ่งตนเตรียมนำประเด็นของศาลอาญาดำเนินการในชั้น ป.ป.ช.ด้วย


เมื่อถามว่า หากกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลตรงข้ามกับมติของวุฒิสภาจะดำเนินการฟ้องเอาผิดกับกรรมการจริยธรรมหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นตนให้นายอนันตชัย ยื่นเรื่อง ป.ป.ช.กรณีคัดค้านกรรมการจริยธรรม จำนวน 15 คน ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตน เพราะตนเคยเปิดโปงการฮั้ว สว.และรวบรวมรายชื่อยื่นถอดถอน สว.กลุ่มดังกล่าว แต่กรรมการจริยธรรมลงมติไม่ยอมให้ตนคัดค้านกรรมการ


ด้าน น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ส.ว. ซึ่งเป็นกรรมการจริยธรรม กล่าวว่า รู้สึกสะเทือนใจที่เห็น ส.ว.หญิงผู้กล้าหาญถูกกลั่นแกล้ง นี่ไม่ใช่ความยุติธรรม แต่เป็นการใช้อำนาจเพื่อกำจัดคนที่ไม่ยอมใคร


ขณะที่ นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ ส.ว. กล่าวว่าคณะกรรมการจริยธรรมชี้ว่าน.ส.นันทนาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม 8 ข้อ รวมถึงจริยธรรมร้ายแรงหมวด 1 ซึ่งเป็นเรื่องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประเทศชาติ หากใช้มาตรฐานเข้มขนาดนี้ ต่อไป ส.ว.จะพูดอะไรไม่ได้เลย เพราะจะถือว่าผิดจริยธรรมทุกเรื่อง


ขณะเดียวกัน นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็น ใบเสร็จยืนยันว่าวุฒิสภาชุดนี้พึ่งพาไม่ได้เพราะไม่เปิดโอกาสให้น.ส.นันทนา นำหลักฐานเข้าชี้แจง พร้อมเผยว่า ปลายเดือน พ.ย. ถึงต้น ธ.ค. จะมี “ข่าวใหญ่” เกี่ยวกับการล้มคดีสำคัญภายในวุฒิสภา โดยเฉพาะกรณี ฮั้วเลือกตั้ง ส.ว.ที่เตรียมประกาศว่า ส.ว.ทั้ง 229 คนไม่ผิด


ทนายอั๋นย้ำว่า จะเดินหน้าต่อสู้กับ ส.ว.สีน้ำเงิน ให้ถึงที่สุด และหากยังไม่สามารถทำให้ความจริงปรากฏได้ เขาจะดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงในองค์กรอิสระ ถ้าไม่ยุติธรรม ก็ขอสู้จนตายกันไปข้างหนึ่ง


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #สว #สวสีน้ำเงิน