ธิดา ถาวรเศรษฐ : คิดได้ยังไงมาสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
โดยลืมบาปกรรมที่ก่อไว้กับประชาชน!
คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์
คงไม่ตระหนักถึงการร่วมกันก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อประชาชนที่มาต่อสู้ด้วยมือเปล่า
สันติวิธี นี่ยืนยันได้ โดยที่หลังรัฐประหาร แม้จะพยายามส่งฟ้องกรณีชายชุดดำ
หรือการเผาตลาดหลักทรัพย์ เซ็นทรัลเวิลด์ และคดีอื่น ๆ ศาลยกฟ้องทั้งสิ้น
แม้แต่คดีผู้หญิงชื่อ จ๋า (นฤมล วรุณรุ่งโรจน์) ยิงเฮลิคอปเตอร์ นี่เป็นประการแรก
ประการที่สอง
เรื่องกองกำลังอาวุธที่อภิสิทธิ์และศอฉ. พยายามตั้งข้อกล่าวหามีกองกำลังอาวุธทำให้ทหารตายและบาดเจ็บนั้น
อภิสิทธิ์พยายามกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงใช้อาวุธ M79
ยิงเข้ามาที่ถนนดินสอคืนวันที่ 10 เมษายน 2553
ความเป็นจริงที่อภิสิทธิ์ควรศึกษาจากคำสั่งศาลในการไต่สวนคดีที่ส่งฟ้องนั้น การบาดเจ็บล้มตายของทหารเกิดจากระเบิดขว้าง
M67
ซึ่งต้องขว้างด้วยมือขว้างในรัศมี 10-20 เมตรโดยประมาณ
ไม่ใช่จากผู้ชุมนุมเสื้อแดงแน่นอน แล้วทำไมไม่พยายามค้นหาผู้กระทำ (ทั้งกองทัพและอภิสิทธิ์)
ประการที่สาม
การออกคำสั่งการใช้กำลังทหารดำเนินการภายใต้คำสั่งศอฉ. และรัฐบาลต้องรับผิดชอบคำสั่งในกรณี
10 เมษายน 2553 ไม่มีการสั่งยกเลิกในเวลาเย็น พลบค่ำ ที่ต้องรับความสุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะเป็นเวลามืดค่ำ
ยิ่งกว่านั้นเอกสารเสนาธิปัตย์ก็เขียนชัดเจนว่า รัฐบาลที่นำโดย อภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ ไม่มีนโยบายยุติการชุมนุมด้วยการเจรจา แต่ต้องการให้ยุติโดยการทหาร
เห็นชัดเมื่อเริ่มยิง เสธ.แดง ในวันที่ 13 พฤษภาคม
และดำเนินการใช้กระสุนจริงยิงประชาชน ทั้งที่ราชปรารภและถนนพระรามสี่ สวนลุมพินี
ฯลฯ โดยไม่ยอมรับฟังการเจรจาจากวุฒิสมาชิกที่ขอให้ยุติการทหาร เพราะนปช.ยินดียุติการชุมนุม
โดยอ้างว่า “มันสายเสียแล้ว” โดยแผนการล้อมปราบนั้นเริ่มจากวันที่ 13-19 พฤษภาคม
2553
ประการที่สี่ ภาพที่ออกมาประกาศว่าการเสียชีวิตหลัง
10 เมษายน 2553 เห็นชายชุดดำถืออาก้ายิงปืนไฟแลบที่ไม่รู้ที่มาที่ไป
ตกแต่งหรือไม่ เพราะคนที่ตาย 10 เมษา (ทหารและประชาชน) ไม่มีใคร ตาย/บาดเจ็บ
ด้วยกระสุนอาก้า แต่ประชาชนตายโดยถูกยิงที่อก ที่หัว ด้วยกระสุนแบบ Nato ของฝ่ายกองทัพ
(M16) ทั้งสิ้น ทั้งที่เขามือเปล่า
แม้แต่นักข่าวชาวญี่ปุ่น
คดีเหล่านี้เมื่อศาลไต่สวนแล้วชัดเจนว่ากระสุนมาจากเจ้าหน้าที่
(บางคดีหลังรัฐประหาร ก็มีคำสั่งว่าไม่รู้ว่าใครยิง
แต่มาจากทิศทางเดียวกันคือจากฝั่งเจ้าหน้าที่)
ประการที่ห้า กลุ่มสนับสนุนรัฐประหารในอดีตไม่ทวงความยุติธรรมที่เจ้าหน้าที่
(ตำรวจ) ซึ่งสามารถขึ้นศาลอาญาได้ ก็เป็นเรื่องที่ต้องถามกันเองว่าทำไม?
ส่วนเยาวชนเขาทวงความยุติธรรมให้คนเสื้อแดง เพราะเขารู้จากข้อมูลทวงความยุติธรรมในการสลายการชุมนุมปี
2553 ซึ่งคนเสื้อแดงและผู้รักความยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
คณะประชาชนทวงความยุติธรรม ได้ดำเนินการให้ข้อมูลประชาชน และเรียกร้องต่อรัฐบาล
ต่อพรรคการเมือง จนปัจจุบัน
ประการที่หก การขอนิรโทษกรรมสุดซอยของพรรคเพื่อไทยเวลานั้น
คนเสื้อแดงส่วนมากไม่เห็นด้วย เพราะต้องการให้รัฐบาล มีนายกฯ อภิสิทธิ์และนายสุเทพ
เทือกสุบรรณ ร่วมกับคณะศอฉ. ถูกดำเนินคดีทั้งในศาลอาญาในไทย
และศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่น่าสนใจคือ ICC ศาลอาญาระหว่างประเทศรับคำร้องของดิฉันในฐานะ
“ประธานนปช.” รับเป็นคดีที่ก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ ผ่านทางอัยการ จน “ฟาตู
เบนซูดา” อัยการใหญ่เดินทางมาขอให้ “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
พรรคเพื่อไทย ในขณะนั้น เซ็นรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เฉพาะกรณีสลายการชุมนุมปี
2553แบบก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ ตามมาตรา 12(3) ของธรรมนูญกรุงโรม
โดยรัฐที่ยังไม่ได้เป็นภาคี คือยังไม่ได้ลงสัตยาบัน แต่พรรคเพื่อไทยไม่ยอมเซ็น
หมายความว่าอะไร? อันนี้ต้องถามพรรคเพื่อไทย
คุณอภิสิทธิ์รู้ไหม? คุณและศอฉ.
ถูกอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศพิจารณาแล้วว่าเป็นจำเลยในกรณีอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติไปเรียบร้อยแล้ว!!!
สำหรับศาลอาญาพลเรือนในประเทศ
คุณเองใช้แทคติคโต้แย้งเรื่องเขตอำนาจศาล ว่าแม้แต่ศาลอาญาพลเรือนในประเทศไม่มีอำนาจในการตัดสินคดีของคุณและสุเทพ
เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นนักการเมือง ต้องส่งเรื่องไป ป.ป.ช. หาก ป.ป.ช.
มีความเห็นสั่งฟ้อง ต้องส่งไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และในที่สุดก็มีผลจริง
ๆ ทำให้คุณรอดทั้ง 2 ศาล (ศาลอาญาพลเรือนและศาลอาญานักการเมือง)
ขอให้ไปอ่านคำโต้แย้งของอธิบดีศาลอาญาในขณะนั้น ที่ไม่เห็นด้วยกับการส่งคดีไปผ่าน
ป.ป.ช. สู่ศาลอาญานักการเมือง เพราะคดีที่ปราบปรามประชาชนนี้
มีหลักฐานเป็นความผิดร้ายแรงเกินกว่านั้น (อ่านได้ค่ะ จะลงให้อ่านต่อไป)
สรุปว่าคุณไปไม่ถึงศาลอะไรเลย
เพราะอะไร? จะเข้าข่ายทฤษฎีวงล้อมเครือข่ายระบอบอำมาตยาธิปไตย หรือไม่? รอดเพราะ
ป.ป.ช. ไม่สั่งฟ้อง และรอดเพราะคุณโต้แย้งศาลอาญาพลเรือนแบบไม่ได้เล่ห์ก็ด้วยกล
ไม่ใช่ด้วยมนต์ก็คาถา นี่คือเหตุผลที่คณะประชาชนทวงความยุติธรรมจึงต้องเกิดขึ้นเพื่อทวงความยุติธรรม
ขอบคุณพรรคประชาชนที่กำลังยื่นเรื่องอายุคดีความอาชญากรรม
คดีอาญาต่อประชาชนไม่มีการหมดอายุความ (20 ปี) และกำลังแก้ พ.ร.บ.ศาลทหาร
ให้ทหารที่ก่อคดีอาญาต่อประชาชนได้ขึ้นศาลพลเรือน
รวมทั้งนักการเมืองที่ก่อคดีอาญาต่อประชาชนขึ้นศาลพลเรือนเช่นกัน
ทั้งนี้ตามหลักการ “คนเท่ากัน” ในเรื่อง “ความยุติธรรม”
ดิฉันยินดีสนับสนุนพรรคการเมืองใดก็ได้ที่ยืนข้างประชาชน
ช่วยกันทวงความยุติธรรมเพื่อมิให้อนาคตมีการก่ออาชญากรรมโดยรัฐปราบปรามฆ่าประชาชนโดยพ้นผิดลอยนวลเช่นที่เป็นมา
คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์
อาจไม่ตระหนักว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ประชาชนไม่ต้องการให้ฆ่าคนกลางถนน
แล้วใช้เครือข่าย กองทัพ ก่อรัฐประหาร ปิดปากประชาชน
และแทรกแซงวงการตุลาการให้ลอยนวลพ้นผิด
คิดได้ยังไงมาสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
โดยลืมบาปกรรมที่ก่อไว้กับประชาชน!
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คนเสื้อแดง #ICC #ศาลอาญาระหว่างประเทศ #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ
