ธิดา
ถาวรเศรษฐ :
ฝากไปยังพรรคการเมือง ถ้าท่านเป็นพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ขอให้รู้ว่าประชาชนเขายืนหยัดอุดมการณ์
ไม่พร่ามัว จะทำอะไรขอให้นึกถึงจิตใจประชาชนผู้รักประชาธิปไตยด้วย
ในงาน 19 ปี 19 กันยายน 2549 ต่อต้านรัฐประหาร รำลึก “นวมทอง ไพรวัลย์” ณ สดมอนุสรณ์นวมทองไพรวัลย์ หน้าสำนักงานใหญ่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568
สวัสดีพวกเราที่นี่และที่บ้านทุกคน
มีความยินดีที่เราได้มาร่วมที่นี่
แม้นว่าสถานการณ์ในเวลานี้เป็นเวลาที่มีปัญหาในหลายเรื่อง
ประเทศและประชาชนทั้งมวลอาจจะมีความทุกข์โศกในเรื่องราวที่เป็น
ประชาชนทั้งหมดก็มีความทุกข์โศกที่มีการเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
แต่นั่นคือวาระประเทศ
แต่นี่เราเป็นวาระประชาชน
ไม่ว่าสถานการณ์ใดก็ตาม เป็นสถานการณ์ของกลุ่มคนฐานันดรใดก็ตามแต่
ในฐานะประชาชนเราจำเป็นที่จะต้องมาจัดงานรำลึกในวันนี้
ขอส่งเสียงไปยังท่านทางบ้านด้วยและขอบคุณทุกคนที่มาที่นี่
งานนี้ไม่ใช่งานเช็งเม้ง
เพราะเช็งเม้งคือ ตระกูล คือfamily คือครอบครัว
แต่ลุงนวมทองเป็นสามัญชนที่เป็นนักต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่
ผู้ประกาศการต่อสู้ด้วยตัวคนเดียว ในการขัดแย้งในสองทศวรรษนี้
ท่านเป็นครูของประชาชน เพื่อแสดงให้เห็นว่าคน ๆ เดียวก็ต่อสู้ได้
ไม่มีอะไรมีแต่แท็กซี่ก็ยอมพลีได้
และอยากจะเรียนว่าลุงนวมทองไม่ได้มีคนเดียว
ลุงนวมทองเสียไปหนึ่ง แต่ประชาชนทั่วไปที่คิดเหมือนลุงนวมทองมีนับล้าน นับสิบ ๆ
ล้าน ดังที่เราเห็นมีการเลือกตั้งแล้วแสดงเจตจำนงในการที่จะให้ประเทศนี้มีเสรีภาพ
คนเท่ากันและมีอนาคตว่าอำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชน
ดังนั้นลุงนวมทองในฐานะประชาชนเราต้องถือว่าเขาเป็นแบบอย่างที่เราต้องศึกษาจิตใจ
เราไม่ได้สนับสนุนวิธีการ แต่จิตใจแบบนี้เป็นจิตใจที่ต้องศึกษา
ขอฝากไปยังประชาชนทางบ้านที่ไม่ได้มาที่นี่ด้วย
แล้วลุงนวมทองไม่ได้มีคนเดียวดังที่ได้บอกไว้
ข้อแรกเลยก็คือเราต้องสดุดีจิตใจของลุงนวมทองนอกจากกล้าต่อสู้
กล้าเสียสละ แต่สิ่งสำคัญคือยืนหยัดอุดมการณ์ประชาธิปไตย ดิฉันและหลาย ๆ ท่าน ณ
ที่นี้เป็นส่วนต่อ เราต่อสู้มา 14ตุลา16, 6ตุลา19,
พฤษภา35 อย่างคุณหมอสันต์, ครูประทีป, คุณหมอเหวงและดิฉัน
จาก 2535 แล้วมา 2549 ลุงนวมทองเป็นสามัญชนคนแรก
อย่าลืมว่า 19 กันยายน 2549
เป็นการทำรัฐประหารแล้วลุงนวมทองขับรถชนวันที่ 30 กันยายน 2549
แปลว่าไม่นาน ไม่กี่วัน และหลังจากนั้นก็ถูกทหารบางคน “พันเอกอัคร ทิพโรจน์” (เอ่ยชื่อได้)
ปรามาสว่า “ไม่มีใครจะพลีชีพเพื่ออุดมการณ์” ทหารที่คิดแบบนี้ไม่ได้มีคนเดียว
ยังมีอีกเยอะ แล้วประชาชนที่คิดแบบลุงนวมทองก็ไม่ได้มีลุงนวมทองคนเดียว
มีคนคิดแบบลุงนวมทองนับสิบ ๆ ล้านคน
ไม่อย่างนั้นพรรคการเมืองที่บอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย รวมกันแล้วจะได้ 70%
นับเป็นคนประมาณ 24-25 ล้านคน ถามว่า 25
ล้านคนใน 35 ล้านคนนี่คือลูกหลานของลุงนวมทองแท้
ๆ
ดังนั้น
ในภาวะที่บ้านเมืองของเรา
เรื่องของอุดมการณ์อาจจะถูกพรรคการเมืองทำให้มันเป็นเส้นบาง ๆ
มันจางลงจนกระทั่งเป็นเส้นบาง ๆ จึงสามารถผสมอาจจะเดินข้ามขั้วได้
แต่ประชาชนไม่ใช่เช่นนั้น ประชาชนชัดเจนว่าฉันอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย
ฉันต่อต้านรัฐประหาร ฉันคือลูกหลานของลุงนวมทอง
ดังนั้นในวาระนี้
ขอฝากไปยังพรรคการเมืองทั้งหลาย ถ้าท่านเป็นพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย มีเปอร์เซ็นต์ของความสำนึกในอำนาจประชาชนซักจำนวนหนึ่ง
ไม่เท่ากัน แต่ขอให้รู้ว่า ประชาชนเขายืนหยัดอุดมการณ์ เขาไม่พร่ามัว
ดังนั้นการที่จะทำอะไรลงไปขอให้นึกถึงจิตใจประชาชนผู้รักประชาธิปไตยด้วย
อย่าคิดว่าเราเป็นพรรคการเมืองแล้วทำอะไรก็ได้ ประชาชนทั่วไปลูกหลานลุงนวมทอง
ไม่ใช่ Voter
ธรรมดา แต่เป็น Voter ที่มีสำนึกความคิดในการต่อสู้
และจะไม่มีวันข้ามขั้ว
เพราะฉะนั้นในสถานการณ์ขณะนี้
ที่หลายคนท้อถอย อยากจะบอกว่าอย่าท้อ คิดถึงคนที่ตายไปแล้ว คิดถึงลุงนวมทอง
และท่องสิ่งเหล่านี้ไว้ว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองจะเป็นอย่างไร
ไม่ว่าพรรคการเมืองจะตัดสินใจอย่างไร
แต่ประชาชนต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อทวงอำนาจอธิปไตยให้อยู่ในมือของประชาชนให้ได้
วันนี้เป็นงานของไพร่เราก็จัดกันข้างถนนก็ขอขอบคุณทุกคนที่ว่าเรามาร่วมกันรำลึกแบบไพร่
ๆ ขอบคุณค่ะ


