ถอดคำให้สัมภาษณ์ "จตุพร" ในรายการ THAIS VOICE โดย คุณจอม เพชรประดับ ได้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2558 ผ่านทาง Skype ในประเด็น "จะเกิดอะไรขึ้นหากรวมพลคนใส่เสื้อแดง 1 พ.ย. นี้" ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
จอม : สวัสดีครับ ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการเสียงไทยเพื่อเสรีภาพของคนไทยนะครับ วันที่ 1 พ.ย. ที่จะถึงนี้มวลชนคนเสื้อแดงทั่วประเทศก็จะมีการแสดงสัญลักษณ์ทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง ในเรื่องของการใส่เสื้อสีแดงพร้อมกัน เหมือนกัน หรือไม่อย่างไร? ประเด็นนี้ก็กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะว่ามวลชนเสื้อแดงบางคนหรือบางกลุ่มนั้นต้องการที่จะใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. นี้เพื่อที่จะแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง เคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสันติ และเพื่อให้กำลังใจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าวด้วย
ในขณะที่ทางคนเสื้อแดงบางกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางแกนนำ นปช. หลายคนนะครับ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เองก็ออกมาแสดงความเป็นกังวลการที่คนเสื้อแดงจะมีการนัดชุมนุมและใส่เสื้อแดงพร้อมกันในวันที่ 1 พ.ย.นี้ อาจจะตกเป็นเหยื่อของฝ่ายตรงข้ามที่อาจจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อที่จะใส่ร้ายหรือป้ายความผิดให้กับคนเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่งหรือไม่
แต่ว่าในข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้นะครับ เป้าหมายอันเดียวกันก็คือการที่จะปกป้องและให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งการแสดงออกทางการเมืองอีกครั้งหนึ่งนะครับ
เมื่อสองสามวันก่อนทาง THAIS VOICE MEDIA ก็ได้สัมภาษณ์ตัวแทนของมวลชนคนเสื้อแดงบางท่านไปแล้วก็คือคุณฟอร์ด เส้นทางสีแดง คุณอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ เขาก็ยืนยันที่จะใส่เสื้อแดงเพื่อที่จะให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อไป ในขณะที่ทาง นปช. เองก็กังวลเรื่องนี้ วันนี้เราจะมาคุยกับทางประธาน นปช. คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ว่ามีแนวคิดอะไรหรืออะไรเป็นข้อกังวลในการที่จะใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. นี้ พูดคุยผ่านทาง Skype สวัสดีครับคุณจตุพรครับ สวัสดีครับ
จตุพร : สวัสดีครับคุณจอม เพชรประดับ
จอม : ขอบคุณมากที่ให้เกียรติร่วมรายการนะครับ เสื้อแดงที่ต้องการใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. นี้เขาบอกว่าก็ใส่อยู่แล้วไง ทุกวันอาทิตย์เขาก็ใส่อยู่แล้วเป็นปกติ ใส่ออกมาก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน แต่สิ่งที่คุณจตุพรกังวลคือเรื่องอะไรครับ
จตุพร : คือประเด็นเนี่ยนะครับ พี่น้องเสื้อแดงที่ใส่เสื้อแดงเป็นปกติเขาก็ไม่มีปัญหาอะไรมาตั้งแต่ต้น ในส่วนแกนนำเนื่องจากว่ามาจัดรายการโทรทัศน์ กสทช. ก็เป็นเงื่อนไขหนึ่งว่าอย่าใส่เสื้อแดงออกอากาศ มิฉะนั้นจะไม่ให้ออก แต่ว่าเหตุการณ์ที่มีการนัดหมายกันในวันที่ 1 พ.ย. นี้ เนื่องจากว่ามันเป็นการนัดโดยใช้วิธีการปล่อยข่าวซึ่งไม่รู้ตัวตน
ประเด็นต่อมาก็คือว่า ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2548, 2549 จนกระทั่ง 2558 เราเจอกับดักมากมาย คือถ้าฟังแบบปกติกันมานั้นผมไม่ได้ห้ามเรื่องการใส่เสื้อแดง เพียงแต่ว่าการประโคมโหมข่าวนั้นมันจะไปสอดรับในการสร้างสถานการณ์ของบางฝ่าย นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้พูดว่าได้แต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้เป็นหัวหน้าคณะปราบมาเฟียและอาวุธสงคราม และพูดหลุดมาว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงเคลื่อนไหว (สัญญาณกระตุกฟังไม่ได้ใจความ) ประมาณนี้นะครับ พล.อ.ประวิตรก็เข้าเป้าเลยว่าจะเป็นเรื่องอาวุธสงครามคือปืนทราโว่ที่หายไปในเหตุการณ์ปี 53 คือพูดง่าย ๆ ว่าสารตั้งต้นในวันที่ 22 นี้มันไม่ใช่เสื้อแดงจริง ๆ ที่อยู่กับบ้านหรือใช้ชีวิตไปทำงาน ออกไปกินข้าว ใช้ชีวิตตามปกติ
จอม : หมายถึงว่าใส่ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ใช่มั้ยครับ
จตุพร : ครับ เพราะว่าถ้าประโคมโหมข่าวสอดรับกันมา จะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์พุ่งเป้าเข้าใส่บรรดาแกนนำจะต้องรับผิดชอบเลย ผมไม่ได้ห่วงเรื่องความรับผิดชอบ
จอม : พล.อ.ประยุทธ์ก็พูดอย่างนี้มาตั้งแต่ปฏิวัติใหม่ ๆ แล้วไม่ใช่เหรอฮะ ถ้ามีอะไรออกมา
จตุพร : ไม่ใช่แบบเน้นหนักครั้งนี้ คือผมเองก็เห็นว่าตั้งแต่ปี 52, 53 ตั้งแต่เหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย ภาพทุบรถที่อ้างว่านายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพอยู่ข้างในนั้น คนที่ทุบรถทั้งหมดถูกออกหมายจับหมด แต่จับไม่ได้แม้แต่เพียงรายเดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาบอกกับผมว่าจับไม่ได้เพราะเป็นทหาร เวลาเมื่อมี 52 เวลาที่เขาจะจัดการกับพวกเรานั้น อยู่ดี ๆ ใช้ศูนย์บัญชาการอยู่ที่ ร.1 แต่ดันจะมาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มหาดไทย ไปอ่านสรรพเสร็จอะไรเสร็จแล้วก็ให้คนโทรมาหาแกนนำของเราคนหนึ่ง เพื่อที่จะบอกว่านายกรัฐมนตรี, รองนายกฯ, รมว.กลาโหมมาที่มหาดไทย ก็ท้ายที่สุดเมื่อคนเสื้อแดงไปก็ปรากฏว่าเสื้อแดงที่ไหนก็ไม่รู้รออยู่เต็มกระทรวงมหาดไทยแล้ว
ฉะนั้นเราเองก็ต้องชี้แจงกับสังคมกันมาเป็นระยะเวลานานเรื่องความรุนแรง แต่ข้อเท็จจริงปรากฏชัดเลยว่าภาพคนทุบรถทั้งหมดถูกออกหมายจับ จับไม่ได้แม้แต่เพียงรายเดียว นี่ไม่นับหลากหลายนะครับว่าหลายเหตุการณ์ที่มีคนไปสร้างแล้วก็ใส่ภาพคนเสื้อแดง แม้กระทั่งการถ่ายคลิปในเหตุการณ์แล้วก็บรรยายเป็นฉาก ๆ ๆ หรือแม้แต่กระทั่งเอาภาพชายชุดดำวันที่ 10 เม.ย. 53 ไม่มีคนไทยทราบเลยว่า DSI เขาไปสอบสำนักข่าวอัลจาชีร่าจนกระทั่งไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุ ไอ้พื้นที่เกิดเหตุมันไม่ตรงกับภาพชายชุดดำ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นการแต่งสรรกันมา หลายเหตุการณ์เราถูกซ้อนกันมาโดยตลอด ผมเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องขึ้นศาลหลายคดีมาก และเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้เราได้มีการเข้าไปรื้อค้นมากมาย เราเองก็เห็นกันแล้ว ขนาดไปงมอาวุธในสระน้ำวัดปทุมวนารามได้ และแม้กระทั่งการตราหน้าคนเสื้อแดงที่ถูกฆ่าตายว่าเป็นผู้ก่อการร้ายทั้งที่ไม่มีอาวุธแม้แต่เพียงชิ้นเดียวอยู่ในมือ ไม่มีเขม่าดินปืนเลย
การใช้ชีวิตปกติของพี่น้องเสื้อแดงเขาไม่เป็นปัญหา เขาใช้ชีวิต คนใส่เสื้อแดงกันมาก็มาหาพวกเราที่สำนักงานก็เป็นปกติ ใช้ชีวิตเป็นปกติ ทีมฟุตบอลของผมที่เตะกันก็ใส่เสื้อแดงตั้งแต่ยึดอำนาจก็เป็นปกติ แต่ว่ามันไม่ใช่การประโคมโหมข่าวในขณะนี้ การประโคมโหมข่าวนำไปสู่การสร้างสถานการณ์แล้วก็ยัดเยียดอย่างที่เคยทำ
จอม : ถ้ามันมีกลุ่มไหนออกมาแล้วก็แสดงกิจกรรมหรือทำอะไรที่มันเป็นการจะไปทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ประกาศในทันทีตอนนี้ว่าคนกลุ่มนั้นไม่ใช่คนเสื้อแดงเหรอฮะ ในวันที่ 1 พ.ย.
จตุพร : ผมเอง ความที่เห็นตัวตนกันหมด ใคร ตรงไหน อย่างไร ที่ผ่านมาถ้าคนเสื้อแดงที่เขารับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตามทำอะไรเขาประกาศรับผิดชอบเอง มันจะไม่เป็นปัญหา แต่ว่าเหตุการณ์นี้มันไม่รู้ว่าใครนัด เมื่อไม่รู้ใครนัด ผมยกตัวอย่างกรณีคุณฟอร์ดที่ว่า ผมเพียงแค่บอกว่าถ้าจะนัดผมจะนัดเอง ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไม่รู้มานัดให้ ก็ไปแปลงว่าคุณมีสิทธิอะไรจะมาสั่งผม ผมต้องขออนุญาตกับคุณ ผมบอกว่าคุณไม่ต้องขออนุญาตผมหรอก คุณปั่นจักรยานขึ้นเวทีพันธมิตรคุณก็ไม่เคยขออนุญาตเพราะว่าคุณก็ไม่เคยเอากับผมมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่ผมเองพูดง่าย ๆ ว่าเข้าใจสภาพความเป็นอยู่อยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ที่เราไม่สามารถที่จะตามใจอะไรใครกันได้นั้นเพราะเราเองก็เห็นว่าพวกโน้นมันเตรียมการที่จะทำอะไรกันอยู่
จอม : มีเสียงสะท้อนออกมาบอกว่า นี่เป็นการกลัวที่เกินเหตุไปหรือเปล่า หรือเป็นการวิเคราะห์ในเชิงที่เป็นลบไปหรือเปล่า อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ครับ
จตุพร : คุณจอม เพชรประดับ เข้าใจว่าผมกลัวเหรอ ผมเนี่ย 40 กว่าคดีนะ และผมเองพูดง่าย ๆ ว่าอยู่จนวินาทีสุดท้ายของสนามรบและหลังเหตุการณ์ผมก็อยู่พร้อมรับชะตากรรมทุกอย่างอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องความขลาดกลัว แต่เป็นเรื่องของความเท่าทัน คือเราต้องยอมรับสภาพความเป็นจริง เสื้อแดงเกิน 90% พี่น้องฟังแล้วก็มีความเข้าใจ ประเภทที่ท่องอยู่ในโลก Social Media ก็ไปเปลี่ยนคำพูดผม ผมถือว่ามันไม่แฟร์มาก ผมบอกว่าใครไม่รู้มานัด ซึ่งถ้าเรารับนัดตามที่ใครไม่รู้มานัดแสดงว่ามันมีปัญหาแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าจะนัดเรานัดเอง ไปแปลงคำเลยว่าคุณจะมาสั่งผมได้อย่างไร ทั้งที่ผมเป็นองค์กร นปช. ก็ไม่เคยสั่งใครกันอยู่แล้ว เพราะว่ามันเป็นองค์กรที่ให้อำนาจผลประโยชน์กับใครไม่ได้ เพียงแต่ให้ความรู้สึกกันได้อย่างเดียว แล้วผมเองต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่กลัวว่าที่พล.อ.ประยุทธ์มาชี้ แต่ความที่ผมสู้กับเขามายาวนานไง พอเขาหลุดมาดี ๆ ว่าตั้งคณะปราบปรามอาชญากรรม แล้วอยู่ดี ๆ พูดบอกว่าไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหว หมายความว่าอย่างไร? ไม่มีใครไปถามก็หลุดนะ ท้ายที่สุดประวิตรก็เลี้ยวมาตรงเลย ก็บอกเลยว่าเรื่องอาวุธสงครามปืนทราโว่เหตุการณ์ปี 53
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติการ IO ตลอดเวลา ผมเนี่ยกำหนดพูดง่าย ๆ บอกพรรคพวกชี้เส้นทางคอยดูมันจะไปอย่างนี้ แต่คนบางคนซึ่งผมเองก็เห็นว่า บางคนไม่เคยรู้จักหน้าค่าตาที่โพสต์วิพากษ์วิจารณ์กันสาดเสียเทเสีย แต่ผมก็บอกพรรคพวกว่าไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็มีซีรีย์ 2, 3, 4 กัน นี่ตลอดระยะเวลา 10 ปีมันก็เป็นแบบนี้กัน
จอม : นั่นหมายถึงว่าวันที่ 1 พ.ย. ถ้ามีกลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมแล้วก็มีการสร้างเหตุการณ์ขึ้น ณ จุดใดจุดหนึ่งในประเทศไทย จะประกาศไว้เลยตอนนี้ไหมครับว่าคนกลุ่มนั้นไม่ใช่คนเสื้อแดง
จตุพร : ผมเองเอาแฟร์ ๆ ว่า ถ้าเป็นคนเสื้อแดงจริงประกาศตัวตน แต่ว่าประเภทไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้จักหน้า ไม่รู้จักองค์กร สมมุตินะ ขณะนี้ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กำลังสู้คดีจำนำข้าว เกิดไอ้บ้าที่ไหนจัด SET UP กันมาแล้วบุกไป ป.ป.ช. ไปทุบข้าวของพังแล้วก็เอาอาศัยเหตุการณ์นี้ ซีกรัฐบาลเขาใช้คำสั่งทางปกครองเลย เพราะเอาเรื่องภาพเหล่านี้มากลบเรื่องราว
ผมยกตัวอย่างให้ฟังอีกเรื่อง ตอนที่มีการพิจารณาคดีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชั้น ป.ป.ช. ผมเตือนพี่น้องเลยว่าอย่าให้ไปที่ ป.ป.ช. เพราะขณะนั้นเขาไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่จะเล่นงานได้อยู่แล้ว แต่ทันทีที่ไป ป.ป.ช. มีภาพล้อม วิชา มหาคุณ ก็เอาเรื่องนี้เป็นหลักเลย เอาข้อหาที่เกี่ยวข้องกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นรอง เวลาอธิบายก็อธิบายมุมของการถูกล้อมแทบเอาชีวิตไม่รอด ทั้งที่เขากำลังจะจวนตัวแล้ว เวลานี้ก็เหมือนกัน ทั้งรองฯ วิษณุกับ ป.ป.ช. ก็กำลังจะจวนตัวว่ากรณีนายกฯ ยิ่งลักษณ์เป็นรายแรกรายเดียวของประเทศไทยตั้งแต่ตั้งกันมานั้นทำกันได้อย่างไร และผลลัพธ์สุดท้ายทุกครั้งที่ผมแสดงความกังวลนั้นมันก็เป็นอย่างที่ผมพูดเอาไว้ทุกประการ ลองไปย้อนดูซิครับ คนที่จะต่ออายุให้กับคณะผู้มีอำนาจนี้ได้ จำปากผมไว้นะ คือคนเสื้อแดงที่ถูกใช้เป็นเหยี่อในสถานการณ์นี้
ผมอยู่ในกลไกที่เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย เพราะฉะนั้นเมื่อเวลาที่เขาจะหายนะ สิ่งแรกที่เขาจะต้องคิดถึง หนึ่งก็นายกฯ ทักษิณ สองก็คนเสื้อแดง พูดง่าย ๆ ว่าไปจัดการกับนายกฯ ทักษิณ หรือครอบครัวของนายกฯ ทักษิณ และก็คนเสื้อแดง เพราะฉะนั้นวันที่เขาคิดถึงคนเสื้อแดง เรียกให้คนเสื้อแดงออกมากระทำการตามความต้องการนั้นเพื่อต้องการไปต่ออายุให้
เพราะฉะนั้นกรณีนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ผมจึงบอกว่าบางทีคิดไปช่วยยิ่งลักษณ์เท่ากับไปช่วย คสช. และไม่ได้ช่วยนายกฯ ยิ่งลักษณ์นะ อาการเขาในขณะนี้ เขาจะอยู่ได้ด้วยคนเสื้อแดงที่ไปเป็นเหยื่อให้เขาอยู่ต่อ
จอม : แต่คนเสื้อแดงอยู่อย่างเงียบ ไม่ได้แสดงออกอะไรเลย เหมือนกับประหนึ่งว่ายอมทำตัวเป็นเด็กดีภายใต้อำนาจ คสช. คสช. ก็อาจจะชะล่าใจแล้วก็อาจจะบอกว่าก็เรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร แล้วสุดท้ายก็กดทับไปเรื่อยอย่างนี้มันก็ไม่มีพลังในการต่อรองในอนาคตอยู่ดี
จตุพร : แล้วถามว่าที่ผ่านมาคนเสื้อแดงเขาเงียบไหม? ข้อเท็จจริงนะครับ แต่ละคนก็ทำในบริบทของตัวเอง การนิ่งมันอธิบายอะไร? อธิบายว่าไม่นิ่งก็ได้ ถ้านิ่งได้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่สุด ก็อธิบายต่อว่าไม่นิ่งก็ได้ และมีความน่ากลัวในทุกบริบท เวลานี้อีกฝ่ายหนึ่งนั้นเขาประเมินถึงความน่ากลัวของกระบวนการคนเสื้อแดงในระยะปีเศษ ที่ดูปรากฏการณ์ผมก็รู้เขาประชุมเขามีแนวความคิดกันอย่างไร เพราะฉะนั้นการออกมาแหย่เพื่อให้เห็นอาการ ว่าดูแล้วมันเป็นจริงตามที่เขาคาดการณ์หรือไม่ นี่มันเป็นตรรกะที่สูตรฝ่ายความมั่นคงเขาใช้กัน ซึกพวกเราก็เป็นรัฐบาลหลายครั้ง วิชาแบบนี้ผมเองก็สอบถามกันได้
เพราะฉะนั้น ข้อเท็จจริงไม่มีคนเสื้อแดงที่ไหนเขาสยบยอม แต่ว่าแต่ละพื้นที่เขาฉลาด เขาเท่าทัน แต่ว่าเขาจะเคาะแชทอะไรกันไม่ได้ แต่เขาตัดสินใจ เขารู้ว่าเขาจะทำอย่างไร อดทน สั่งสม รอคอย แต่ไม่เคยหยุด พวกผมแต่ละคนที่ยังเหลืออยู่ก็ทำหน้าที่อันนี้ทุกวัน ได้อธิบายเรื่องประชาธิปไตยเพื่อที่จะเริ่มต้นไม่กลับเข้ามาสู่ในวงจรที่เรียกว่าวงจรอุบาทว์กันอีก แต่ละคนก็มีความคิดอ่าน แต่ไม่ต้องการความสะใจ ไม่ต้องการชัยชนะจอมปลอมเพื่อรอวันพ่ายแพ้กันอีกแล้ว อายุก็ครึ่งร้อยแล้วคุณจอม คุณจอมเจอตั้งแต่ผมยังเด็กอยู่เลย ตอนนี้ 50 กว่า เจอตั้งแต่อายุ 20 กว่า เห็นไหมเวลาแป๊ปเดียว คุณวีระ 67 อาจารย์ธิดาไป 70 แล้ว พวกผมมีเวลากันอีกสักเท่าไหร่
ผมรู้ว่าขบวนการนี้เราจะไม่ให้เป็นภาระของคนรุ่นลูกรุ่นหลาน และขณะเดียวกันนั้น ไม่ต้องการชัยชนะชั่วคราวเพื่อรอวันพ่ายแพ้อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชนะเลือกตั้งในวันที่กติกาไม่เป็นประชาธิปไตยไม่มีประโยชน์อะไร ชะตากรรมก็เห็นกันอยู่ว่าปลายทางคืออะไร?
วันนี้วันเริ่มต้นของประเทศไทยนั้นจะต้องเป็นวันที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มันจึงจะนับหนึ่งประเทศไทยกันได้ ไม่เป็นประชาธิปไตยก็ต้องสู้กันแบบนี้
จอม : สุดท้ายแล้ววันที่ 1 พ.ย. นี้คุณจตุพรก็ยังคงใส่เสื้อแดงไหมครับ?
จตุพร : ผมอยู่ในงานศพพระพี่ชายผมซึ่งวันนี้ก็มีการสวดพระอภิธรรมพระราชทานเพลง วันที่ 1 เป็นวันเก็บอัฐิก็ทำบุญ ก็อยู่ในบรรยากาศของขาว-ดำ
จอม : ก็แสดงความเสียใจด้วยนะครับ
จตุพร : ขอบคุณครับ
จอม : ก็คงขอบคุณมากนะครับที่ให้เกียรติและอธิบายในหลาย ๆ ข้อสงสัยในหลาย ๆ คำถามที่มวลชนคนเสื้อแดงเองก็มีคำถาม ผมก็มีหน้าที่ในการเป็นสื่อกลางและถามคำถามนั้นแทนมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมากเหมือนกันที่อาจจะมีคำถามแล้วก็มีประเด็นที่อยากจะฟังคำอธิบายจากประธาน นปช. ขอบพระคุณมากครับคุณจตุพรครับ สวัสดีครับ