วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

"พิธา-ชัยธวัช" ผู้ช่วยหาเสียง ปราศรัย ทุ่งศรีเมือง อ.บ้านดุง พิธา ลั่นสัปดาห์หน้า เปิดนโยบายซุปเปอร์ท้องถิ่นของ นายก อบจ.อุดร ด้านชัยธวัช ขึ้นเวทีพร้อมกางหนังสืองบ 67 เผยอดีตนายกอบจ.อุดรธานี ทิ้งทวนใช้งบ 80 ล้านบาท ชวนประชาชนตรวจสอบ

 


"พิธา-ชัยธวัช" ผู้ช่วยหาเสียง ปราศรัย ทุ่งศรีเมือง อ.บ้านดุง พิธา ลั่นสัปดาห์หน้า เปิดนโยบายซุปเปอร์ท้องถิ่นของ นายก อบจ.อุดร ด้านชัยธวัช ขึ้นเวทีพร้อมกางหนังสืองบ 67 เผยอดีตนายกอบจ.อุดรธานี ทิ้งทวนใช้งบ 80 ล้านบาท ชวนประชาชนตรวจสอบ


วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.00 น. ที่ลานทุ่งศรีเมือง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลและอดีตประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง พร้อมคณะ เดินทางมาปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ของพรรคประชาชน 


เริ่มปราศรัยคนแรกโดย อรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ตามด้วย น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ที่บ้านเกิดอยู่ที่อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มาปราศรัยช่วยขอคะแนน เพื่อให้ญาติของลูกหลานที่ไปทำงานที่ต่างจังหวัดกลับมาลงให้คะแนนผู้สมัครพรรคประชาชน รวมถึงของพี่น้องประชาชนช่วยตรวจสอบคะแนนด้วยหัวคะแนนธรรมชาติ


จากนั้น ‘ชัยธวัช’ ขึ้นเวทีพร้อมกางงบฯ 67 แซะ ไม่ได้ถือ iPad ช็อตโน้ต ฉะอดีต นายก อบจ.อุดร จาก ‘เพื่อไทย’ ใช้เงินเฮ็ดหยัง ไม่ถึง 4 เดือน งบ 1,500 ล้าน กลายเป็นติดลบ 80 ล้าน ซัดนี่มันทิ้งทวนนะนี่ เพราะรู้ตัว ไม่ได้ลงอยู่แล้ว ย้ำ วันก่อนพ่อใหญ่ออดอ้อนให้เลือกถล่มทลาย แต่เลือกตั้งไม่ใช่เพื่อให้ใครรักษาหน้า ลั่น ช่วยส่งพ่อใหญ่เข้านอน พ่อใหญ่เหนื่อย ป่วยเยอะ ต้องรักษาโรคเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย อยู่ที่ชั้น 14 หลายเดือน ปล่อยไปเลี้ยงหลานเถอะ


ช่วงเย็นวันวันที่ 17 พ.ย.67 พรรคประชาชน เปิดเวทีปราศรัยย่อย ที่ ทุ่งศรีเมืองบ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรธานี ของพรรคประชาชน หาเสียง


17:25 น. นายชัยธวัช ตุลาธน แกนนำคณะก้าวหน้า ขึ้นปราศรัย พร้อมกับหนังสืองบประมาณ ปี 2567 โดยระบุว่า เห็นตนถือหนังสือเล่มใหญ่ใหญ่ อย่าเพิ่งแปลกใจว่า ถือ iPad หรือ ช็อตโน้ต แต่เป็นหนังสืองบประมาณ ตนมานั่งดูงบ อบจ. เพิ่งได้ยินหัวหน้าเท้ง พูดถึงเงินสะสม อบจ.อุดร ที่มีอยู่ 1,500 ล้านบาท ปรากฏว่า ไม่กี่วันมานี้ อดีตนายก อบจ. วิเชียร ขาวขำ บอกว่า หัวหน้าเท้งไม่รู้จริง ไม่ได้มี 1,500 ล้านบาท แต่ตอนนี้ติดลบอยู่ 80 ล้านบาท ตนก็เลยต้องมานั่งดูเอกสาร ซึ่งในเอกสารบอกว่า ปีงบประมาณ 2567 อบจ.อุดรธานี มีเงินสะสม 1,557 ล้านบาท ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2567 นี่ยังไม่ทัน 4 เดือนเต็ม น่าตกใจมาก ตนต้องถามคำถามคำโตโต ไม่ใช่มาถามหัวหน้าเท้งผม ต้องไปถามนายกฯ วิเชียร ว่า 1,500 ล้านบาทภายในไม่กี่เดือน ติดลบ 80 ล้านบาท เอาไปทำอีหยัง นี่มันทิ้งทวนนะนี่ เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ลงอยู่แล้ว ทิ้งทวนหรือเปล่า


นายชัยธวัช กล่าวว่า นี่เป็นตัวอย่างว่าเรื่องงบประมาณสำคัญ เรื่องความโปร่งใส การเปิดเผยการใช้งบประมาณสำคัญ การให้ประชาชนมีส่วนร่วมการกำหนดการใช้งบ ให้ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารระดับชาติ หรือระดับท้องถิ่น เดี๋ยวตนจะต้องไปทำการบ้านต่อ ว่าจากภายในไม่กี่เดือน เอาเงินไปเฮ็ดหยัง


“ฝากพี่น้องอุดร ไปถามอดีตนายกฯ วิเชียรหน่อยจาก 1,500 ล้านบาท ติดลบ 80 ล้านบาท แหม ใช้เงินเก่งจริงๆ ปัญหาคือเราได้ประโยชน์อะไรบ้าง”


จากนั้น นายคณิศร ปราศรัยนโยบายแก่ประชาชน ทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้ง อบจ.โปร่งใส ต้องมาให้พี่น้องได้รับรู้ ทางออนไลน์ อบจ. มีงบเท่าไหร่ ใช้ไปทางไหน อย่างไร, ไทอุดรมีส่วนร่วม ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนด คอร์รัปชันเป็นศูนย์ จะทำโครงการที่ตรวจสอบได้, รพ.สต.ก้าวหน้า อยู่ไหนก็ใกล้หมอ เจ้าหน้าที่เก่งแต่ไม่มีงบประมาณ ทางพรรคจะรับโอน รพ.สต. เอามาเข้า อบจ. เพื่อหางบประมาณมาดูแลญาติพี่น้อง, น้ำประปาใส ดื่มได้ทุกที่, ขนส่งสาธารณะ สนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว ให้มีรถขนส่งในแหล่งท่องเที่ยวทุกที่, ถนนปลอดหลุม ถนนเดินได้ ทุกที่ไฟสว่างและมีกล้องวงจรปิด, ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด โดยจะจัดสรรหาเครื่องมือตรวจสแกนเพื่อตรวจหาสารเสพติด เพื่อนำไปรักษา เพื่อส่งต่อบ้านเมืองที่ดี ในอนาคตให้กับลูกหลานของเรา


ต่อจากนั้น 18.20 น. นายพิธา ขึ้นเวที กล่าวว่า “บ ผมมีความสุขเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาอุดร ในช่วงสุดสัปดาห์ เวทีนี้เป็นเวทีที่ 7 ของการหาเสียงครั้งนี้


โดยนายพิธา ได้อธิบายเหตุผลว่า ทำไมต้องไปเลือกตั้ง นายก อบจ. โดยชี้ว่า คือเลือกไปแก้ปัญหาให้ประชาชน ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ และอยากให้ประชาชนกลับไปคิดว่า อบจ.คนเดิมที่อยู่มา 12 ปี ใช้งบประมาณปีละ 1,200 ล้านบาทไปอย่างไร ชีวิตประชาชนดีขึ้นหรือไม่ ดังนั้น 24 พฤศจิกายนนี้ต้องออกไปเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง


นายพิธากล่าวว่า เหตุผลที่ต้องเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาชน เพราะเป็นคนขยัน ลงพื้นที่เกือบทุกอำเภอ และจะไปให้ครบทุกตำบลก่อนวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ มีความตั้งใจที่จะทำงาน มีประสบการณ์มาก่อน การทำงานการเมืองระดับชาติกับระดับท้องถิ่นไม่เหมือนกัน ดังนั้นใครอยากใช้คนทำงานเป็น ก็ต้องเลือกคนนี้ อีกทั้งยังมีทีมงานก็เป็นคนรุ่นใหม่


นายพิธายังระบุว่า ช่วงโค้งสุดท้าย พรรคประชาชนยังมีหมัดเด็ด สัปดาห์หน้ากลับมาเจอกัน นโยบายของ นายก อบจ.จะเป็นแบบซุปเปอร์ท้องถิ่น แบบรายอำเภอ แบบที่คู่แข่งทำไม่ได้ เลือกตั้งวันที่ 24 ในวันที่ 25 จะทำงานทันที มีวาระ 100 วันแรก พร้อมถามว่า แบบนี้คู่แข่งทำได้หรือไม่


นายพิธายังยอมรับว่า เป็นมวยรอง ในการแข่งขันมีแพ้ มีชนะ กลับมาคราวนี้ กติกาการเลือกตั้งท้องถิ่นกับกติการเลือกตั้งระดับชาติไม่เหมือนเดิม เพราะฉะนั้น ก็ต้องขอชาวบ้านดุงกลับไปประชาสัมพันธ์ให้คนออกมาใช้สิทธิ์ ถ้าไปใช้สิทธิ์แบบนี้ ไล่กวดได้แน่นอน


“และพรรคประชาชนชนะอย่างเดียวไม่พอ ชนะแล้วต้องเปลี่ยน แพ้ก็ไม่กลัว กลัวชนะแล้วเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะพี่น้องคาดหวังไว้สูง ชนะแล้วต้องเปลี่ยนอุดรให้ได้ ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ ขายขี้หน้า“


หากชนะก็ต้องเอาทีม สส.พรรคประชาชน มาระดมสมอง แก้กฎหมาย และลงมาทำให้อุดรเปลี่ยนให้ได้


“พรรคประชาชนยังเป็นพรรคการเมืองอันดับ 1 ของประเทศไทย ถึงแม้เขาผลักไปเป็นฝ่ายค้าน ถึงแม้เขายุบพรรค ถึงแม้เขาจะตัดสิทธิ์คนชนะเลือกตั้ง พรรคประชาชนก็ยังเป็นพรรคอันดับ 1 ของไทยอยู่ดี“


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #อบจอุดร