วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

ครม.ไฟเขียวทำประชามติ 3 ครั้ง คาดรอบแรกปลายก.ค.-ต้นส.ค. เคาะใช้งบ 3.2 พันล้าน หากผ่านชงแก้ม.256 ให้รัฐสภาสร้างสูตรส.ส.ร.

 


ครม.ไฟเขียวทำประชามติ 3 ครั้ง คาดรอบแรกปลายก.ค.-ต้นส.ค. เคาะใช้งบ 3.2 พันล้าน หากผ่านชงแก้ม.256 ให้รัฐสภาสร้างสูตรส.ส.ร.


เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ได้เข้ามารายงานข้อสรุปของคณะกรรมการฯ ต่อ ครม. 2 ส่วน ซึ่ง ครม.เห็นชอบตามรายงานที่เสนอ โดยส่วนแรกคือ การขอทำประชามติ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกจะเป็นคำถามว่าเห็นชอบในการแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 หรือไม่ โดย ครม.มอบหมายให้สำนักปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเสนอขั้นตอนการทำประชามติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ มาตรา 15 เชื่อว่าการทำประชามติครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปลายเดือนกรกฎาคม - ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งจะอยู่ในกรอบกฎหมายระหว่าง 90 - 120 วัน โดยการทำครั้งแรกจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,200 ล้านบาท ซึ่งทำตามกฎหมายเดิมที่ระบุ อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เชื่อว่าการทำประชามติครั้งแรกจะผ่าน แม้ยังไม่แก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะลดเกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้น เพราะจากการไปฟังเสียงประชาชน เขาอยากให้มีการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่


นายนิกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากทำประชามติครั้งแรกผ่าน ขั้นตอนต่อไปจะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้รัฐสภาประกอบไปด้วย ส.ส.และ สว.เป็นคนกำหนดออกแบบสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จากนั้นเมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ก็ทำประชามติครั้งที่ 2 จากนั้นจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.เมื่อได้ ส.ส.ร.แล้ว จะมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อร่างเสร็จก็จะทำประชามติครั้งที่ 3 ซึ่งตนมั่นใจว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมทั้งฉบับจะอยู่ภายในกรอบอายุของรัฐบาลชุดนี้


ขณะที่ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบรายงานผลการศึกษาของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ซึ่งได้เสนอให้การลงประชามติต้องทำ 3 ครั้ง เนื้อหาในการทำครั้งแรกให้ถามว่า "ท่านเห็นชอบหรือไม่ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์" ซึ่งการทำประชามติครั้งแรกต้องดำเนินการ ระหว่างวันที่ 21 ก.ค. - 21 ส.ค.67


อย่างไรก็ตาม การทำประชามติครั้งนี้จะไม่มีการตั้งคำถามว่า "จะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรือไม่ และจะใช้งบประมาณ 3,200 ล้านบาท" ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรอบต่อๆ ไป จะมีเนื้อหาว่าอยากจะให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งให้ฝ่ายที่ดำเนินการไปพิจารณารายละเอียดเพื่อนำเสนอต่อไป


"สรุป ณ วันนี้ มีการทำประชามติ โดย ครม.เห็นชอบ จากนี้ไปจะคิกออฟแล้ว วันที่ 21 ก.ค. - 21 ส.ค.67 จะต้องมีการทำประชามติ จากนั้น จะตามด้วยการทำประชามติอีก 2 รอบ" นายชัย กล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ประชามติ #รัฐธรรมนูญ