วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

เครือข่ายองค์การนิสิตนักศึกษาฝ่ายบริหาร 9 สถาบัน ออกแถลงการณ์ร่วม กรณีศาลรธน. วินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 67

 


เครือข่ายองค์การนิสิตนักศึกษาฝ่ายบริหาร 9 สถาบัน ออกแถลงการณ์ร่วม กรณีศาลรธน. วินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 67


เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 องค์การนิสิตนักศึกษา 9 สถาบัน ประกอบด้วย องค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น, องค์การบริหาร องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน, สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, องค์การบริหาร องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร, องค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยบูรพา และองค์การนิสิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ออกแถลงการณ์ร่วม มีความว่า


แถลงการณ์ร่วมระหว่างเครือข่ายองค์การนิสิตนักศึกษาฝ่ายบริหาร 9 มหาวิทยาลัย


กรณี ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


ทั้งนี้ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


เครือข่ายองค์การนิสิตนักศึกษาฝ่ายบริหาร ทั้ง 9 มหาวิทยาลัย มีความเห็นพ้องต้องกันว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวได้สร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ไม่ถูกต้องแก่สังคมการเมืองประเทศไทย กล่าวคือ ประชาชนคือผู้มีอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญ กฎหมาย และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ อันสามารถแก้ไข ปรับเปลี่ยน หรือยกเลิกได้ตามบริบทสังคมและบ้านเมืองที่แปรเปลี่ยนไปในทุกวัน โดยในห้วงเวลาที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าปัญหาจากประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นมีอยู่จริง และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมาโดยตลอด


คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อประเด็นดังกล่าวนับได้ว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันตุลาการซึ่งควรจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสิทธิ เสรีภาพของประชาชนเป็นใหญ่ กลับละทิ้งหลักการดังกล่าว แล้วเข้ามาแทรกแซงระบบการเมืองไทยอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่านับตั้งแต่การรัฐประหาร ปีพุทธศักราช 2549 เป็นต้นมา และผลของคำตัดสินในครั้งนี้ได้สร้างความกังวลว่าอาจนำไปสู่การดำเนินคดีทางการเมืองอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง หรือแม้กระทั่งนำไปสู่การยุบพรรคซึ่งเป็นสิ่งที่มิชอบธรรมตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย


พวกเราในนามนิสิตนักศึกษาขอส่งเสียงเรียกร้องถึงผู้มีอำนาจให้ทราบ และตระหนักถึงอนาคตของประเทศชาติ พวกเราต่างสิ้นหวังกับทุกสิ่งที่ท่านได้กระทำย่ำยีต่อหลักวิชาอันเป็นพื้นฐานที่ท่านร่ำเรียนมาเพื่อรับใช้ประชาชน หรือแม้แต่ศีลธรรมความถูกต้องที่ท่านต่างยึดถือ อำนาจที่ท่านมีมิใช่สิ่งจีรังยั่งยืน ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แม้ท่านจะห้ามมิให้ดอกไม้ผลิดอกบาน แต่มิอาจหยุดฤดูกาลที่แปรผัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ก้าวไกล #มาตรา112 #ม112 #ล้มล้างการปกครอง