วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2566

'เศรษฐา' นำคณะถกประเด็นปัญหาการค้า-ยาเสพติด-สัญชาติ-ที่ดินทำกิน ที่ด่านแม่สาย มองปัญหาลี้ภัยสู้รบเมียนมาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ลั่นคลังไม่มีปัญหา แม้แบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด

 


'เศรษฐา' นำคณะถกประเด็นปัญหาการค้า-ยาเสพติด-สัญชาติ-ที่ดินทำกิน ที่ด่านแม่สาย มองปัญหาลี้ภัยสู้รบเมียนมาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ลั่นคลังไม่มีปัญหาแม้แบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด


วันที่ 15 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมด่านพรมแดนไทย-เมียนมาร์ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า วันนี้มารับฟังปัญหาหลายๆด้าน ซึ่งเรื่องใหญ่เป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ คมนาคม เนื่องจากเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เหนือสุดในการขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศจีนรวมถึงประเทศ อื่นๆ ทั้งลาว พม่า ไทย จีน ซึ่งได้รับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบการว่าอยากให้มีการลงทุนหลายรูปแบบ ทั้งทางน้ำ ทางรถยนต์ หรือการสร้างด่านศุลกากร ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการขอโครงการก็ต้องมีเรื่องงบประมาณที่เราจะต้องนำมาพิจารณากัน ตนจึงเสนอให้มีการตั้งคณะทำงาน โดยจะต้องมีการเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรสามารถทำได้ทำได้เร็วเพื่อเป็นการกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ


ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งตรงนี้เป็นจุดการค้าระหว่างประเทศ สารผลิตหรือสารตั้งต้นถูกลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องอาศัยการพูดคุยกันหลายหลายภาคส่วน โดยระบุอีกว่า ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องการต่างประเทศอย่างเดียวที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงขึ้น ซึ่งต้องมีเรื่องการทำลายยาเสพติด โดยมีการสั่งการนโยบายว่าในวันอาทิตย์ (17 ก.ย.) นี้ จะมีการประชุมร่วมกับ ปปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลดการใช้ยาเสพติด โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พื้นที่จังหวัดเชียงรายลดลง แต่ไปเพิ่มทางพื้นที่ภาคอีสานแทน


ขณะที่การประชุมวันนี้ยังมีการหารือเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งเรื่องสิทธิมนุษย์ชนเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันเด็กกลับประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากไม่มีสิทธิ์เข้ารับการศึกษา นอกจากนี้ยังมีสิทธิที่ดินทำกิน จึงไม่ใช่เพียงเรื่องปัญหาของชาวชาติพันธุ์ แต่เป็นปัญหาของคนไทยทั้งประเทศ หลายครอบครัวมีการครอบครองที่ดินมานานแต่ยังไม่ได้มีการรับรองสิทธิ์ ซึ่งตนได้เน้นย้ำไปแล้วว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขปัญหารวบรวมกันไป ซึ่งเรามีการวางลำดับการดำเนินงานมาแล้วว่าจะทำอย่างไร ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เนื่องจากเป็นการปลูกข้าวโพดในพื้นที่เมียนมา ซึ่งก็ต้องมีการเจรจาระหว่างประเทศ และอีกไม่กี่เดือนจะถึงฤดูการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ซึ่งตรงกับช่วงการเผาตอซังด้วย จึงต้องให้มีการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งรองนายกฯที่กำกับดูแลได้รับเรื่องไปแล้ว ก่อนที่จะเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย


ส่วนเรื่องใดที่สามารถตั้งคณะทำงานได้ทันทีเพื่อขับเคลื่อน นายกฯ ระบุว่า เป็นเรื่องสัญชาติที่จะต้องดำเนินการในทันที ทั้งเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ หรือขั้นตอนการดำเนินการมากเกินไป ซึ่งต้องขอเวลาสรุปและดำเนินการ


ทั้งนี้ นายเศรษฐา ปฏิเสธว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาฟรีวีซ่าให้กับชาวเมียนมา เนื่องจากเป็นเรื่องของความมั่นคง อาจจะเป็นในลักษณะการขอวีซ่าตรงด่านได้ เป็นการอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน ซึ่งตนมองว่าศักยภาพมีมากกว่านี้ โดย นายกฯ ยังระบุว่า ปัญหาการสู้รบภายในประเทศเมียนมา ตามแนวชายแดน ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดูให้ครบในทุกมิติ เวลาแก้ไขปัญหาต้องดูเป็นเรื่อง ๆ ไป


ส่วนกรณีที่เด็ก 126 คนถูกผลักดันกลับประเทศเมียนมา นายกฯ มองว่า เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องติดตามและดูแล ซึ่งเรื่องการศึกษา เป็นการกำกับของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย


ส่วนการถูกหลอกเข้าไปเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียนมากว่า 300 คน โดยมีการร้องขอให้รัฐบาลช่วยกลับประเทศ นายกฯ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่อง


ทั้งนี้ เศรษฐา ยังกล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้อกังวลถึงการแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบต่อเดือนถึงการดำเนินการอาจจะไปหนักที่กระทรวงการคลัง ซึ่งอาจจะต้องเบิกเป็น 2 งวด ว่า ไม่มีปัญหา


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #รัฐบาลเศรษฐา1 #เชียงราย