'เศรษฐา' นำคณะถกประเด็นปัญหาการค้า-ยาเสพติด-สัญชาติ-ที่ดินทำกิน
ที่ด่านแม่สาย มองปัญหาลี้ภัยสู้รบเมียนมาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ลั่นคลังไม่มีปัญหาแม้แบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ
2 งวด
วันที่ 15 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมด่านพรมแดนไทย-เมียนมาร์ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า
วันนี้มารับฟังปัญหาหลายๆด้าน ซึ่งเรื่องใหญ่เป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ คมนาคม
เนื่องจากเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เหนือสุดในการขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศจีนรวมถึงประเทศ
อื่นๆ ทั้งลาว พม่า ไทย จีน
ซึ่งได้รับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบการว่าอยากให้มีการลงทุนหลายรูปแบบ ทั้งทางน้ำ
ทางรถยนต์ หรือการสร้างด่านศุลกากร ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการขอโครงการก็ต้องมีเรื่องงบประมาณที่เราจะต้องนำมาพิจารณากัน
ตนจึงเสนอให้มีการตั้งคณะทำงาน
โดยจะต้องมีการเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรสามารถทำได้ทำได้เร็วเพื่อเป็นการกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า
ปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ซึ่งตรงนี้เป็นจุดการค้าระหว่างประเทศ
สารผลิตหรือสารตั้งต้นถูกลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน
จึงต้องอาศัยการพูดคุยกันหลายหลายภาคส่วน โดยระบุอีกว่า
ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องการต่างประเทศอย่างเดียวที่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงขึ้น
ซึ่งต้องมีเรื่องการทำลายยาเสพติด โดยมีการสั่งการนโยบายว่าในวันอาทิตย์ (17 ก.ย.) นี้ จะมีการประชุมร่วมกับ ปปส.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลดการใช้ยาเสพติด โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า
พื้นที่จังหวัดเชียงรายลดลง แต่ไปเพิ่มทางพื้นที่ภาคอีสานแทน
ขณะที่การประชุมวันนี้ยังมีการหารือเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์
ซึ่งเรื่องสิทธิมนุษย์ชนเป็นเรื่องสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันเด็กกลับประเทศเมียนมาร์
เนื่องจากไม่มีสิทธิ์เข้ารับการศึกษา นอกจากนี้ยังมีสิทธิที่ดินทำกิน
จึงไม่ใช่เพียงเรื่องปัญหาของชาวชาติพันธุ์ แต่เป็นปัญหาของคนไทยทั้งประเทศ
หลายครอบครัวมีการครอบครองที่ดินมานานแต่ยังไม่ได้มีการรับรองสิทธิ์
ซึ่งตนได้เน้นย้ำไปแล้วว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน
ด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5
เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขปัญหารวบรวมกันไป
ซึ่งเรามีการวางลำดับการดำเนินงานมาแล้วว่าจะทำอย่างไร
ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
เนื่องจากเป็นการปลูกข้าวโพดในพื้นที่เมียนมา ซึ่งก็ต้องมีการเจรจาระหว่างประเทศ
และอีกไม่กี่เดือนจะถึงฤดูการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ซึ่งตรงกับช่วงการเผาตอซังด้วย
จึงต้องให้มีการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งรองนายกฯที่กำกับดูแลได้รับเรื่องไปแล้ว
ก่อนที่จะเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
ส่วนเรื่องใดที่สามารถตั้งคณะทำงานได้ทันทีเพื่อขับเคลื่อน
นายกฯ ระบุว่า เป็นเรื่องสัญชาติที่จะต้องดำเนินการในทันที
ทั้งเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ หรือขั้นตอนการดำเนินการมากเกินไป
ซึ่งต้องขอเวลาสรุปและดำเนินการ
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ปฏิเสธว่า
ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาฟรีวีซ่าให้กับชาวเมียนมา
เนื่องจากเป็นเรื่องของความมั่นคง อาจจะเป็นในลักษณะการขอวีซ่าตรงด่านได้
เป็นการอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน ซึ่งตนมองว่าศักยภาพมีมากกว่านี้ โดย นายกฯ
ยังระบุว่า ปัญหาการสู้รบภายในประเทศเมียนมา ตามแนวชายแดน
ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดูให้ครบในทุกมิติ เวลาแก้ไขปัญหาต้องดูเป็นเรื่อง ๆ
ไป
ส่วนกรณีที่เด็ก 126 คนถูกผลักดันกลับประเทศเมียนมา นายกฯ มองว่า เป็นเรื่องที่สำคัญ
โดยได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องติดตามและดูแล ซึ่งเรื่องการศึกษา
เป็นการกำกับของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ส่วนการถูกหลอกเข้าไปเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียนมากว่า
300 คน
โดยมีการร้องขอให้รัฐบาลช่วยกลับประเทศ นายกฯ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่อง
ทั้งนี้ เศรษฐา
ยังกล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ข้อกังวลถึงการแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบต่อเดือนถึงการดำเนินการอาจจะไปหนักที่กระทรวงการคลัง
ซึ่งอาจจะต้องเบิกเป็น 2 งวด ว่า ไม่มีปัญหา
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #รัฐบาลเศรษฐา1 #เชียงราย