ยูดีดีนิวส์ : 21 มี.ค. 62 อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ได้กล่าวในการทำ Facebook Live วันนี้ว่า ตั้งแต่วันที่คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 54 มาจนบัดนี้ ทุกอย่างมันอยู่ในแผนหมด
จากเลือกตั้งปี 54 ก็คือทำอย่างไรจะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งนั้น ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรก็ตามส่วนหนึ่งอยู่ในแผน แต่มาลงท้ายด้วยการชัตดาวน์กรุงเทพฯ ทั้งหมดเพื่อหยุดยั้งการเลือกตั้ง เพราะว่าในกลุ่มคนอนุรักษ์นิยมปฏิเสธการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เพราะเขาพิจารณาแล้วว่าถ้าให้เลือกตั้งอีก ก็คงชนะกลับมาอีก
เมื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้แล้ว จากนั้นจะให้มีการเลือกตั้งง่าย ๆ ไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นรัฐประหารปี 57 ที่เกิดขึ้น ได้มีการวางแผน มีตัวละคร ที่ทำให้การทำรัฐประหารนั้นชอบธรรมเพื่อทำให้เห็นว่ารัฐบาลที่มีอยู่นั้นควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ เพราะกลไกรัฐทั้งหลายไม่ขึ้นตรงรัฐบาลแม้กระทั่งพนักงานรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ
ดังนั้นที่ดิฉันใช้คำว่า "ทุกกระบวนท่า...วิชามาร" ก็คือเมื่อเราพิจารณาถอยหลังกลับไปตั้งแต่ปี 54 ใครจะเป็นคนดีก็ตาม ในทัศนะดิฉันถือว่าเป็นวิชามาร แล้วใช้ทุกกระบวนท่า ใช้คนทุกฝ่าย และคนทุกฝ่ายยินดีที่จะใช้วิชามารเพื่อกำจัดคนที่ตัวเองคิดว่าไม่ดี กำจัดทุนสามานย์และบริวาร
กระบวนท่าทั้งหมดทางกฎหมายก็คือการใช้กระบวนท่าทางกองทัพในการยึดอำนาจ กระบวนท่าในการใช้เนติบริการเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญ เขียนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ ทำให้มีการลงประชามติ มีบทเฉพาะกาล จนกระทั่งมี ส.ว. 250 เสียง
นั่นหมายความว่าฝั่งเสนาอำมาตย์และพลังชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมอำนาจนิยมพิจารณาแล้วว่า ผ่านมาแล้ว 5 ปี คุมให้อยู่ และเตรียมให้พร้อม เพื่อรองรับการเลือกตั้ง เราจึงเห็นการเลื่อนการเลือกตั้งอย่างใช้วิชามารทุกรูปแบบ เลื่อนมาเรื่อย ๆ จนคิดว่าพรรคการเมืองฝั่งตนพร้อม
อย่างไรก็ตาม ทุกกระบวนท่าเริ่มเข้ามาสู่กระบวนท่าของนักการเมืองระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แต่ยังไม่พอ เราจะเห็นตามข่าวว่า ทหาร ตำรวจสันติบาล 30 นาย เข้าตรวจค้นบ้านญาติผู้สมัครเพื่อไทย จ.นนทบุรี อ้างว่าได้รับเบาะแสว่าจะมีการทุจริตซื้อสิทธิขายเสียงเกิดขึ้นในพื้นที่
อ.ธิดากล่าวว่า พูดตรง ๆ นะ จะบอกว่าเราเป็นคนใน (ฝ่ายประชาธิปไตย) ก็ได้ และบอกได้เลยว่าพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเป็นพรรคที่ใช้จ่ายเงินน้อยที่สุด ไม่จำเป็นต้องไปจ่ายเงินให้คนเพราะเขามีความเชื่อมั่น มี Brand Loyalty ว่าเป็นพรรคของดร.ทักษิณ หรือพรรคที่มาจากไทยรักไทย เพราะเขาเคยใช้ Brand นี้มาแล้วและเขาประทับใจซึ่งคุณค่ามันมากกว่าเงินร้อยสองร้อย
เพราะฉะนั้นถ้าเอาประเด็นนี้เข้าไปตรวจค้น ดิฉันบอกได้เลยว่านั่นคือหาเรื่องแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไปแจกเงิน แต่พรรคที่ไม่มี Brand Loyalty อยู่ ๆ มาหน้าใหม่หรืออยากจะสร้าง Brand ใหม่ คิดว่าจะอาศัย Brand ลุงตู่ แต่ Brand ลุงตู่นั้นมาจากการยึดอำนาจ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อาจจะดูว่าเป็น Brand ที่ดังเหมือนกันนะ แต่ที่มามันคนละอย่าง
นอกจากนี้ยังมีผู้สื่อข่าวอาสาฯ ยูดีดีนิวส์ทางภาคเหนือตอนล่าง แจ้งข่าวว่าจะมีกำลังสันติบาลเข้าค้นบ้านหัวคะแนนส.ส.ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในภาคเหนือ, ภาคอีสานด้วย
อ.ธิดากล่าวต่อไปว่า นี่ถึงได้บอกว่าทุกกระบวนท่า ... วิชามาร อาศัยอำนาจรัฐ อาศัย ม.44 และขณะนี้ท่านนายกฯ ก็ไปตรวจราชการกระทั่งตอนเช้าที่สวนลุมพินี
ดิฉันมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปัจจัยแรกที่ผู้ตรวจสอบทุจริตต้องเข้าใจว่า ขณะนี้อยู่ในอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ มีม.44 และผู้ใช้ม.44 เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ต้องการสืบทอดอำนาจโดยมีพรรคการเมืองของตัวเองขึ้นมา คล้าย ๆ ทศกัณฐ์ หรือเปล่า? มี 20 มือ มือหนึ่งถือ ม.44 มี 10 หน้า หน้าหนึ่งเป็นหัวหน้าคสช. หน้าหนึ่งเป็นนายกฯ หน้าหนึ่งเป็นประธานยุทธศาสตร์ฯ ฯลฯ จึงสามารถใช้กลไกรัฐได้ทั้งหมดในปฏิบัติการครั้งนี้
การใช้ทุกกระบวนท่าวิชามารอย่างเปิดเผย ไม่ว่าใครจะทักท้วง ในฝ่ายอนุรักษ์นิยมด้วยกันเขาก็ไม่คิดว่าคุณจะทำถึงขนาดนี้ คิดว่าคุณอยู่ไป 4-5 ปี แล้วก็ให้พลเรือนเขามาเป็นรัฐบาล ทีไหนได้ ได้บทเฉพาะกาล ได้ 250 ส.ว. แต่งตั้ง
แล้วขณะนี้การประชุมครม. เมื่อ 24 ม.ค. ก็มีการออกสิ่งที่จะเรียกว่าเป็นการหาเสียงเชิงนโยบาย หรือเปล่า? มีการปล่อยกู้กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากโครงการเยอะไปหมดกว่า 7 แสนล้านบาท
ทั้งหมดเหล่านี้ในทัศนะดิฉันถือว่าเป็นวิชามาร โครงการบัตรสวัสดิการแล้วให้คนมาขึ้น ขณะนี้ก็แข่งกับปชป. (มารดาประชารัฐ) คือคุณตั้งพรรคการเมืองในชื่อเดียวกับโครงการของรัฐบาลปัจจุบันที่มาจากการยึดอำนาจ ไม่มีประเทศไหนในโลกเขากล้าทำ!!!
แล้วในงบประมาณมาแจกคนในช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง ไม่มีใครกล้าทำ แต่ว่าพวกท่านกล้าทำ เมื่อเห็นแบบนี้ดิฉันก็จะบอกว่า ภาพที่จะเห็นต่อไปนั้นเป็นภาพที่น่าเป็นห่วงกังวล และกกต.ก็มีปัญหาค่อนข้างมาก
จึงขอเรียกร้องมายังพี่น้องประชาชนว่า นี่เป็นวาระทางประวัติศาสตร์ ถ้าเลยครั้งนี้ไปแล้ว การต่อสู้ประชาชนจะลำบากนะคะ ดิฉันเชื่อว่าประชาชนจะมาใช้สิทธิเลือกตั้งกว่า 90% กกต.อย่าทำให้เกิดบัตรไม่พอเหมือนการเลือกตั้งล่วงหน้า
นอกจากสิทธิในการเป็นผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ให้แต่ละคนทำตัวเป็นอาสาตรวจสอบเลือกตั้ง โดยเฉพาะในตอนเย็นหลังปิดหีบ ต้องตามไปดูที่หน่วย ตามไปดูที่เขต มีอะไรไม่ชอบมาพากลก็พากันส่งเสียงร้องเรียนให้ดัง
เราเสียท่าตอนทำประชามติแล้ว อย่าเสียท่าตอนเลือกตั้ง
เราเสียเปรียบด้วยกติการการเลือกตั้ง เสียเปรียบด้วยไม่มีอำนาจรัฐ
ขอให้ประชาชนออกมาเลือกตั้งให้มาก และทุกคนทำตัวเป็นอาสาสมัครตรวจสอบ