น้ำท่วมภาคใต้ยังไม่จบ
"น้ำท่วมภาคกลางยังหนัก หลายแห่งจมน้ำราว 5 เดือนแล้ว"
วันที่
2 ธันวาคม 2568 ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส. พระนครศรีอยุธยา
เขต 1, ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. บัญชีรายชื่อ, เจษฎา ดนตรีเสนาะ สส. ปทุมธานี เขต 2 และกิตติภณ
ปานพรหมมาศ สส. นครปฐม เขต 4 และกรรมาธิการทรัพยากรน้ำ
พรรคประชาชน วิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมภาคกลางแต่ละแห่ง
ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนต่อเนื่อง
พระนครศรีอยุธยาจมน้ำมา
5 เดือนแล้ว
ทวิวงศ์
โตทวิวงศ์ สส. พระนครศรีอยุธยา เขต 1 กล่าวว่า
น้ำเริ่มท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม จนถึงปัจจุบันท่วมมานานหลายเดือนแล้ว
และบางพื้นที่อาจท่วมถึงปลายปี หรือข้ามปี
สถานการณ์น้ำและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ยังเดือดร้อนถ้วนหน้า
ปัจจุบันนี้
“น้ำในทาง” หรือน้ำที่เอ่อไหลท่วมทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำยังคงท่วมอยู่
แม้จะเริ่มลดลงแล้ว แต่พื้นที่ชุมชนนอกคันกันน้ำ (หรือชุมชนริมแม่น้ำ)
หลายแห่งโดยเฉพาะใน อ.บางบาล ยังคงมีน้ำท่วมขังที่ความสูงประมาณ 1 เมตร และเกือบ 2 เมตร
ในชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วยังคงมีความจำเป็นต้องใช้เรือพายในการเดินทางเข้า-ออกที่อยู่อาศัย
สส.
ทวิวงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ประชาชนในพื้นที่เริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนกันแล้ว
แต่ในหลายพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง ซึ่งในช่วงน้ำท่วมสูงสุด
น้ำท่วมถึงระดับพื้นบ้านยกสูงหรือท่วมพื้นชั้น 2 แต่ขณะนี้บางแห่งน้ำลดลงจนไม่ท่วมพื้นบ้านแล้ว
แต่ใต้ถุนบ้านนั้น น้ำยังคงท่วมสูงในระดับ 1-2 เมตร
อย่างไรก็ตาม
สัญญาณที่ดีคือ แผนการลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาของ กรมชลประทานและ สทนช.
เตรียมมีการลดการระบายน้ำประมาณวันละ 100 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้
อ.บางบาล เข้าสู่สภาวะปกติประมาณช่วงกลางเดือนธันวาคม 2568 นี้
และพื้นที่สุดท้ายของอยุธยาที่น้ำจะลดจนเป็นปกติคือ อำเภอเสนา
ซึ่งน่าจะกลับคืนสู่ปกติทั้งหมด ภายในช่วงหลังของเดือนธันวาคม
รวมระยะเวลาน้ำท่วมในปีนี้ทั้งสิ้นเกือบ 5 เดือน
สำหรับพื้นที่จังหวัดอ่างทอง
ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
รายงานสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณปากคลองโผงเผง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ
โดยข้อมูลจากกรมชลประทาน ระดับน้ำท่วมบริเวณปากคลองโผงเผง
ยังสูงกว่าระดับตลิ่งประมาณ 1 เมตร
นอกจากนี้
พื้นที่บริเวณดังกล่าวยังได้รับผลกระทำจากการกัดเซาะของน้ำ
เนื่องจากแรงกระแทกของน้ำเมื่อเรือขับผ่าน ทำให้ตลิ่งและถนนทรุดและไม่มีแนวทางป้องกันเบื้องต้น
รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงกันยังประสบปัญหาน้ำผุดใต้พนังกั้นน้ำท่วมที่มีการสร้างไว้
เพราะฉะนั้นในภาพรวมประชาชนยังต้องเสี่ยงกับปัญหาตลิ่งทรุดตามมา
ส่วนพื้นที่ปลายน้ำอย่างจังหวัดปทุมธานี
เจษฎา ดนตรีเสนาะ สส. ปทุมธานี เขต 2 กล่าวว่า
ระดับน้ำยังคงท่วมหลายชุมชน ทั้ง อ.สามโคก และ อ.เมือง (เช่น ชุมชนเจดีย์ทอง
บ้านสามเรือน วัดศาลาแดง วัดเมตารางค์ วัดป่างิ้ว วัดสวนมะม่วง คลองคู
วัดโพธ์เลื่อน บ้านกระแชง เกาะลอย วัดตลาดเหนือ วัดเกาะเกรียง คลองตานก บ้านม่วง
เป็นต้น) ทำให้พี่น้องประชาชนยังคงใช้ชีวิตด้วยความลำบากเพราะถ้าไม่มีสะพานและพายเรือไม่ได้
ก็ต้องเดินลุยน้ำ
เช่นเดียวกับสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณลุ่มน้ำท่าจีน
กิติภณ ปานพรหมมาศ สส. นครปฐม เขต 4 กล่าวว่า
ชุมชนริมแม่น้ำท่าจีนหลายจุดยังมีความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง–น้ำล้นตลิ่ง
โดยเฉพาะบ้านเรือนริมคลองและพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำบางช่วงยังสูง 30–40 ซม.
น้ำในทุ่ง
จะหมดเมื่อไร
ส่วน
“น้ำในทุ่ง” นั้น ปริมาณน้ำยังคงท่วมทุ่งอยู่มาก และไม่สามารถระบายออกได้
เนื่องจากต้องรอให้น้ำที่อยู่ริมแม่น้ำจำเป็นต้องลดลงก่อน
ถึงจะสามารถระบายน้ำออกจากทุ่งได้ ทั้งนี้
ตามแผนการระบายน้ำออกจากทุ่งของกรมชลประทานแจ้งว่า
จะเริ่มระบายน้ำออกจากทุ่งบางบาล-บ้านแพน (ที่มีน้ำเหลือในทุ่ง 30.7 ล้านลูกบาศก์เมตร)
ในวันที่ 1 ธันวาคม และจะระบายน้ำได้หมดในวันที่ 30 ธันวาคม ปีนี้
ส่วนพื้นที่ทุ่งที่มีการระบายน้ำออกจากทุ่งได้ล่าช้าที่สุดตามแผนดังกล่าวคือ
ทุ่งโพธิ์พระยา พื้นที่กว่า 200,000 ไร่ (ปริมาณน้ำเหลือในทุ่ง 235
ล้านลูกบาศก์เมตร) จะเริ่มระบายน้ำออกจากทุ่งโพธิ์พระยา ในวันที่ 1
ธันวาคม และจะระบายน้ำได้หมดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์
2569 หรือท่วมข้ามปี
สส.
ทวิวงศ์ และ สส. กิตติภณ สะท้อนว่า พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ทุ่งรับน้ำเป็นห่วงว่า
การระบายน้ำที่ช้า อาจจะกระทบปฏิทินการเพาะปลูกของเกษตรกรชาวนา
ทำให้เริ่มเพาะปลูกได้ช้ากว่าปกติ และทำให้เกิดปัญหาข้าวกระทบร้อน
(ข้าวผลผลิตต่ำเนื่องจากอุณหภูมิสูง) ในช่วงเดือนเมษายนได้
ติดตามเงินเยียวยา
สิ่งที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ความสนใจคือเงินช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล
ซึ่งพี่น้องประชาชนส่วนมากได้รับเงินเยียวยา 9,000 บาทแล้ว
แต่พี่น้องยังรอการประเมิน และเงินเยียวยาในส่วนที่เป็นขั้นบันได
(ตามระยะเวลาการท่วม สูงสุด 20,000 บาท/ครัวเรือน)
นอกจากนี้
สส. ทวิวงศ์ กล่าวว่า พี่น้องชาวอยุธยายังคงเฝ้ารอว่า
จะมีเงินชดเชยค่าซ่อมแซมบ้านที่เสียหายหรือไม่ เนื่องจากในช่วงน้ำท่วม 2 ปีที่ผ่านมา
มีเพียงการชดเชยค่าครองชีพ 9,000 บาท
เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ไม่มีค่าชดเชยความเสียหายหรือค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจากรัฐบาล
และความเสียหายต่อบ้านเรือนจริงมีมากกว่านั้น
จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือตามความเสียหายจริงด้วย
เร่งฟื้นฟูพื้นที่ชุมชน
นอกจากการช่วยเหลือเยียวยาบ้านเรือนประชาชน
พี่น้องประชาชนในภาคกลาง ยังเรียกร้องให้
รัฐบาลต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูอาคารและพื้นที่สาธารณะ โดยหลังช่วงน้ำลด
รัฐบาลจำเป็นต้องเป็นสื่อกลางในการจัดหาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง อาสาสมัคร
เพื่อเข้ามาช่วยเหลือการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะที่จำเป็น เช่น โรงเรียน รพสต.
อาคารราชการ อาคารเอนกประสงค์ หรือ สถานที่ของส่วนรวม เป็นต้น เช่นควรตั้งเป้า
ฟื้นฟูอาคารและพื้นที่โรงเรียนที่สดใสและปลอดภัยให้ทันวันเด็กปี 2569
สส.
ณัฐวุฒิ สะท้อนความห่วงใยของพี่น้องชาวอ่างทอง
ที่อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลปัญหาตลิ่งทรุดตัวโดยด่วน
เพราะจะเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนได้ สส. กิตติภณ สะท้อนว่า พี่น้องชาวนครปฐม
อยากให้รัฐบาลเร่งซ่อมแซมถนนหลายสายให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และ สส.เจษฎา
เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลและบูรณะโบราณสถานหลายแห่งในจังหวัดปทุมธานี
ที่ต้องแช่น้ำมาเป็นเวลานานด้วย
แผนแก้ไขปัญหาในระยะยาว
สส.
กิตติภณ ในฐานะกรรมาธิการทรัพยากรน้ำ รายงานว่า ขณะนี้
กรรมาธิการทรัพยากรน้ำได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ
เพื่อพิจารณาข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำท่าจีน-เจ้าพระยา ระยะยาว
โดยการแบ่งเบายอดน้ำจากตอนบนเหนือเขื่อนเจ้าพระยา และการปรับปรุงระบบการระบายน้ำแนวเหนือใต้
ไม่ให้เกิดปัญหาคอขวดที่น้ำไหลผ่านไม่ได้ จนกลายเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชาวอยุธยา
และขาวนครปฐม ต้องรับน้ำท่วมยาวนานว่าปกติ
ส่วน
สส. ทวิวงศ์ เห็นว่า หากรัฐบาลยังใช้วิธีการ “ระบายน้ำในทาง”
เป็นหนึ่งในวิธีการบริหารมวลน้ำจำนวนมากมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องอนุมัติงบประมาณราชการเพื่อจัดทำ
“เงินสนับสนุนการดีดบ้าน-โครงสร้างพื้นฐาน”
ให้แก่ประชาชนและชุมชนที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำหรือพื้นที่ริมแม่น้ำ
เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ชุมชนแบบยั่งยืน เพื่อให้ชุมชนสามารถมีวิถีชีวิตที่สามารถ
“อยู่ร่วมกับน้ำ” ทั้งในช่วงฤดูน้ำหลากหรือฤดูแล้งให้เกิดขึ้นจริงได้
เพราะมิเช่นนั้น ความลำบาก และ การฟื้นฟูแบบเฉพาะหน้าจะต้องดำเนินต่อไปแบบไม่รู้จบ
และส่งผลกระทบแบบซ้ำซากต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้ประสบภัยในทุก ๆ ปี
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #น้ำท่วม









