จม.จากแดน
4 "อานนท์" เขียนถึงลูก "การเกรงใจ เกรงกลัวศาล
พ่อไม่เรียกว่าเป็นการเคารพต่อศาล การต่อสู้อย่างเต็มที่
โต้เถียงอย่างเต็มที่ต่างหาก ที่เรียกว่าการเคารพศาล เคารพต่อวิชาชีพที่แท้จริง
ชีวิตที่เหลือของพ่อก็ขออุทิศให้กับสิ่งนี้ สิ่งที่เรียกว่า ทนายความ"
วันนี้
(4 ตุลาคม 2567) เพจเฟสบุ๊ค “อานนท์ นำภา” โพส
ข้อความจดหมายฉบับวันที่ 2 ต.ค. 67 โดยมีใจความว่า
2
ตุลาคม 2567 ถึงเรือนจำค่ำมืดกว่าจะได้อาบน้ำก็สองทุ่ม
นั่งเขียนจดหมายถึงลูกทั้งสอง ด้วยกำลังเฮือกสุดท้ายของวัน เช้าวันนี้เป็นเช้าที่พ่อดีใจมากที่ได้เจอ
ปราณที่ศาลธัญญะบุรี เจ้าปราณปิดเทอมแล้ว เลยมีเวลามาเจอพ่อที่ศาล
ร้านดูสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ยังผอมเหมือนเดิมท่าทางดูโตขึ้นตามวัย ส่วนเจ้าขาล
ได้ครับ ยังคงวิ่งเล่นในศาลไม่กลัวใคร ก่อนกลับปราณวิ่งมากอดพ่อ เจ้าขาลก็วิ่งมากอด
แย่งกันกอด น่ารักดี
วันนี้พ่อต้องทำหน้าที่เป็นทั้งจำเลยและเป็นทนายให้น้อง
ๆ ในคดี เสียงโซ่ตรวนที่เท้าเวลามันลากในห้องพิจารณาที่เงียบ ๆ ฟังดูแปลกดี
วันนี้ต้องยืนถามค้านถึง 5
โมงเย็น ร่างกายอ่อนเพลียจากรถขังที่เขย่าทั้งขาไปขากลับ
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี
ช่วงแรกต้องโต้เถียงกับศาลเรื่องว่าพ่อยังเป็นทนายได้หรือไม่ในชุดนักโทษ
สุดท้ายศาลเจ้าของสำนวนไปปรึกษาหัวหน้าศาล
ปรากฎว่าให้ว่าความแก้ต่างได้หรือไม่ในชุดนักโทษ สุดท้ายเจ้าของสำนวนไปปรึกษาหัวหน้าศาลปรากฎว่าให้ว่าความแก้ต่างได้เหมือนในทุก
ๆ ศาลที่ผ่านมา
เนื้อหาคดีมันอยู่ในสมองพ่อหมดแล้ว
ที่เหลือก็แค่เค้นมันออกมาผ่านการขบคิดและตั้งคำถาม บางทีบางคำถามที่อ่อนไหว
ก็อาจต้องเป็นพ่อที่ต้องถามมันออกมา วันนี้โต้เถียงกับศาลหลายครั้ง สำหรับพ่อ
การหงอ การเกรงใจ เกรงกลัวศาล พ่อไม่เรียกว่าเป็นการเคารพต่อศาล การต่อสู้อย่างเต็มที่โต้เถียงอย่างเต็มที่ต่างหาก
ที่เรียกว่าการเคารพศาล เคารพต่อวิชาชีพที่แท้จริง
ชีวิตที่เหลือของพ่อนอกจากความหวังที่จะได้กลับไปอยู่กับครอบครัว
พ่อก็ขออุทิศให้กับสิ่งนี้ สิ่งที่เรียกว่า “ทนายความ“
กอดกันมิทันอุ่นก็ต้องจาก
ร่ำลามิทันสุดคำก็ต้องจร โอบกอดกันและกันในความฝัน จนกว่าเราจะพบกันอีก
รักและคิดถึงลูกทั้งสอง
สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 คดีแรก เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63
จากนั้น
17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา"
เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 (เป็นคดีที่
2) กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก
4 ปี ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี
ต่อมา
เมื่อวันที่ 29
เม.ย. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้
นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา
ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ
และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม
‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง
พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150
บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท
ต่อมา
25 ก.ค. 67 ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดี #ม112 คดีที่ 4 ของ “อานนท์
นำภา” เหตุโพสต์ 2 ข้อความบนเฟซบุ๊ก ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ.
2564 วิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินของรัชกาลที่
10
ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา
112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1),
(3) ให้ลงโทษฐาน 112 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี
ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา
ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี ไม่รอการลงโทษ
ทั้งนี้หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีของอานนท์ไปแล้ว
4 คดี ทำให้อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวม 14 ปี 20 วัน และยังมีโทษในคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีชุมนุม #ม็อบ27พฤศจิกา2563 ที่ถูกจำคุกอีก
2 เดือน รวมเป็น 14 ปี 2 เดือน 20 วัน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม #อานนท์นำภา #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน