คลิปรายการพิเศษ "ชี้ชะตาลงมติถอดถอน" 23 มกราคม 2558
ช่วง จตุพร-ธิดา-ณัฐวุฒิ
ถอดคำพูด อ.ธิดา ในรายการพิเศษ “ชี้ชะตา ลงมติถอดถอน”
ทางสถานี PEACE TV วันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2558
สวัสดีค่ะพี่น้องประชาชนทั้งหลาย วันนี้ตัวดิฉันเองรู้สึกยินดีและมีเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาพูดในวาระสำคัญ
ดิฉันถือว่าวันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ที่สำคัญวันหนึ่ง ถ้าแม้นว่าในช่วงหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงในปี 49 เป็นต้นมาจนถึงบัดนี้ก็เรียกว่าร่วมทศวรรษ แต่ถ้านับเหตุการณ์ที่มีความยุ่งเหยิงตั้งแต่ในยุคที่พรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาลก็ถือว่าเป็นช่วงทศวรรษ นี่เป็นทศวรรษที่สำคัญของการต่อสู้ว่าการเมืองการปกครองของประเทศไทยจะสามารถได้เดินทางไปสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มใบได้อย่างรวดเร็วหรือเปล่า? เพราะเราเชื่อมั่นว่านี่เป็นทิศทางที่ถูกต้อง
วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง วันประวัติศาสตร์ในการเปลี่ยนแปลงในการยึดอำนาจในปี 49 และในปี 57 ก็เป็นประวัติศาสตร์ของการกระทำในการที่มีการยึดอำนาจของประชาชน และมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ว่าวันนี้ก็เป็นวันประวัติศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่า มีคณะบุคคลซึ่งบัดนี้ได้ชื่อว่า “สนช.” ได้กระทำในสิ่งซึ่งจะเป็นสิ่งที่บันทึกไว้ในการต่อสู้ของประชาชนไทยและประวัติศาสตร์การเมืองไทยไปอีกยาวนาน ดิฉันเชื่ออย่างนั้น
นี่ก็ต้องถือว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งของคณะเหล่านี้ซึ่งไม่ใช่คณะรัฐประหาร แต่ได้กระทำการบางอย่างซึ่งต้องเรียนตรง ๆ ว่า ดิฉันไม่อาจเห็นด้วยกับมติวันนี้ได้ นี่เป็นประการแรกที่จะพูดในวันนี้ ไม่ว่าด้วยความชอบธรรม และไม่ว่าด้วยการชอบด้วยกฎหมาย มันไม่สามารถที่จะตอบโจทย์อันนี้ได้โดยสิ้นเชิง เพราะดิฉันถือว่าการกระทำทางกฎหมายในการที่จะตัดสินลงโทษถอดถอนหรือตัดสิทธิทางการเมือง หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดต่อผู้คนในประเทศนี้หรือในโลกนี้ มันก็ต้องมีสองอย่าง ความชอบธรรมมาอันดับหนึ่ง ความชอบด้วยกฎหมายก็ตามมา แต่ตามหลักการนั้นความชอบธรรมจะต้องมาเป็นที่หนึ่งเพราะความชอบด้วยกฎหมายก็จะต้องตอบได้ว่าเป็นกฎหมายของใคร
ณ บัดนี้รัฐธรรมนูญ 2550 ก็เป็นรัฐธรรมนูญซึ่งปีกข้างอนุรักษ์นิยมได้ช่วยกันทำขึ้นมาหลังการทำรัฐประหารครั้งที่แล้ว และแม้กระทั่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่เขียนขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้เองหลังการทำรัฐประหารครั้งที่สองในช่วงทศวรรษนี้ ก็ไม่ได้มีบทบัญญัติใด ๆ ที่จะทำให้คณะบุคคลที่เรียกตัวเองว่า “สนช.” นี้สามารถจะทำการแบบในวันนี้ได้เลย ดังนั้นไม่ว่าจะมองในแง่ความชอบธรรมหรือชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องเรียกว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แต่เมื่อท่านกล้าที่จะมีมติในสิ่งที่ขัดกับความชอบธรรมและความชอบด้วยกฎหมาย แน่นอนมันอาจจะดูเหมือนเป็นชัยชนะระดับหนึ่ง แต่ดิฉันไม่เห็นด้วย ไม่ถือว่านี่เป็นชัยชนะ แต่เป็นการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของความกล้าหาญที่จะกระทำการที่ไม่ชอบธรรมและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งไม่มีอะไรที่จะรับรองได้นอกจากท่านรับรองของคณะท่านเองว่าท่านสามารถทำได้
และผลของการโหวตอันนี้ก็เป็นการชี้ให้เห็นว่า การกระทำอันนี้เป็นการกระทำที่มีเป้าหมาย มีการจัดตั้ง มีการจัดการได้อย่างพร้อมเพรียง เรายินดีด้วยกับท่านประธานสองท่านที่ไม่ได้ถูกถอดถอน แต่คิดว่าก็ไม่ใช่ความยินดีจริง เพราะอย่างไรเขาก็ไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว แต่ว่าในกรณีของท่านอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มันก็จะเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นแบบอย่างว่า ต่อไปนี้ประเทศไทยและรวมทั้งในโลกก็จะต้องมีการเขียนว่าด้วยการเรียนทางนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เป็นบทใหม่แน่นอน ก็คงจะต้องเป็นตำราที่ประหลาดมาก
แต่ว่าในการต่อสู้ของประชาชนและบทเรียนในประวัติศาสตร์ วันนี้จะเป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีการตัดสินในการที่ใช้คำว่าถอดถอน แต่จริง ๆ ก็คือจงใจดังที่ทาง ป.ป.ช. ได้บอกก็คือ ต้องการแสดงว่า ประจานว่ามีความผิดและต้องการตัดสิทธิทางการเมืองและนำไปสู่การลงโทษทางอาญาหรือแพ่งต่อไป
นี่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ว่าในนามของประชาชนจำนวนมาก ดิฉันก็ขอสดุดีท่านอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้ท่านได้เปลี่ยนจากการที่ว่าท่านยินดีจะตายในสนามการต่อสู้ประชาธิปไตยเยี่ยงทหารที่ตายในสนามรบ ต้องขอสดุดีและต้องขอชมเชยกลุ่มต่าง ๆ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมในประเทศไทยที่ทำให้ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งได้กลายเป็นผู้บริหารที่เยี่ยมยอด ได้กลายเป็นที่รักของประชาชนไทยทั้งประเทศ และกำลังจะทำให้เธอเป็นวีรสตรีที่จะต้องถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ที่จะต้องยืนอยู่ท่ามกลางบุคคลที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์จำนวนมากมาย ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพไหน ทั้งที่เป็นชายชาติทหาร ทั้งที่เป็นนักกฎหมาย รวมทั้งหมดนั้นได้มีความพยายามในการที่จะจัดการกับเธอ และเชื่อว่าเธอก็กำลังจะกลายเป็นวีรสตรีไม่ใช่ในประเทศไทย จะปรากฏชื่อในสากล
ตอนแรกมีคนพูดเพื่อจะเทียบคุณยิ่งลักษณ์กับวีรสตรีในประเทศอื่น ดิฉันยังนึกไม่ถึงก็คิดว่าอาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่ปรากฏว่าการกระทำวันนี้ได้สร้างคุณยิ่งลักษณ์ขึ้นมาใหม่ เพราะฉะนั้นดิฉันอยากส่งสาส์นมายังคุณยิ่งลักษณ์ว่า ในนามของประชาชนจำนวนหนึ่งและเชื่อว่าจำนวนมากนับสิบล้านคนในประเทศก็ขอสดุดีและขอเป็นกำลังใจ เพราะว่าท่านอาจจะถูกถอดจากนายกรัฐมนตรี ท่านอาจจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ท่านได้กลายเป็นวีรสตรีในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนไทยไปเรียบร้อยแล้ว เราทั้งหลายขอเป็นกำลังใจและเรากำลังจะดูว่าพวกเขาจะสร้างท่านให้เป็นวีรสตรีที่ยิ่งใหญ่อีกต่อไปขนาดไหนโดยการกระทำซึ่งอาจจะหนักหนาสาหัสมากขึ้นไปข้างหน้า แต่บอกได้อย่างหนึ่งว่า ยิ่งทำก็จะยิ่งทำให้คุณยิ่งลักษณ์โดดเด่นและจะอยู่ในหัวใจของประชาชนไทย ซึ่งมีค่ามากกว่าการถูกตัดสิทธิทางการเมืองแน่นอน นั่นเป็นประเด็นที่สอง
ประเด็นที่สามที่อยากจะพูดก็คือ สถานการณ์อันนี้อยากให้ท่านผู้ชมและพี่น้องประชาชนได้มองเห็นอย่างหนึ่งว่า การต่อสู้ว่าทิศทางประเทศนี้จะไปสู่ระบอบอะไร ยังอยู่ในระหว่างการต่อสู้ที่เข้มข้น และมีความพยายามอย่างหนักหน่วงที่จะไม่สามารถให้ระบอบประชาธิปไตยนั้นสามารถบรรลุได้ชัดเจน และด้วยการกระทำทุกรูปแบบโดยไม่ได้นำพาว่ามันจะชอบธรรม ไม่ได้นำพาว่ามันจะชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้นำพาว่าสายตาของคนกลาง ๆ คนต่างชาติเขาจะมองอย่างไร ไม่ได้นำพาเลย! ขอแต่เพียงว่าให้เป้าหมายได้บรรลุในการทำลายบางสิ่ง หรือในการที่จะก้าวไปสู่จุดบางสิ่ง
เพราะว่าสำหรับบทเรียนสำหรับอนุรักษ์นิยมหรือจะเรียกว่าฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยก็ได้ คนเหล่านี้จะไม่คำนึงว่าวิธีการนั้นมีเหตุผลและได้รับความชอบธรรม แต่ต้องการให้บรรลุจุดมุ่งหมายเป็นสำคัญ เพราะว่าวิธีคิดของกลุ่มคนเหล่านี้นั้นไม่สนใจวิธีการ อันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต จะใช้แบบไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่จะบอกว่าอำพราง ความจริงที่พูดในเวลานั้นก็ถูกกองอยู่ตรงนั้น คำพูดที่จริงจะเปลี่ยนไปตลอด
สำหรับประชาชน สำหรับเราความจริงก็คือความจริงไม่ใช่เรื่องหลอกลวง ให้เข้าใจว่าไม่มีสัจจะในการแย่งชิงอำนาจ เขาพูดว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร เพราะโจรต้องการผลประโยชน์ แต่ว่าทางการเมืองนั้นไม่มีสัจจะเมื่อต้องการอำนาจซึ่งจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ อันนี้ก็เป็นบทเรียน และไม่ได้เลือกว่าวิธีการนั้นชอบธรรมชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า
ประการสุดท้ายที่จะฝากไปถึงพี่น้องประชาชน นั่นก็คือ ในสถานการณ์นี้ถือว่ามีกลุ่มที่ยังไม่ต้องการให้ระบอบประชาธิปไตยได้บรรลุ เพราะมองว่าประชาชนไทยยังไม่พร้อมที่จะเป็นเจ้าของอำนาจ (มองตรงไปตรงมา มองในแง่ดี) อำนาจอธิปไตยจึงควรอยู่กับคนดี มีศีลธรรม มีจริยธรรม มีคุณธรรมซึ่งทำอะไรก็ได้เพื่อที่จะยังรักษาอำนาจนั้นเอาไว้ พูดง่าย ๆ ว่าเขายกระดับความเหี้ยมโหดขึ้นไปเรื่อย ๆ จากตั้งแต่สถานการณ์ปี 45, 46 มาเป็นลำดับ มีการยกระดับเป็นขั้น ๆ
สำหรับเราคงไม่ยกระดับในลักษณะเช่นนั้น ก็ขอเรียกร้องพี่น้องประชาชนว่า เราจำเป็นต้องยกระดับ ยกระดับความเข้าใจ เก็บรับบทเรียนในอดีต ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนของการต่อสู้ของเราเอง หรือบทเรียนของการต่อสู้ของคนอื่น แล้วสร้างองค์ความรู้ของเราขึ้นมา เพราะฉะนั้นเราต้องยกระดับทั้งเก็บรับบทเรียน ยกระดับความรู้ และยกระดับความคิดรวมทั้งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ดังนั้นในช่วงเวลาที่จะเปลี่ยนผ่าน สำหรับเราอาจจะต้องใช้เวลา แต่สำหรับฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยนั้นไม่อาจรอเวลาได้ เวลานั้นเป็นของประชาชน ดังนั้นเราจึงจะเห็นการกระทำหลายอย่างที่เรารู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่มันก็เป็นไปแล้วดังที่เราได้บอกว่าเขาไม่ได้สนใจวิธีการขอให้ดำรงเป้าหมาย อันที่สองเวลาไม่รอแล้ว
สำหรับเราแม้ว่าจะมีเวลาอยู่แต่ก็ควรจะเป็นเวลาที่เตรียมพร้อมในการที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้ ไม่ใช่เป็นเวลาที่ยินดีจะเสียอำนาจ เพราะฉะนั้นก็อยากจะเรียกร้องว่า ขอให้เราร่วมกันในการยกระดับทั้งความเข้าใจ ความรู้ ความคิด และการกระทำเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างเดียว ก็คือให้ประชาชนไทยส่วนใหญ่และประชาชนไทยทั้งหมดเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง และเรารู้ว่ามีอุปสรรค มันจึงไม่ใช่มาได้ง่าย ๆ ดังนั้นในช่วงเวลานี้นอกจากอดทนดังที่คุณจตุพรได้พูดแล้ว ในท่ามกลางความอดทนนั้นขอให้ได้เรียนรู้และยกระดับ
เราก็ขอส่งสาส์นไปยังพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยก็จะต้องเก็บรับบทเรียนและจะต้องยกระดับความเป็นพรรคการเมืองที่อยู่ฝ่ายประชาชนอย่างเข้มข้น เพราะถ้าท่านทำในวิธีเดียวกัน แบบเดียวกัน ท่านจะไม่สามารถสู้กับฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตยได้เพราะท่านทำแบบเขาไม่ได้ ต้องมีการยกระดับและปฏิรูปพรรคเพื่อไทยเช่นกัน
ในขณะเดียวกันฝ่ายประชาชนเราก็จำเป็นที่จะต้องมีการยกระดับ มีการปรับปรุง และนปช.ก็ไม่ใช่เจ้าของฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมด เราเป็นส่วนซึ่งพี่น้องประชาชนจำนวนมากให้เกียรติยอมรับการนำ
และสุดท้ายที่สุดเราขอเรียกร้องมายังปัญญาชน ชนชั้นกลางของสังคมไทย โดยหลักการแล้ว ในการต่อสู้กับระบอบที่เป็นลักษณะที่ดำรงอยู่ในประเทศไทยซึ่งก็ต้องยอมรับตรง ๆ ว่าเรากำลังปกครองอยู่ท่านกลางกฎอัยการศึกและรัฐประหาร เราขอเรียกร้องมายังชนชั้นกลางและปัญญาชนไทย ได้โปรดเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง เพราะโดยหลักการในวิสัยเวลาเช่นนี้ท่านสมควรที่จะมีบทบาทเป็นกองหน้าที่สำคัญ ไม่ใช่มีแต่เพียงมวลชนพื้นฐานเท่านั้น
เราขอให้กำลังใจคุณยิ่งลักษณ์อันดับหนึ่ง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และพี่น้องประชาชนไทยทั้งหมดว่า เวลาอยู่ข้างเราก็จริง แต่ขอให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมในการที่จะสามารถเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงของประเทศไทยได้.