"พริษฐ์" ยันโหวตตามร่างหลัก ปชน.คง กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ
จ่อเสนอโมเดล 20 หยิบ 1 แต่
สภาฯที่ปรึกษา ถูกปัดตก แจงเสียงข้างมาก ไม่เห็นด้วย "เพื่อไทย" เพิ่ม
ส.ส.ร. ไม่ได้มาจากประชาชนเลือก หวั่นถูกผูกขาดสีใดสีหนึ่ง พร้อมเดินหน้าถกเกณฑ์
กมธ.ยกร่าง ย้ำต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญ
วันที่
13 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ
สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ
แก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา
ให้สัมภาษณ์ถึงการลงมติในที่ประชุมคณะกรรธิการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ
ซึ่งมีการนำเสนอว่าพรรคประชาชน ตัด สภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ทิ้ง ว่า
พรรคประชาชนยืนยัน
และลงมติสนับสนุนร่างหลักของพรรคประชาชนตามที่เสนอเข้ามาทุกประการ
ซึ่งพรรคประชาชนพยายามออกแบบกลไกให้มีส่วนร่วมกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
โดยไม่ขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
นายพริษฐ์
กล่าวว่า พรรคประชาชนจึงเสนอ 2 กลไกขึ้นมา
โดยกลไกแรกจะเป็นการเลือกกรรมาธิการยกร่าง ซึ่งจะมาจากสมาชิกรัฐสภา
โดยที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากเห็นชอบ ขณะที่ของพรรคเพื่อไทยมีการเสนอ ส.ส.ร.
เข้ามาคั่นกลาง ก่อนเลือก กมธ. ยกร่างฯ ซึ่งมองว่าเป็น ส.ส.ร.
ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง เราจึงเห็นว่าควรคงไว้ตามร่างเดิมของพรรคประชาชน
เพราะการเพิ่ม ส.ส.ร. ที่ไม่ได้มาจากประชาชนเลือกตั้งโดยตรง
อาจทำให้ผู้ร่างกับประชาชน มีระยะห่างมากขึ้น และกังวลว่าการเพิ่ม สสร.
ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน อาจทำให้ กมธ. ยกร่าง
ถูกผูกขาดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือสีใดสีหนึ่ง
เรายืนยันว่าข้อเสนอของ
กมธ. เสียงข้างมากลงมติไม่ให้เพิ่มเข้ามา คือไม่ให้เพิ่ม ส.ส.ร.
ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และให้คงไว้ซึ่งกลไกตามร่างของพรรคประชาชน
ดังนั้นการไปพาดหัวข่าวว่าตัด ส.ส.ร. ออกไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง
ส่วนกลไกที่สองคือสภาที่ปรึกษารับฟังความเห็นของพรรคประชาชน
มีแค่ กมธ. ในสัดส่วนของพรรคประชาชน 8 คนให้คงไว้ซึ่งสภาที่ปรึกษาฯ
ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่เสียงข้างมากใน กมธ.
เห็นว่าให้ตัดสภาที่ปรึกษาฯ ออกไป
เนื่องจากมีความกังวลว่าอาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
“พรรคประชาชน ลงมติยืนยันตามร่างของพรรคประชาชนทุกประการ
เรื่องแรกเราอยู่มนเสียงข้างมาก ที่เห็นว่าไม่ควรมีการเพิ่ม ส.ส.ร.
ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพราะเป็นการเพิ่มระยะห่าง ระหว่างประชาชน
อย่างที่สองเราลงมติยืนยันให้มีสภาที่ปรึกษาที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
แต่กรรมาธิการจากพรรคอื่น
และวุฒิสภาลงมติตัดกลไกเดียวที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนออก” นายพริษฐ์
กล่าว
นายพริษฐ์
ยังกล่าวว่า วันนี้จะมีการพิจารณาในมาตรา 256/5 ถึงเกณฑ์การคัดเลือก กมธ.
ยกร่าง ซึ่งพรรคประชาชนได้เสนอสูตร 20 หยิบ 1 คือนำสมาชิกรัฐสภา 700 คนมาหารด้วย กมธ.ยกร่าง 35
คน หาก สส. สว. รวมตัวกันมา 20 คน ก็จะเสนอ
กมธ. ได้ 1 คน ซึ่ง จะเป็นหลักประกันว่ากมธ. ยกร่าง
จะไม่ถูกผูกขาดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
คาดว่าจะมีข้อสรุปในวันนี้และเห็นว่าทุกพรรคอาจเห็นตรงกันในประเด็นนี้
เมื่อถามว่าโมเดลเช่นนี้
จะไม่ไปถูกบล็อกในวาระ 2
ของการพิจารณาใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า
เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่ต้องไปต่อสู้ แต่ตอนนี้ต้องต่อสู้ในชั้น กมธ.
ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราพยายามโน้มน้าว กมธ. คนอื่นอย่างเต็มที่
ให้เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชน แต่เมื่อเห็นต่างกันก็ต้องพยายามหาทางออก
เพื่อคงไว้ซึ่งฉันทามติของรัฐสภา
เมื่อถามว่าจะไม่เป็นหลุมลวง
ให้กลับไปใช้ร่างของพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ ระบุว่า
สองร่างมีความแตกต่างกันในหลายประเด็น ต้องอธิบายกันไปทีละประเด็น
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า
จะมีการเปิดประชุมวิสามัญนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ก็ต้องเป็นไปตามนั้น
หากตามเงื่อนไขการยื่นซักฟอกมาตรา 151 ของพรรคประชาชน
คือเราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจถ้าเกิดถ้าเกิดการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ
ไม่เสร็จภายในสิ้นปี โดยมีความจำเป็นต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญในวาระ 2 ก่อนวันที่ 12 ธันวาคม
ซึ่งยืนยันว่าจะต้องมีการเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ซึ่งกรรมาธิการ
จะหาข้อสรุปส่งรายงาน และบรรจุสู่ระเบียบวาระได้ทัน
เมื่อถามว่า
โมเดลออกมาแบบนี้ถือว่าผิด MOA หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า
เราต้องทำเต็มที่เพื่อปกป้องร่างของพรรคประชาชน หากมีประเด็นไหนที่เห็นต่าง 2
หลักการที่เรายึดถือคือป้องกันการผูกขาด และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ท้ายที่สุดร่างจะออกมาอย่างไร กมธ. ทุกคน ก็ต้องตระหนักว่าร่างที่ออกมา
ต้องเป็นฉันทามติของสภา และต้องตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #กรรมาธิการ #แก้ไขรัฐธรรมนูญ


