วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2568

“เลขาฯกฤษฎีกา” มอง อำนาจ “นายกฯรักษาการ” ยุบสภา ไม่ได้ เตือน ครม.คิดให้รอบคอบ อย่าให้กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท

 


“เลขาฯกฤษฎีกา” มอง อำนาจ “นายกฯรักษาการ” ยุบสภา ไม่ได้ เตือน ครม.คิดให้รอบคอบ อย่าให้กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท


วันที่ 30 สิวหาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงอำนาจของนายกรัฐมนตรีรักษาการ สามารถยุบสภาได้หรือไม่ว่า อย่างที่ตนเคยเผยแพร่ไปว่าเป็นอำนาจเฉพาะตัวตามหลักความไว้วางใจของนายกรัฐมนตรี ในระบบรัฐสภา โดยความเห็นส่วนตัว ตนเห็นว่าทำไม่ได้ อันนี้ตามตำราว่ามา


เมื่อถามว่า ถ้ารัฐบาลประกาศยุบสภาจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ เลขาฯกฤษฎีกา กล่าวว่า ต้องพิจารณาให้รอบคอบ และเป็นความรับผิดชอบดุลยพินิจของรัฐบาลที่จะพิจารณา แต่ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบว่ามีทั้งทำได้และทำไม่ได้อันไหนที่ควรทำหรือไม่ควรทำ ซึ่งอันนี้ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ อย่าให้ไปกระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท เพราะพระองค์ท่านไม่ทรงเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งนี่เป็นหลักทั่วไปอยู่แล้ว เวลาจะทำอะไร คนที่เสนอขึ้นไปจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด


เมื่อถามว่าการเรียกตำแหน่งรัฐมนตรี จะต้องมีคำว่ารักษาการด้วยหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ยังใช้ปกติอยู่เหมือนเดิม เราน่าจะคุ้นกันแล้วเพราะเป็นแบบนี้กันมาหลายครั้ง ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) สิ้นสุดลงทางคณะวันนี้ก็คงจะมีการประชุมกันเพื่อตั้งรักษาการนายกฯ


นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า ขออธิบายให้ชัด ครม.รักษาการตอนนี้ เนื่องจากความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุด เป็นการเฉพาะตัว ครม.จึงต้องพ้นจากตำแหน่งทางคณะ เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติว่าให้ ครม. อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีใหม่


ซึ่งกรณีนี้ต่างจากกรณีการยุบสภาหรือสภาสิ้นอายุลง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ หากเป็นช่วงเวลานั้น ครม.รักษาการ จะทำบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ 3-4 ประการ แต่จะต้องไปขอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน แต่ ครม.ชุดปัจจุบัน ไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขนั้น อำนาจยังเต็มเหมือนปกติ ตนจึงขอให้เข้าใจตรงกัน ว่าไม่อยากให้พูดกันไปคนละทางสองทาง เพราะฉะนั้นประชาชนจะสับสน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ยุบสภา