วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568

พรรคประชาชนเตรียมยกระดับแก้ปัญหาสารพิษแม่น้ำกก-สาย ผ่านกรอบความร่วมมือและข้อตกลงระหว่างประเทศ เตือนรัฐบาลต้องแข่งกับเวลา ยิ่งล่าช้าปัญหายิ่งรุนแรง ประชาชนเดือดร้อน

 


พรรคประชาชนเตรียมยกระดับแก้ปัญหาสารพิษแม่น้ำกก-สาย ผ่านกรอบความร่วมมือและข้อตกลงระหว่างประเทศ เตือนรัฐบาลต้องแข่งกับเวลา ยิ่งล่าช้าปัญหายิ่งรุนแรง ประชาชนเดือดร้อน


วันที่ 5 มิถุนายน 2568 สส.พรรคประชาชน ได้ร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยภาคประชาสังคมเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยที่ จ.เชียงราย ชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส.เชียงราย เขต 1 และ ฐากูร ยะแสง สส.เชียงราย เขต 3 ร่วมกิจกรรม “ปิดเหมืองฟื้นฟูลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง” เพื่อแสดงพลังของชาวเชียงรายในการปกป้องสิ่งแวดล้อมของบ้านเกิด 


ชิตวันและฐากูรได้ร่วมขบวนแห่รณรงค์ “ปอยหลวงปิดเหมือง” บริเวณสะพานข้ามน้ำกก หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย ขณะที่ภาคประชาสังคมมีการอ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือข้อเรียกร้องถึงตัวแทนรัฐบาลไทยให้เร่งเจรจากับรัฐบาลจีน เมียนมา และกองกำลังชาติพันธุ์ว้า เพื่อแก้ไขปัญหาแม่น้ำกกและแม่น้ำสายปนเปื้อนสารพิษ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำและแร่ที่มีธาตุโลหะหายาก (Rare Earth) ในพื้นที่ต้นน้ำ ที่คุกคามชีวิตและสิ่งแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่ชายแดน 


ด้าน จ.เชียงใหม่ สมดุลย์ อุตเจริญ สส.เชียงใหม่ เขต 7 เดินทางด้วยเรือตามแม่น้ำกกไปยังแนวเขตชายแดนประเทศเมียนมา รวมถึงสำรวจจุดบรรจบกันระหว่างแม่น้ำกกกับแม่น้ำสายรองอื่น ๆ ที่ไม่มีสารปนเปื้อน โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมดูแลสังเกตการณ์ด้วย จากนั้นเดินทางไปร่วมงาน “Save แม่น้ำกก” วันสิ่งแวดล้อมโลก บริเวณสะพานท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วมกว่า 1,000 คน


สำหรับการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สส.พรรคประชาชน จะขับเคลื่อนผลักดันการแก้ปัญหาสารพิษในแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย​ ตามข้อเรียกร้องที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ ใช้กรอบความร่วมมือและข้อตกลงระหว่างประเทศ​ เจรจากับเมียนมา และ UNDP เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนดินในพื้นที่ต้นน้ำฝั่งเมียนมา เพื่อประเมินสถานการณ์มลพิษที่ต้นน้ำ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศของรัฐบาลเมียนมา กับเหมืองผิดกฎหมายที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่รัฐบาลเมียนมาสามารถดำเนินการได้ ยกระดับการเจรจาร่วมไทย-จีน-เมียนมา โดยการใช้กรอบความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม ล้านช้าง-แม่โขง (LMEC) เรียกร้องให้ทางจีนจัดการที่ต้นตอ ตรวจสอบห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ของบริษัทที่เป็นเจ้าของหรือนำเข้าผลผลิตจากการทำเหมืองแร่ในเมียนมา รวมถึงการยกระดับการเจรจากับจีนจาก ไทย-จีน เป็น อาเซียน-จีน ตามกลไกของ China-ASEAN Environmental Cooperation Center ต่อไป


ปัญหานี้รัฐบาลต้องทำงานแข่งกับเวลา ยิ่งช้าเท่าไหร่ ปัญหาจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ทั้งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายบริหาร ต้องจริงจังกับการแก้ไขปัญหามากกว่านี้ เพราะประชาชนในพื้นที่เผชิญกับปัญหานี้โดยที่รัฐบาลนิ่งเฉยมานานเพียงพอแล้ว พรรคประชาชนจะขับเคลื่อนการแก้ปัญหานี้ผ่านทาง สส.เขตในพื้นที่น้ำกก-สาย จังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย รวมถึงผ่านคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ปัญหานี้ให้ประชาชนต่อไป


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #สารพิษ #แม่น้ำกก #แม่น้ำสาย