ขบวนแรงงาน
“สรส. - สสรท.” บุกหน้าทำเนียบฯ เรียกร้องรัฐบาลปรับค่าแรง 492
บาทเท่ากันทั่วประเทศ พร้อมยื่นข้อเสนอใหม่เร่งด่วน 7 ข้อ
‘ไม่เอากาสิโน-กำจัดทุนผูกขาด พร้อมขอเร่งเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบเหตุตึก
สตง.ถล่ม’
วันที่
1 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 08.30 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.)
และแนวร่วม นัดรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ
ประจำปี 2568 เพื่อเดินขบวนมายังบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล โดยก่อนเคลื่อนขบวนกลุ่มแรงงานได้ร่วมกันวางดอกไม้สีขาว
พร้อมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
(สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28
มี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์สะท้อนถึงปัญหาความเดือดร้อนต่าง
ๆ ของผู้ใช้แรงงาน รวมถึงการคัดค้านกาสิโน
ต่อมาในเวลา
10.20 น. กลุ่มแรงงาน นำโดย สรส. และ สสรท.
ได้เคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมาถึงบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล
เวลา 11.10 น. และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยนำค้อนโฟมทุบโมเดลกาสิโน
และโมเดลถังแก๊ส แสดงออกว่า ไม่เห็นด้วยกับกาสิโน และสะท้อนปัญหาค่าครองชีพที่แพงขึ้นในปัจจุบันและค่าแรงไม่พอค่าใช้จ่าย
จากนั้นเวลา
11.40 น. นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน สสรท. และนายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการ สรส.
เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์พร้อมข้อเรียกร้องเร่งด่วน 7 ข้อ
และข้อเรียกร้องที่เป็นข้อเสนอเดิมช่วงหลายปีที่ผ่านมา 15 ข้อ ผ่านนายสมคิด
เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน
และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
โดยนายมานพ
กล่าวว่า ข้อเรียกร้องเร่งด่วน ประกอบด้วย
1.
ขอคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ
ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
2.
หยุดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ
โดยให้รัฐวิสาหกิจเป็นกลไกหลักของรัฐในการทำหน้าที่จัดบริการสาธารณะด้านต่างๆให้กับประชาชน
3.
รัฐต้องเร่งรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่
155 ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน พ.ศ.2524
4.
รัฐต้องวางมาตรการที่เข้มข้นเพื่อหยุดการคอรัปชั่นทุกรูปแบบ
รวมถึงเพิ่มกลไกการตรวจสอบประกันสังคมกรณีการจัดซื้อตึก
และการใช้เงินที่อาจผิดวัตถุประสงค์ของผู้ประกันตน
5.
รัฐต้องสนับสนุนส่งเสริมสถานประกอบการของคนไทยให้มีความเข้มแข็ง เกิดการสร้างงาน
สร้างอาชีพ และค่าจ้าง ที่เป็นธรรม
ต้องเข้มงวดตรวจสอบคัดกรองเกี่ยวกับการลงทุนของกลุ่มทุน ทั้งทุนเทา ทุนดำ นอมินี
ทั้งทุนในประเทศ และที่มาจากต่างประเทศ
6.
รัฐต้องเร่งช่วยเหลือเยียวยาให้กับแรงงานทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
(สตง.) ถล่มเป็นกรณีเร่งด่วน
7.
รัฐต้องมีมาตรการในการดำเนินการต่อกลุ่มทุนผูกขาดที่มีอำนาจเหนือรัฐ
ที่สร้างผลกระทบต่อประเทศชาติ และประชาชน โดยเฉพาะในกิจการพลังงาน โทรคมนาคม
และรัฐควรยกเลิกการซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน
ขณะที่ข้อเรียกร้องที่เป็นข้อเสนอเดิมช่วงหลายปีที่ผ่านมา
15 ข้อ ประกอบด้วย
1.
รัฐต้องกำหนดค่าจ้างแรงงานที่เป็นธรรมครอบคลุมผู้ใช้แรงงานทุกภาคส่วน
คือรัฐต้องปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 492 บาทเท่ากันทั่วประเทศ
2.
รัฐต้องลดรายจ่ายของประชาชนลง และเพิ่มรายได้ เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน
และผู้ใช้แรงงานซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนฐานรากในภาพรวมได้อย่างแท้จริง
3.
รัฐต้องสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ
(ฉบับประชาชน)
4.
รัฐต้องหยุดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ
และให้มีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพในการให้บริการที่ดี
มีคุณภาพ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
5.
รัฐต้องปรับปรุงโครงสร้างทางภาษี โดยเก็บภาษีในอัตราที่ก้าวหน้าอย่างจริงจัง
6.
รัฐต้องปฏิรูปการประกันสังคม
7.
รัฐต้องจัดสวัสดิการถ้วนหน้าที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนทุกคนได้เข้าถึงอย่างเท่าเทียมโดยไม่เลือกปฏิบัติ
8.
รัฐต้องให้สัตยาบันอนุสัญญาของ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ
9.
รัฐต้องยกเลิกนโยบายการจำกัดอัตรากำลังบุคลากรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ
และยกเลิกนโยบายการลดสิทธิประโยชน์สวัสดิการของพนักงานและครอบครัว
10.
รัฐต้องกำหนดให้ลูกจ้างภาครัฐในหน่วยงานราชการต่าง ๆ ทั้งส่วนกลาง และท้องถิ่น
รับค่าจ้างจากงบประมาณแผ่นดิน และต้องบรรจุเป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างประจำ
11.
รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
กรณีนายจ้างเลิกจ้างคนงานโดยไม่จ่ายค่าชดเชย หรือจ่ายไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด
12.
รัฐต้องจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงจากการลงทุน โดยให้นายจ้างจ่ายเงินเข้ากองทุน
เพื่อเป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิของคนงานเมื่อมีการเลิกจ้างหรือปิดกิจการ
โดยนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย คนงานต้องได้สิทธิรับเงินจากกองทุนนี้
13.
รัฐต้องพัฒนากลไกการเข้าถึงสิทธิ และการบังคับใช้กฎหมายความปลอดภัย อาชีวะอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างจริงจัง
และต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่สถาบันความปลอดภัยให้เพียงพอ
สำหรับการบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพ
14. รัฐต้องยกเลิกการจ้างงานที่ไม่มั่นคง เช่น การจ้างงานแบบชั่วคราว รายวัน รายชั่วโมง เหมาค่าแรง เหมางานเหมาบริการ และการจ้างบางช่วงเวลา ทั้งภาครัฐและเอกชน
15.
ข้อเสนอเพื่อคุ้มครองสิทธิ์แรงงานข้ามชาติ เช่น
รัฐต้องสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับทุกคน โดยไม่คำนึงถึงสถานะ
และไม่เลือกปฏิบัติต่อใครชาติใดชาติหนึ่ง เพื่อประสิทธิภาพในการเข้าถึงการรักษาโรค
รัฐต้องให้แรงงานข้ามชาติทุกคนเข้าถึงสิทธิเงินกองทุนทดแทน
เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานไม่ว่ากรณีใด ขณะเดียวกันเครือข่ายแรงงานสตรี
ได้เรียกร้องสิทธิลาคลอด 180 วัน ต้องจ่ายค่าแรง 100%
จากนั้น
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า
หลายเรื่องที่รับไปมีทั้งก้าวหน้าและไม่ก้าวหน้า แต่ยืนยันว่ารัฐบาลฟังเสียงพี่น้องแรงงานมาตลอด
และจะได้พูดคุยกันในอนาคต เรื่องนี้เป็นเรื่องของทุกคนรัฐบาลพร้อมรับฟังทุกเสียง
แม้ว่าท่านจะชอบหรือไม่ชอบรัฐบาลก็ตาม
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #วันกรรมกรสากล #วันแรงงานแห่งชาติ