“เผ่าภูมิ”
ชี้ “เงิน 10,000” ดันดัชนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค-SME-อุตสาหกรรม
พุ่ง 3 ตัว พร้อมกัน
วันที่
15 ธันวาคม 2567 ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนตุลาคม 2567 และพฤศจิกายน 2567
ดีขึ้นต่อเนื่อง 2 เดือนติด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567
ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ 14.55 ล้านคน
ที่ดำเนินตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา
สะท้อนผ่านดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ 3 ดัชนี ดังนี้
1)
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confident Index: CCI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
2 เดือน จาก 55.3 จุด ในเดือนกันยายน 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 56.0 จุด ในเดือนตุลาคม
2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 56.9 จุด ในเดือนพฤศจิกายน 2567
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ส่งผลให้มีการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น สร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น
2)
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium
Enterprises Sentiment Index: SMESI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2
เดือนติดต่อกัน จาก 49.6 จุด เพิ่มขึ้นเป็น 52.2 จุด ในเดือนตุลาคม 2567
และเพิ่มขึ้นเป็น 53.0 จุดในเดือนพฤศจิกายน 2567
โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
ซึ่งได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการเพิ่มกำลังซื้อในตลาด
3)
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (Thai Industrial Sentiment Index: TISI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 87.1 จุด เป็น 89.1 จุด ในเดือนตุลาคม 2567
จากการผลิตและยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ในบ้าน และอุปกรณ์การเกษตร
และปุ๋ยเคมี ที่เพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัวและตอบสนองต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าจำเป็นที่ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันและภาคการเกษตร
ทั้งนี้
ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ดัชนี ข้างต้น
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภค ภาคอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ SMEs ที่มีการตอบสนองที่ดีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
และสะท้อนถึงความคาดหวังในทิศทางเศรษฐกิจที่ดี
โดยเฉพาะการปรับตัวดีขึ้นในกลุ่มธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของสินค้าอุปโภคบริโภค
ซึ่งส่งผลดีต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศในระยะต่อไป