วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ธิดา ถาวรเศรษฐ : อาวุธสูงสุดของ "เพื่อไทย" คือ "ทักษิณ" การเดินทางการเมืองของ "เพื่อไทย" ไม่แน่ว่าจะได้ด้านบวกเสมอไป ยิ่งเดินมาก ประชาชนอาจบอกว่ายิ่งทำให้อำมาตย์แข็งแรง อาจเปลี่ยนใจก็ได้

 


ธิดา ถาวรเศรษฐ : อาวุธสูงสุดของ "เพื่อไทย" คือ "ทักษิณ" การเดินทางการเมืองของ "เพื่อไทย" ไม่แน่ว่าจะได้ด้านบวกเสมอไป ยิ่งเดินมาก ประชาชนอาจบอกว่ายิ่งทำให้อำมาตย์แข็งแรง อาจเปลี่ยนใจก็ได้


[ถอดเทป] คนดังนั่งเคลียร์ "พรรคประชาชน" ท้ารบ "ทักษิณ" ศึกนี้แพ้ไม่ได้!!


ออกอากาศวันที่ 19 พ.ย. 67 ทาง ช่อง 8

ดำเนินรายการโดย เมย์ ชนิตร์นันทน์ ปุณณะนิธิ

ลิ้งค์ยูทูป : https://www.youtube.com/watch?v=1SYCcukqPSM


***กรณีที่คุณทักษิณตั้งตำแหน่งให้ตัวเองคือ “สทร.” ทำไมต้อง สทร.?***


อันนั้นเป็นสิ่งที่คุณทักษิณคิด ก็พยายามจะไปรู้ทุกเรื่องในฐานะที่เป็นหัวหน้าใหญ่สุดหรืออะไรประมาณนั้น แต่ว่า สทร. ภาษาไทยมันไม่เพราะเท่าไหร่หรอก คือบางครั้งมันไม่ใช่เรื่อง มันกลายเป็นหาเรื่อง อาจารย์มองนะ คือว่าถ้าอยู่ในระดับสูงขนาดนั้นจะต้องเลือกเฉพาะบางเรื่อง เรื่องที่มีความสำคัญ แต่อาจารย์มองแล้วว่าจุดอ่อนของคุณทักษิณก็คือ คุณทักษิณแกเป็นคนตรงไปตรงมานะ จริงใจ แกคิดยังไงแกก็พูดอย่างนั้นแหละ ถ้าจะเป็นตำแหน่งแบบที่คุณช่อว่านะ (Super prime minister) ต้องมีภาวะอีกระดับหนึ่งของการนำ เพราะว่าจะไปทำทุกเรื่องไม่ได้ ถ้าไปทำทุกเรื่องลูกน้องก็จะกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็น แล้วมันจะมีภัย


***คุณทักษิณทำไมถึงทุ่มสุดตัวกับสนามเลือกตั้งอุดรธานีครั้งนี้ ทั้งที่เสี่ยงต่อการครอบงำพรรค หรือเปล่า? กับการพูดถึงหลาย ๆ อย่าง***


อาจารย์ว่าไม่ได้ทุ่มสุดตัวนะ มันเป็นจุดเริ่มต้น เนื่องจากอันนี้เป็นถิ่นที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย (ผู้ดำเนินรายการ : ใช้คำว่าเมืองหลวงของคนเสื้อแดงที่คุณทักษิณพูด) ไม่ใช่! คำว่าเมืองหลวง คนที่พูดคนแรกคือ ขวัญชัย ไพรพนา อาจารย์เคยไปช่วยเขาทอดผ้าป่าสร้างสถานีวิทยุกระจายเสียง ส่วนใหญ่แกนนำคนเสื้อแดงแต่ละคนก็จะสร้างความสำคัญคนละแบบ คนนี้ทำหมู่บ้านคนเสื้อแดง คนนี้ทำกลุ่มคนรักทักษิณ คือแข่งกัน อุดรฯ ก็มีฐานเสียงคนรักประชาธิปไตยและคนเสื้อแดงมากอยู่จำนวนหนึ่ง แต่บอกว่าเป็นเมืองหลวง คือไม่มีใครไปขัดไง ก็เลยพูดตาม ๆ กัน มันไม่จริงหรอก เพราะว่าดูแล้วจำนวนคนเสื้อแดงจังหวัดอื่นก็มีมากกว่า


อีกอย่างหนึ่งอย่างที่บอก เรื่องของคนเสื้อแดงเป็นเรื่องของจิตวิญญาณผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่จำนวนคนที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทย หรือไม่ใช่จำนวนคนที่สนับสนุนเพื่อไทย ถ้ามีมากแล้วบอกว่าเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง มันไม่ใช่! คนเสื้อแดงไม่ต้องมีเมืองหลวง (ผู้ดำเนินรายการ : แต่การเกิดการเคลมทางการเมืองมันก็จะมีบ้างไงคะอาจารย์) ใช่ ๆ แต่ว่ามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก สำคัญอยู่ที่ว่าเอาเข้าจริงประชาชนจะสนับสนุนอย่างไร แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอด


ทีนี้คำถามที่ว่าคุณทักษิณให้ความสำคัญที่อุดรฯ อาจารย์ว่าเป็นจุดเริ่มต้น เป็นที่แรก ซึ่งต่อไปคุณทักษิณก็คงจะไปที่อื่นอีก ถ้าเหมาะสมและสะดวกก็มาเลย อาจารย์มองว่าเขาต้องใช้ยุทธศาสตร์บ้านใหญ่ การเลือกตั้งท้องถิ่นก็สำคัญที่จะต้องลงพื้นที่ไปด้วย เมื่อก่อนนี้อาจจะไม่ค่อยสนใจ แต่เมื่อพรรคฝ่ายกลุ่มใหม่เขามาเล่นงานท้องถิ่น ก็จะเข้าไปเบียดพื้นที่ของการนำในท้องถิ่นซึ่งจะมีปัญหากับสส.เขตด้วย ดังนั้นจึงเชื่อมโยงกันโดยอัตโนมัติคือต้องมาดูตั้งแต่เลือก อบจ.และท้องถิ่น เพราะมันจะสามารถไปถึงสส.เขตได้


***อ.ธิดา มองอย่างไรที่บนเวทีปราศรัยคุณทักษิณพูดถึงคุณพิธา กลัวแพ้ต้องดึงพิธากลับมา “เหน็บ-แซะ” เยอะเหมือนกัน***


คือคุณทักษิณคงประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว คุณพิธามีบทบาทสูงในการดึงดูดให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น นอกจากนโยบายที่พรรคก้าวไกลได้เสนอไปแล้ว ปัจจัยของบุคคลก็คือคุณพิธาน่าจะทำให้เขาไม่สบายใจว่ายังมีบทบาทมีอิทธิพล แม้คุณพิธาจะหมดบทบาทในทางการเมืองตามกฎหมายก็ตาม แต่ความนิยมของคนคงมีมาก จนกระทั่งทำให้คุณทักษิณไม่สบายใจ จึงจำเป็นต้องพูดถึงคุณพิธาสักหน่อย


แต่ดังที่อาจารย์บอกว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่คุณทักษิณจะเดินสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอีสาน เพราะว่าเมื่อเป็นยุทธศาสตร์บ้านใหญ่และเป็นยุทธศาสตร์ที่จะต้องผนวกเอาการเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อนำไปสู่สส.เขต เพราะว่าฐานเสียงฝ่ายประชาธิปไตยนั้นค่อนข้างสู้ไม่ได้ ก็จำเป็นต้องใช้ฐานเสียงของคนในท้องถิ่น การแซะคุณพิธาเป็นการพยายามดิสเครดิต แต่อาจารย์คิดว่าไม่ได้ผลอะไร เพราะมองในด้านดีก็ได้ว่า พูดเล่น แซวเล่น อะไรประมาณนั้น (ผู้ดำเนินรายการ : หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเห็นความสำคัญอยู่เหมือนกันถึงได้พูดถึงคุณพิธา) ก็คือยอมรับว่าคุณพิธามีบทบาทสำคัญส่วนหนึ่ง นอกจากนโยบายของพรรคก้าวไกล


***วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. นี้ จะเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี อ.ธิดา สามารถคาดการณ์ได้หรือยังว่าใครน่าจะเข้าวิน หรือโค้งสุดท้ายจะมีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้***


อาจารย์มองว่าพรรคเพื่อไทยทำได้อย่างมากที่สุดก็คือคุณทักษิณออกมาแบบนี้ มันอยู่ที่ทางพรรคประชาชนจะสามารถงัดอะไรออกมาเป็นอาวุธในการต่อสู้ เพื่อไทยอาวุธสู้สูงสุดก็คือเอาคุณทักษิณมาใช้ มาอ้อน อีกอย่างก็คือประชาชนที่ในตัวเลขเดิมจะมีทัศนะทางการเมืองหรือเปล่า ก็น่าสนใจ เพราะอาจารย์ก็ถามมวลชนที่อยู่ในพื้นที่อุดร รวมทั้งพวกกลุ่มนักข่าวออนไลน์ก็ให้ไปคุยกับชาวบ้าน เขามีทัศนคติทางการเมือง แม้ว่าจะเสนอเงินหมื่น จะเสนอเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งมันก็ถูกต้อง แต่ว่าเขาฉลาดพอที่เขาจะรู้ว่าสาเหตุของปัญหาคือวิกฤตการเมือง


ดังนั้น อาจารย์ยังมองว่า นอกจากปัจจัยว่าพรรคประชาชนจะสามารถมีอาวุธอะไรมาเพิ่มเติมหรือจะจัดการยังไง ซึ่งเราไม่รู้นะ แต่ว่าอีกอย่างหนึ่งคือในฝ่ายของประชาชน ถ้าการเคลื่อนไหวของคุณทักษิณมาก แล้ว ดี/ไม่ดี มันอาจจะเป็นผลด้านกลับนะ เพราะว่าประชาชนเขารู้ว่าเป็นปัญหาทางการเมือง และเขาสนใจในการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คุณทักษิณถึงต้องพูดเรื่องโครงสร้างไง คือพูดว่าพรรคเด็ก ๆ ประมาณนั้น ห้ามแล้วอย่าไปยุ่งเรื่องโครงสร้างมาก คือพูดออกมาแล้วแปลเป็นแบบนั้นซึ่งไปดีสเครดิต แต่ว่าประชาชนนั้นเปลี่ยนไปแล้ว ประชาชนมีทัศนะทางการเมือง มันอาจจะเป็นด้านกลับก็คือ อาจจะกลัวว่าพรรคเพื่อไทยหรือคุณทักษิณได้มาก เพราะอย่าลืมว่าในทางการเมือง คุณทักษิณข้ามขั้วไปแล้วนะ ถ้าเราเข้าโรงเรียนนปช.แบบเดิม อาจารย์จะพูดเรื่องเครือข่ายระบอบอำมาตย์ มันไปตรงกับคุณดันแคน แม็กคาร์โก ก็คือเป็นเครือข่ายระบอบอำมาตย์ ถ้ามาเป็นโรงเรียนผู้ปฏิบัติงานการเมืองตอนนี้อีก คุณทักษิณเข้าไปอยู่ในเครือข่ายระบอบอำมาตย์ไปแล้วนะ


เขาอาจจะกลัวเลยก็ได้ เพราะว่าคุณทักษิณไปทำให้ฝ่ายอำมาตย์แข็งแรง คืออาจารย์เชื่อมั่นในภาคอีสานว่าผู้รักประชาธิปไตยมีมาก ทั้งประวัติศาสตร์ในอดีตที่เขาถูกกดขี่ เอาคนแก่นะไม่ต้องเอาคนหนุ่มนะ คนแก่เขาเคยมีกระแสของฝ่ายซ้ายและสงครามอินโดจีนที่เข้ามา และเป็นภาคเดียวที่มีการต่อสู้กับอำนาจรัฐส่วนกลางมาตลอด แล้วมองเขาเป็นลาวกาว เป็นคนละมณฑล คนละเผ่าพันธุ์ คือถูกกดขี่เหยียดหยามทั้งทางวัฒนธรรมและขูดรีดเอาส่วยต่าง ๆ


ดังนั้น พื้นฐานทางการเมืองของเขามีมากกว่าภาคอื่น ๆ แล้วเราก็จะพบว่าในการต่อสู้ (ถ้าพูดถึงฝ่ายซ้ายนะ) แม้กระทั่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย สมาชิกเขาในภาคอีสานมากกว่าภาคอื่นทั้งหมด แล้วยังมีผลสะเทือนจากสงครามอินโดจีน เพราะฉะนั้น พื้นฐานของคนอีสาน แน่นอนว่าเขาอยากได้ทางเศรษฐกิจ แต่มาบัดนี้ ผ่านจากปี 49 มาจนกระทั่งบัดนี้ อาจารย์มองว่าเขามองการเมืองเป็นเรื่องหลัก ถึงแม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแต้มต่อในตอนนี้ มีโอกาสจะชนะสูง แต่อาจารย์ก็คิดว่าการเดินของพรรคเพื่อไทยในทางการเมืองไม่แน่ว่าจะได้ด้านบวกเสมอไป ยิ่งเดินมากจะยิ่ง ประชาชนบอก อย่างนี้ยิ่งไปทำให้อำมาตย์แข็งแรง ประมาณนั้น ก็อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้


คือแน่นอน เขาอาจจะมีความผูกพันกับคุณทักษิณอยู่ระดับหนึ่ง แต่บางทีมันแลกไม่ได้กับอุดมการณ์ อาจารย์คิดอย่างนั้นนะ เพราะฉะนั้นคุณทักษิณเดินมากก็มีทั้งบวกทั้งลบนะ อย่าไปคิดว่ามีบวกอย่างเดียว บอกให้รู้ด้วย!


***ถ้าเพื่อไทยจะพยายามพลิกให้คะแนนกลับมาเป็นบวก จะต้องทำอะไรในโค้งสุดท้ายนี้ หรือคุณทักษิณจะต้องลงอีกรอบมั้ย? หรือนายกฯ ต้องลงมั้ย***


คือจริง ๆ การเมืองในท้องถิ่นยังเป็นการเมืองแบบเก่า ยังเป็นเรื่องของหัวคะแนน ผู้มีอิทธิพลรวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านและความเกรงอกเกรงใจ แต่คนรุ่นใหม่เขาจะเลือกพรรคที่มีนโยบาย คนสูงอายุบางทีก็เกรงใจ ก็คือถ้าเป็นท้องถิ่น ก็จะเลือกคนที่เคยเลือกประจำอยู่ แต่ถ้าเป็นระดับชาติ ก็ยังแบ่งอีกว่าถ้าสส.เขตเลือกพรรคนี้ ถ้าบัญชีรายชื่อเลือกพรรคนี้ อันนี้ก็เป็นพัฒนาการของคนนะ ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่เหมือนปี 2549 ที่คุณทักษิณเคยทำ และก็ไม่เหมือนปี 2554 ที่ตอนนั้นก็มีพรรคเดียว


มาถึงปี 2562 ก็แบบหนึ่ง ปี 2566 ก็แบบหนึ่ง ขณะนี้อาจารย์มองว่ามันเข้าสู่โหมดใหม่ พรรคเพื่อไทย คุณทักษิณแม้จะเป็นคนสำคัญที่สุด แต่ต้องเป็นคนที่ระมัดระวังมาก ถ้ามีปัญหา มันก็จะมีปัญหาจากคุณทักษิณเป็นหลัก เมื่อกี้ถามว่าจะทำยังไงใช่มั้ย ที่จริงเขาก็เก่งกว่า แล้วอาจารย์เป็นคนที่ไม่ถนัดในเรื่องของการเมืองแบบพรรคการเมือง เพียงแต่มองว่าคุณทักษิณอาจจะมีความทันสมัย แต่ยังไม่เข้าใจสังคมไทยและพัฒนาการของสังคมไทยที่แท้จริงมากเพียงพอ ยังไม่สามารถปรับให้สอดคล้องกับความเป็นจริง


สำหรับอาจารย์ก็คือ คุณต้องจัดการทางการเมือง เพราะนี่คือวิกฤตการเมือง แต่ขณะนี้คุณไปเป็นนั่งร้าน ทำให้วิกฤตการเมืองยิ่งมากขึ้น เพราะฉะนั้น สมมุติว่าคุณจะร่วมมือกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือนิรโทษกรรม ขณะนี้ปัญหานิรโทษฯ อาจารย์เชื่อว่าคุณก็ไม่กล้าที่จะรวมเอา 112 เข้าไปด้วย ถ้าคุณจะดึงคนเสื้อแดงกลับนะ คุณต้องทำสองอย่างนี้ เพราะคนเสื้อแดงเขาสู้ทางการเมือง เขาไม่ได้สู้ทางเศรษฐกิจ คนเสื้อแดงไม่เคยออกมาเรียกร้องค่าแรง ไม่เคยออกมาเรียกร้องเงินหมื่นนะ บอกให้หยุดรัฐประหาร คืนอำนาจให้ประชาชน ถ้าจะอ้อนคนเสื้อแดงนะ ต้องแก้ปัญหาทางการเมือง ทำได้มั้ย? แต่อาจารย์ว่าเขาทำไม่ได้ อย่าลืมว่าถ้ามันง่ายอย่างนั้นนะ คุณเศรษฐาไม่ปลิวไปหรอก หรือคุณทักษิณต้องมาอยู่ชั้น 14 เพราะมันไม่ได้ตรงไปตรงมาแบบที่คุณทักษิณคิด แล้วขณะนี้ก็ยังมีคดี 112 และคดีต่าง ๆ วันที่ 22 ก็ไม่รู้จะว่ายังไง?


ดังนั้น อยู่ยาก อยู่ลำบาก แต่ถามว่าคนเสื้อแดง อาจารย์เชื่อนะ แม้กระทั่งพรรคประชาชนจะออกมาประท้วงนะ ไม่หรอก! แต่คนที่จะมาจัดการคุณทักษิณก็คือฝ่ายอนุรักษ์นิยมจารีตนิยมกันเองนี่แหละ เพราะว่าคุณทักษิณต้องทำตามเขา เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่น่าเสน่หาเลย เป็นสิ่งจำเป็น แต่ว่าไม่ได้ต้องการให้เติบโตมาก แล้วจำเป็นต้องทำ คุณต้องทำตามที่เขาอนุญาต เขาถ้าไม่อนุญาตคุณก็ทำไม่ได้ แต่ถ้าต้องทำตามที่เขาอนุญาต ประชาชนไม่ชอบ! (ผู้ดำเนินรายการ : แล้วประชาชนไปอยู่ตรงไหนของสมการนี้) ประชาชนก็เลือกพรรคอื่นซิ คือหมายความว่าถ้าคุณจะแย่งดึงฐานเสียงกลับ สำหรับคนเสื้อแดงนะ ในฐานะที่เป็นคนเสื้อแดงนะ และอาจารย์เชื่อว่าคนเสื้อแดงมีไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน หมายถึงประเภทนักสู้จริง ๆ ก็คือในการลงประชามติรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าถามจริง ๆ แล้วจำนวนคนมันมากกว่านั้น เราไม่ไปเคลมเอาคะแนนพรรค


ถ้าอยากจะดึงคนเสื้อแดงกลับ คุณต้องพยายามแก้วิกฤตการเมือง ไม่ใช่ข้ามขั้วไปเป็นลูกหาบเขาอย่างเซื่อง ๆ แต่เราก็เข้าใจ คุณทักษิณก็เป็นตัวประกัน คุณอุ๊งอิ๊งก็เป็นตัวประกัน คุณยิ่งลักษณ์ก็เป็นตัวประกัน ดังนั้นก็ต้องขอให้โชคดี ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะว่าถ้าคุณอยากให้คนเสื้อแดงกลับ คุณต้องแก้ปัญหาทางการเมือง เพราะคนเสื้อแดงเกิดมาเพราะต่อสู้ทางการเมือง ไม่ได้มาต่อสู้เพื่อเรียกร้องเงิน ใครก็แจกได้ ลุงตู่ก็แจก ใคร ๆ ก็แจกเงินได้ แต่ว่าเขาเป็นนักต่อสู้ทางการเมือง ดังนั้นถ้าคุณจะให้คนเสื้อแดงกลับ ก็คือคุณต้องแก้ปัญหาทางการเมืองให้เป็นการเมืองที่ประชาชนมีอำนาจ ไม่ใช่ฝ่ายจารีตอำนาจนิยมมีอำนาจ แล้วไปเป็นนั่งร้านอยู่แบบนี้ คนเสื้อแดงไม่มีทาง ถ้าจิตวิญญาณจริง ๆ ไม่มีทางกลับไป


***ถ้าการเลือกตั้ง นายกอบจ.อุดรธานี และอีกหลายที่ โดยเฉพาะในภาคอีสาน ไม่ว่าพรรคใดชนะการเลือกตั้ง อ.ธิดา สามารถมองภาพรวมและคาดการณ์ในอนาคตต่อไปอย่างไร?***


ไม่หรอก สมมุติว่า “เพื่อไทย” ชนะ ก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อไทยจะชนะทั้งอีสาน เราต้องยอมรับว่าสส.เขตและโดยเฉพาะท้องถิ่นมีลักษณะพิเศษ นั่นก็คือมีความเป็นท้องถิ่นมากกว่าระดับชาติ มีความเกรงอกเกรงใจกันอยู่ และขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วย คือปกติคะแนนเสียงอย่างที่บอกจะมีทั้งคะแนนของตัวและคะแนนของพรรค สมมุติถ้ามีพรรคประชาชนมีผู้สมัครคนใหม่เข้ามา แล้วไม่มีต้นทุนของความสัมพันธ์กันคนในท้องถิ่น อันนี้ก็ถือว่าต้นทุนติดลบไปแล้วส่วนหนึ่ง ก็เหลือแต่นโยบายกับความพยายามที่จะแสดงออกให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะทำงาน 1-2-3-4-5 ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะชนะได้ แต่ว่าถึงแพ้อาจารย์มองว่านี่เป็นการเริ่มต้นตั้งแต่คุณทักษิณเท้าเหยียบลงบนพื้นที่อีสานแล้ว และกำลังเริ่มเดินสายเพื่อที่จะทวงคนเสื้อแดงคืน


คือเขาข้ามขั้วไป เขาบอกสลายขั้ว แต่คนถือว่ายังมีขั้ว คือความขัดแย้งหลักระหว่าง “ฝั่งจารีตอำนาจนิยม” กับ “ประชาชน” ยังดำรงอยู่ นี่คือความขัดแย้งหลัก ส่วนเรื่องความ support ระหว่างพรรคก็ขึ้นอยู่ว่าพรรคอยู่ฝั่งไหน คือขั้วมันยังมี ถ้าคุณทักษิณไปเดินมาก แล้วถ้าคนมองว่าเป็นการสร้างความแข็งแรงให้กับฝั่งที่คนเสื้อแดงเรียกว่าระบอบอำมาตย์ คนเสื้อแดงก็อาจจะพลิกกลับก็ได้


แต่อย่างไรก็ตามเป็นการเริ่มต้น พรรคประชาชนก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าสมมุติเกิดแพ้ที่อุดรฯ แล้วรู้สึกว่าจะต้องแพ้ที่อื่นอีก ไม่ใช่ค่ะ! คือขณะนี้เป็นการทำแต้มสะสมไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า (ผู้ดำเนินรายการ : แต่คุณทักษิณพูดอยู่ 3 ครั้งว่า “อย่าให้ผมอายนะ”) แกก็พูดไปอย่างนั้นแหละ (ผู่ดำเนินรายการ : แสดงว่าแกมีความไม่มั่นใจอะไรบ้างในใจหรือเปล่าคะอาจารย์) แกก็พูดอย่างนั้น คือสไตล์ขึ้นหาเสียง คือเวลาคนขึ้นบนเวทีบางครั้งมันมีภาษาของมัน (ภาษาปราศรัย) ซึ่งบางทีไม่ได้จริงจังอะไรมากมาย เป็นภาษาในการปราศรัยที่คิดว่าพูดแบบนี้แล้วมันน่าจะดี น่าจะได้คะแนนมากขึ้น อะไรแบบนี้


แต่ถ้าอาจารย์มองหัวใจคือคุณทักษิณกำลังย่างก้าวเข้ามาเพื่อที่จะปรับในการทำให้การเมืองของเพื่อไทยในการเลือกตั้งท้องถิ่นด้วย สส.เขตครั้งหน้าด้วย ให้อยู่ในที่ดีขึ้นกว่าเดิม นี่ไงคุณทักษิณมาแล้ว! ผมมาแล้ว! อะไรทำนองนั้น คุณทักษิณเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง แต่อาจารย์อยากจะบอกว่า ถ้าคุณทักษิณเข้าใจสังคมไทยจริง คุณทักษิณจะไม่พลาดแบบที่ผ่านมา ที่ต้องหายไป 17 ปี อาจารย์ในฐานะประธานนปช.ขณะนั้นมีความเห็นขัดแย้งกับคุณทักษิณหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องรัฐธรรมนูญ 2550, เรื่องนิรโทษสุดซอย, เรื่อง ICC แล้วสิ่งที่เราเสนอกับสิ่งที่คุณทักษิณไม่เห็นด้วย มันพิสูจน์ได้ว่าใครผิด


อย่างเรื่องรัฐธรรมนูญ ที่อาจารย์เสนอก็เหมือนกับตอนนี้แหละ มีสสร. ไม่ต้องมาตั้งกรรมการของตัวเองต่างหาก ก็ไม่เชื่อ! นิรโทษสุดซอยก็เช่นกัน คือไม่เข้าใจคนเสื้อแดง เพราะตอนนั้นคุณทักษิณบอกตรง ๆ เลยว่า คนเสื้อแดงที่จะไม่เห็นด้วยกับนิรโทษสุดซอยมีจำนวนน้อยมาก อาจารย์ถือว่าบางเรื่องอาจารย์ไม่อยากเอามาพูด แต่ว่ามันแรงสำหรับอาจารย์มาก และอาจารย์คิดว่ามันควรจะแรงในหัวใจคุณทักษิณด้วย ว่าคุณทักษิณรู้จักคนเสื้อแดงหรือเปล่า? ในความคิดของอาจารย์นะ อาจารย์อาจจะไม่เก่งทางทำพรรคการเมือง แต่ในด้านเข้าใจคนไทยและสังคมไทยอาจารย์คิดว่าอาจารย์รู้มากพอสมควร ถ้าเราไม่ได้มีความขัดแย้งกันขนาดนั้นมันจะไม่มีวันนี้ของ “พรรคเพื่อไทย” แต่ในเมื่อคุณทักษิณมีความเชื่อมั่นในตัวเองก็จะเดินต่อไป เพราะฉะนั้นอาจารย์ทำนายว่าคุณทักษิณจะเดินลงพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งหมด คือมีความชื่อว่าคนยังมี loyalty และมีความภักดีกับคุณทักษิณและมีความเชื่อมั่นในความสามารถ ถ้าลงไปในพื้นที่ต่าง ๆ แล้วจะสามารถเรียกคะแนนได้


เพราะฉะนั้น มันก็จะมีด้านบวกอยู่จำนวนหนึ่ง แต่เราก็พยายามดูติดตามประชาชน อาจารย์ว่าประชาชนตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน ขนาดเมื่อก่อนยังไม่เข้าใจเลย แล้วตอนนี้จะเข้าใจจริงหรือเปล่า? และสิ่งที่คิดจะทำนั้น มันจะเป็นผลดีหรือผลร้ายกับครอบครัวคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า? อาจารย์ก็ยังมีเยื่อใยของความเป็นห่วงนะ ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยที่คุณทักษิณข้ามขั้วไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้อยากให้เกิดความเสียหายอย่างมากมายยิ่งกว่าเดิมอีกที่ต้องเสียหายมามากพอแล้ว ความเสียหายของคุณทักษิณที่ผ่านมานั้นมันทำให้ขบวนการประชาชนเสียหายด้วย นี่คือปัญหาที่ทำให้เราเสียใจ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ทักษิณ #เพื่อไทย #อบจอุดร #พรรคประชาชน