วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“ณัฐชา” แฉหน่วยงานรัฐรวมหัวทุนใหญ่ กลบข่าวปลาหมอคางดำ อ้างสถานการณ์ดีขึ้นสวนทางความจริง อัดรัฐบาลเป็นวาระแห่งชาติแต่ไร้ความคืบหน้า จี้เร่งทำงานเอาตัวคนผิดมาดำเนินคดี-เยียวยาความเดือดร้อนประชาชน

 


ณัฐชา” แฉหน่วยงานรัฐรวมหัวทุนใหญ่ กลบข่าวปลาหมอคางดำ อ้างสถานการณ์ดีขึ้นสวนทางความจริง อัดรัฐบาลเป็นวาระแห่งชาติแต่ไร้ความคืบหน้า จี้เร่งทำงานเอาตัวคนผิดมาดำเนินคดี-เยียวยาความเดือดร้อนประชาชน


วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 27 พรรคประชาชน กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำว่า วันนี้รัฐบาลดูเหมือนจะยังยุ่งอยู่กับการจัดการปัญหาภายในจนไม่มีสมาธิแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลทรัพยากรและระบบนิเวศของประเทศ กลับยังนิ่งเฉยต่อผลกระทบจากปัญหาปลาหมอคางดำและการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก


ทั้งที่รัฐบาลประกาศตั้งแต่เดือนสิงหาคมให้การแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำเป็นวาระแห่งชาติ และอนุกรรมาธิการที่ศึกษาผลกระทบเรื่องนี้ซึ่งตนเป็นรองประธาน ได้แจ้งข้อสังเกตโดยตรงไปถึงกระทรวงทรัพยากรฯ เรียบร้อยแล้ว โดยชี้ชัดว่ากระทรวงควรทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนในการนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามมาตรา 97 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นหน่วยงานดำเนินการ


ในทางกลับกัน กลับมีขบวนการฟอกขาวเกิดขึ้นในลักษณะการรวมหัวกันของภาครัฐบางหน่วยงานและเอกชนทุนใหญ่ที่พยายามทำให้เรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนหายไปจากกระแสด้วยการสร้างข่าวอย่างต่อเนื่องว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำลดลงและดีขึ้นโดยลำดับในหลายจังหวัด สวนทางกับความเป็นจริงที่สถานการณ์มีแต่จะยิ่งลุกลามบานปลาย


ณัฐชากล่าวว่า ล่าสุดวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ร่วมเวที "ฟื้นฟูระบบนิเวศ ปกป้องความมั่นคงทางอาหาร กรณีการระบาดของปลาหมอคางดำ พื้นที่สงขลา-นครศรีธรรมราช" จัดโดยมูลนิธิชีววิถี (BioThai) ครัวใบโหนด เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์คาบสมุทรสทิงพระ เครือข่ายความมั่นคงทางอาหารภาคใต้ และขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน (ขสช.) ทำให้ทราบข้อมูลจากตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรจังหวัดสงขลาว่าสถานการณ์ปลาหมอคางดำในพื้นที่หนักกว่าเดิมและเลวร้ายกว่าที่คิด จึงอยากให้ภาครัฐให้ความสำคัญและเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน


หน่วยงานของรัฐไม่เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาให้ประชาชน เน้นแก้ปัญหาให้เอกชนด้วยการให้ข้อมูลที่สร้างความสับสน หากยังเดินไปแบบนี้ นอกจากปัญหาเดิมจะไม่ได้รับการเยียวยา ในอนาคตผู้ทำประมงน้ำจืดและระบบนิเวศของไทยจะได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ และการแก้ปัญหาจะยากขึ้นแน่นอน”


ณัฐชากล่าวด้วยว่า อีกเรื่องที่ตนเรียกร้องคือการประกาศเขตภัยพิบัติเพื่อให้พี่น้องรับเงินช่วยเหลือเยียวยาได้ อยากให้รัฐมองกรณีนี้เหมือนโรคลัมปีสกินระบาดในวัว เมื่อปลาหมอคางดำระบาดในแหล่งน้ำ ในบ่อกุ้ง บ่อปลา ทำลายผลผลิตทำให้เกิดความเสียหาย ก็ควรเยียวยาพี่น้องประชาชนให้เหมาะสมเช่นกัน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #ปลาหมอคางดำ