อัยการสั่งฟ้องนักกิจกรรม
18 ราย กรณีม็อบ #15ตุลาไปราชประสงค์ เหตุเกิดปี 2563 ศาลนัดสอบคำให้การ/ตรวจพยานหลักฐาน
20-21 ม.ค. 2568
วานนี้
(26 พฤศจิกายน 2567) เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานว่า ที่ศาลแขวงปทุมวัน
อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) นัดหมายประชาชนและนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง
สั่งฟ้องคดีจากการชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์ เมื่อปี 2563
ในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่มีความร้ายแรง
โดยแยกสั่งฟ้องเป็น 2 คดี ได้แก่
คดีของนักกิจกรรมที่ขึ้นปราศรัย ซึ่งมีผู้ต้องหาเดินทางมาตามนัดจำนวน 15 คน และมีนักกิจกรรมอีก 3 คน
ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในคดีอื่น ทำให้รวมมีผู้ถูกฟ้องทั้งหมด 18 คน และอีกคดีหนึ่งมีผู้ต้องหาจำนวน 5 คน คือทีมขับรถเครื่องขยายเสียง โดยยังมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย
ที่ไม่เดินทางมาในการสั่งฟ้องคดี ทำให้อัยการยังไม่ได้สั่งฟ้อง
คดีทีมขับรถเครื่องขยายเสียง
4 คนนั้น ถูกข้อหาเข้าร่วมชุมนุมหรือมั่วสุมตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งหลังฟ้องคดี
ศาลได้ให้ปล่อยตัวจำเลยไป โดยให้สาบานตนว่าจะมาตามนัด
พร้อมนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานต่อไปวันที่ 21 ม.ค. 2568 เวลา 9.00 น.
ในส่วนอีกคดีหนึ่งคือ คดีที่นักกิจกรรมที่ขึ้นปราศรัย จำนวน 13 คน ประกอบด้วย กรกช แสงเย็นพันธ์, วสันต์ กล่ำถาวร, ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, ณัฐชนน พยัฆพันธ์, ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล, อรรถพล บัวพัฒน์, กวินทร์ พิชญภิรมย์, เอกศิษฏ์ บัวทองเอี่ยม, สุวรรณา ตาลเหล็ก, ชลธิชา แจ้งเร็ว นอกจากนั้นยังมี ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ, สมบัติ ทองย้อย เป็นผู้ถูกฟ้องสามคนที่ถูกคุมขังอยู่เรือนจำในคดีอื่นอยู่ ทำให้อัยการสั่งฟ้องโดยไม่ต้องนำตัวมาศาล
หลังฟ้องคดี
ศาลได้ให้ปล่อยตัวจำเลยทั้งสิบไป โดยให้สาบานตนว่าจะมาตามนัด
พร้อมนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานต่อไปวันที่ 20 ม.ค. 2568
เวลา 9.00 น. โดยในวันดังกล่าว
จำเลยอีกสามคนที่ถูกคุมขังอยู่จะถูกนำตัวมาศาล เพื่อร่วมการพิจารณาคดีด้วย