“ภูมิธรรม”
สั่งการเตรียมรับมวลน้ำในพื้นที่ “อุตรดิตถ์/สุโขทัย”
กำชับเสริมแนวป้องกันคันดินและเขื่อนรับน้ำ พร้อมเน้นย้ำกรมอุตุฯ
พยากรณ์เจาะจงในพื้นที่ เพื่อเตรียมการป้องกัน ขณะเดียวกัน แจงแทนนายกฯ
ยังไม่มีอำนาจสั่งการ เพราะต้องเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ-แถลงนโยบายก่อน
วันนี้
(25 สิงหาคม 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมก่อนลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ที่ จ.น่าน, จ.เชียงราย
ในวันนี้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.แพร่ น่าน และเชียงราย
ขณะนี้น้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังระดับน้ำสูงกว่าเขื่อนกั้น ซึ่งรายงานล่าสุดภาพรวมดีขึ้น
แต่ยังมีความกังวล เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องซ้ำในจุดเดิมที่แห้งไปแล้ว ดังนั้นจึงยังคงต้องเฝ้าระวังและไม่ได้นิ่งนอนใจ
ส่วนมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะไหลจากแม่น้ำยมลงมายังสุโขทัยและอุตรดิตถ์
ยังน่าเป็นห่วง จึงได้สั่งการให้ ร.อ.ธรรมนัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ไปติดตามสถานการณ์ เนื่องจากประชาชนกังวลที่จะต้องรับน้ำมวลนี้
ขอย้ำว่า
น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากสภาพาอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือ climate change ทำให้ปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นในบางจุด ไม่ได้กระจายไปทั้งหมด
ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกอย่างแรงในจุดนั้นมากถึง 200 มิลลิเมตร
แม้หลายส่วนจะมีมาตรการป้องกันไว้แล้ว แต่ยังต้องเผชินกับภาวะที่มีปัญหา
ขณะเดียวกันแม่น้ำโขง
ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ก็เชื่อว่าจะคลี่คลายโดยเร็วเนื่องจากเป็นน้ำหลาก
และย้ำว่ารัฐบาลนี้ได้สั่งการหน่วยงานทั้งหมดเข้ามาดูแลปัญหา เช่น กระทรวงมหาดไทย
ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมถึงพยายามป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ประสบอุทกภัย
ขณะเดียวกันก็เตรียมรับมวลน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนที่ต้องมีการคำนวณเพื่อรองรับฝนที่จะตกอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์
เขื่อนเจ้าพระยา จะต้องมีการวางแผนบริหารจัดการให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
ป้องกันการไหลของน้ำ
นอกจากนี้
ได้สั่งการให้จังหวัดดูปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้การช่วยเหลือด้านเส้นทางคมนาคมขนส่งได้มีการเจาะรูระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลไปได้
และเสริมความแข็งแกร่งคอสะพานไม่ให้เส้นทางคมนาคมขาด
นายภูมิธรรม
ยังกล่าวต่อไปว่า วันนี้จะไปติดตามสถานการณ์ดินโคลนถล่มที่ อำเภอท่าวังผา
ซึ่งได้สั่งการให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถดูดโคลนขึ้นไปแก้ไขปัญหา
ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ทำงานบูรณาการร่วมกัน อย่างดีที่สุด
ขณะเดียวกันก็จะประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติจะประเมิน รวมถึงจะแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบ
เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และย้ำว่าแผนการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำได้ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลของ
นายเศรษฐา ทวีสิน แล้ว และได้สั่งการให้เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ขึ้นไปดูแนวร่องน้ำเพื่อนำมาประเมินสถานการณ์ แก้ไขปัญหาเพื่อที่จะรองรับน้ำ
รวมถึงให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปดูแนวคันดินป้องกันน้ำ
หากจุดไหนต้องซ่อมแซมก็เร่งดำเนินการ
นอกจากนี้
ยังให้กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศในลักษณะทั่วไป แต่ต้องระบุพื้นที่ที่มีปัญหาเพื่อที่จะได้ช่วยกันดำเนินการแก้ไข
รวมถึงให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA
เก็บข้อมูลก่อนที่จะรายงานมายังศูนย์บัญชาการส่วนหน้า พร้อมกันนี้ ให้ GISTDA
และกรมชลประทาน ช่วยกันเตรียมการรองรับปริมาณน้ำ
รวมถึงเตรียมการเยียวยาอย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ดูเรื่องของราคาสินค้าที่จะต้องควบคุมไม่ให้จำหน่ายในราคาที่สูง
นายภูมิธรรม
ยังชี้แจงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีไม่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีว่า
ยังต้องผ่านขั้นตอนการเข้าเฝ้าถวายสัตย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่
และยังต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน จึงจะมีอำนาจในการสั่งการ ซึ่งในตอนนี้
นางสาวแพทองธารทำได้เพียงแค่ห่วงใยและติดตามสถานการณ์ในนามพรรคเพื่อไทยและในนามส่วนตัว
ขณะที่ตนเองในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ก็ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้โดยตรง
และจะสั่งการทุกอย่างอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย
อย่างไรก็ดี รัฐบาลนี้พร้อมรับทุกข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์
สำหรับวันนี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์อุทกภัย
โดยช่วงเช้าเดินทางไปยัง จ.น่าน พร้อมติดตามสถานการณ์ที่ อ.ท่าวังผา
พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากนั้นในช่วงบ่าย
เดินทางไปยังจ.เชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำที่ อ.เทิง, อ.เวียงแก่น
ก่อนเดินทางกลับ กทม.