วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2567

กมธ.ทหารจัดสัมมนา “พลทหารปลอดภัย” เชิญบุคลากรสามเหล่าทัพตบเท้าร่วมฟังพรึ่บ “วิโรจน์” พอใจข่าวซ้อมทหารเกณฑ์น้อยลง หวังยกระดับโครงการต่อ ลดช่องว่างกองทัพ-พลเรือน

 


กมธ.ทหารจัดสัมมนา “พลทหารปลอดภัย” เชิญบุคลากรสามเหล่าทัพตบเท้าร่วมฟังพรึ่บ “วิโรจน์” พอใจข่าวซ้อมทหารเกณฑ์น้อยลง หวังยกระดับโครงการต่อ ลดช่องว่างกองทัพ-พลเรือน


วันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับกองทัพบก และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จัดโครงการสัมมนา “พลทหารปลอดภัย” โดยมีบุคลากรจากทั้งสามเหล่าทัพเข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้อย่างคับคั่ง


วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการการทหาร ระบุว่า แม้ปัจจุบันจะมีข่าวการทำร้ายร่างกายพลทหารและนายทหารระดับปฏิบัติการเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่จากสถิติก็พบว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นเหล่าทัพต่างๆ ก็พร้อมจัดการกับปัญหาโดยทันที โดยไม่ปล่อยปละละเลยหรือมีการปกป้องผู้ที่กระทำการเกินกว่าเหตุ นอกจากนี้ มาตรฐานทางการแพทย์และนายทหารเสนารักษ์ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้การปฐมพยาบาลและการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพทำได้อย่างรวดเร็วเป็นระบบมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม โครงการพลทหารปลอดภัยก็ยังคงต้องถูกยกระดับต่อไป เพื่อให้การดูแลเอาใจใส่สวัสดิภาพของพลทหารและนายทหารระดับปฏิบัติการได้รับการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ให้กลายเป็นความปกติใหม่ที่จะไม่ย้อนกลับไปเป็นเช่นเดิมอีก


วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า ข้อเสนอเพิ่มเติมของคณะกรรมาธิการการทหาร คือเหล่าทัพควรมีการประเมินสุขภาวะทางจิตของผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการควบคุมการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เพราะจากที่คณะกรรมาธิการการทหารได้รับเรื่องร้องเรียนมา ปัญหาการทารุณกรรมและการลงโทษกำลังพลที่เกินกว่าเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากปัญหาสุขภาพจิตของผู้ควบคุมการฝึก


นอกจากนี้ การลดช่องว่างระหว่างกองทัพกับพลเรือนก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน การนำหลักสูตรฝึกอบรมเกี่ยวกับการคิดในเชิงบวก การยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง และการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับประชาชนทั่วไป มาปรับและเปิดโอกาสให้ทหารได้เข้ารับการฝึกอบรมเฉกเช่นกับพลเรือน ก็จะทำให้ทหารเข้าใจแนวคิดของพลเรือน และเข้าใจบทบาทในการพัฒนาองค์กรที่สอดคล้องกับยุคสมัยมากขึ้นด้วย


“เมื่อทหารและพลเรือนมีความเข้าใจกันมากขึ้น ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อกันก็จะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้การผลักดันแนวคิดสำคัญในการปกป้องสวัสดิภาพและสิทธิมนุษยชนของพลทหารและนายทหารระดับปฏิบัติการ ได้รับการตอบรับจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงมากขึ้น หัวใจสำคัญคือการใส่ความเป็นพลเรือนเข้าไปในค่ายทหาร เพราะถ้าทหารเข้าใจหัวอกพลเรือน ปัญหาการใช้อำนาจโดยมิชอบในการทำร้ายร่างกายและจิตใจก็จะมีแนวโน้มลดน้อยถอยลง” วิโรจน์กล่าว


สำหรับงานสัมมนาวันนี้ มีการบรรยายและร่วมอภิปรายในหลากหลายหัวข้อ ที่เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์ทหารและการยกระดับคุณภาพชีวิตของพลทหาร เช่น การบรรยายเรื่อง “การมองโลก การคิดบวก และการเข้าใจในความเห็นที่แตกต่าง” โดย สมปอง นครไธสง (อดีตพระมหาสมปอง) การบรรยาย “ชีวิตทหารเกณฑ์และสิ่งที่ควรปรับปรุงในระบบการเกณฑ์ทหาร” โดย พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และการอภิปราย “กองทัพไทยกับภารกิจการเกณฑ์ทหาร” โดยวิทยากรจากคณะกรรมาธิการการทหาร เป็นต้น


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กมธทหาร