วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2567

จดหมายจากแดน 4 “อานนท์” เขียน วันเกิดในคุกอีกครั้ง(18 ส.ค.) ครบ 40 ปี มองความทุกข์ยากลำบากไม่ได้บั่นทอนจิตใจและไฟฝัน แต่กลับทำให้นิ่งขึ้น มีเวลาทบทวนเหมือนเชื้อไฟให้ไฟฝันลุกโชน

 


จดหมายจากแดน 4 “อานนท์” เขียน วันเกิดในคุกอีกครั้ง (18 ส.ค.) ครบ 40 ปี มองความทุกข์ยากลำบากไม่ได้บั่นทอนจิตใจและไฟฝัน แต่กลับทำให้นิ่งขึ้น มีเวลาทบทวนเหมือนเชื้อไฟให้ไฟฝันลุกโชน 


เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 เพจ “อานนท์ นำภา” โพสจดหมายพร้อมข้อความว่า ระบุว่าจดหมายฉบับวันที่ 18 ส.ค. 67 “หวังว่าไฟฝันนี้จะพอส่องแสงให้เห็นความจริงและเส้นทาง ให้ทุก ๆ คนในการต่อสู้ต่อไป”


โดยมีรายละเอียดดังนี้


18 สิงหาคม 2567 ถึงปราณและอิสรานนท์ ลูกรักทั้งสอง


แม้ไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญกับวันเกิดสักเท่าไหร่ แต่พอมันวนเวียนมาในทุกๆปีก็ทำให้เราคิดถึงมันทุกครั้ง อย่างน้อยก็ทำให้เราคิดถึงวันนี้ในปีผ่านมาและทำให้เราตระหนักว่าเราแก่ขึ้นอีกปีแล้วนะ


วันเกิดพ่อปีนี้ไม่ใช่ปีแรกที่ต้องอยู่ในคุก เมื่อปี 2564 หลังจากพ่อขึ้นปราศรัยที่หอศิลป์ พ่อก็ถูกขังตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม และต้องฉลองวันเกิด 18 สิงหาคมที่เรือนจำทัณฑสถานบำบัดกลาง (ครองเปรม) ขังได้ประมาณสองเดือนจึงย้ายมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ


สำหรับปีนี้ซึ่งเป็นปีที่สองที่ต้องฉลอง (จริง ๆ ก็ไม่ได้ฉลอง) วันเกิดในคุกอีกครั้ง เป็นปีแรกที่อายุก้าวเข้าสู่เลข 4 แต่เป็นปีที่อายุมากขึ้นแล้วรู้สึกสุขภาพดีขึ้น เพราะร่างกายได้ออกกำลัง รวมทั้งพักจากบุหรี่และเหล้า ส่วนคุณภาพชีวิต ในด้านอื่นๆก็คงต้องมีข้อจำกัดตามความจำเป็นเพราะที่นี่คือคุกไม่ใช่บ้าน


ในแง่ความคิด ความฝัน พ่อรู้สึกว่าค่อนข้างนิ่งขึ้น คงเพราะได้ทบทวนในหลาย ๆ เรื่อง และพ่อเชื่อว่าในแง่ความคิดความฝันของหลายๆคน ก็คงนิ่งขึ้นและชัดเจนขึ้นเช่นกัน นั่นหมายความว่าความทุกข์ยากลำบากมันไม่ได้บั่นทอนจิตใจและไฟฝันแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้เรานิ่งขึ้น มีเวลาทบทวนและเป็นเหมือนเชื้อไฟที่คอยไฟฝันให้ลุกโชน หวังว่าไฟฝันนี้จะพอส่องแสงให้เห็นความจริงและเส้นทาง ให้ทุกๆคนในการต่อสู้ต่อไป


สุดท้ายหากพ่อจะขอพรในวันคล้ายวันเกิดได้ พ่อขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง มีความสุขในทุกย่างก้าวของชีวิต ส่วนเรื่องการต่อสู้พ่อคงไม่ขอพร เพราะเป็นเรื่องที่พวกเราต้องลงแรง สร้างสรรค์มันขึ้นมาด้วยมือของพวกเราเอง จนกว่าจะพบกันอีก


รักและคิดถึง

อานนท์ นำภา


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 คดีแรก เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 (เป็นคดีที่ 2) กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ปี ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ต่อมา 25 ก.ค. 67 ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดี #ม112 คดีที่ 4 ของ “อานนท์ นำภา” เหตุโพสต์ 2 ข้อความบนเฟซบุ๊ก ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. 2564 วิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินของรัชกาลที่ 10


ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1), (3) ให้ลงโทษฐาน 112 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี 


ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี ไม่รอการลงโทษ


ทั้งนี้หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีของอานนท์ไปแล้ว 4 คดี ทำให้อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวม 14 ปี 20 วัน และยังมีโทษในคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีชุมนุม #ม็อบ27พฤศจิกา2563 ที่ถูกจำคุกอีก 2 เดือน รวมเป็น 14 ปี 2 เดือน 20 วัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม #อานนท์นำภา  #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน