วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2567

4 ปี ไม่ลืมวันเฉลิม “พี่สาว-มูลนิธิผสานวัฒนธรรม” ร้องนายกฯ ทวงถาม 9 กรณีอุ้มหายหลังรัฐประหารปี 57 จี้รัฐเร่งรัดคดีอุ้มหายอย่างจริงจัง ผู้กระทำต้องถูกลงโทษ

 


4 ปี ไม่ลืมวันเฉลิม “พี่สาว-มูลนิธิผสานวัฒนธรรม” ร้องนายกฯ ทวงถาม 9 กรณีอุ้มหายหลังรัฐประหารปี 57 จี้รัฐเร่งรัดคดีอุ้มหายอย่างจริงจัง ผู้กระทำต้องถูกลงโทษ

 

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 เวลา 11.00 น. นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วย นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เดินทางยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่อง ทวงถามปัญหา 9 กรณีอุ้มหาย หลังรัฐประหารปี 2557 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล

 

นางสาวสิตานัน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณี นักกิจกรรมทางการเมืองไทยที่ลี้ภัยทางการเมืองไปอาศัยที่ประเทศลาว กัมพูชา และ เวียดนาม หลังเกิดเหตุการณ์การทำรัฐประหารเมื่อปี 2557 มีประชาชนจำนวน 9 คน ถูกฆ่า (อุ้มฆ่า) หรือบังคับให้สูญหาย (อุ้มหาย) อย่างทารุณโหดร้าย ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ดัง ได้แก่ คุณอิทธิพล สุขแป้น หรือ ดีเจซุนโฮ หรือ เบียร์ ผู้ลี้ภัยในลาว เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มเสรีปัญญาชน โดยคุณอิทธิพล สุขแป้น ถูก คสช.ทเรียกให้ไปรายงานตัวตามคำสั่งคสช. ฉบับที่ 25/2557 เขาจึงเลือกที่จะลี้ภัยไปยังประเทศลาว และยังคง วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารผ่านโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ จากนั้น มีรายงานข่าวว่าคุณอิทธิพล สุขแป้นถูกอุ้มหายไปเมื่อปี 2559 คุณวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ผู้ลี้ภัยในลาว เป็นดีเจวิทยุเสื้อแดง และเป็นเจ้าของสถานีวิทยุเพื่อมวลชนเรดการ์ด เรดิโอ และแกนนำ นปช.ที่มีบทบาทในจังหวัดปทุมธานี เขากลายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีอาวุธปืนสงครามและคดีอาญามาตรา๑๑๒ และได้ลี้ภัยอยู่ในลาว จากนั้น มีรายงานข่าวว่าคุณวุฒิพงศ์ฯ ถูกจับกุมและอุ้มหายไปในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560 คุณสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ คุณไกรเดช ลือเลิศ หรือ สหายกาสะลอง และคุณชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือ สหาย ภูชนะ ซึ่งได้ลี้ภัยอยู่ในลาว ต่อมาคุณไกรเดช และ คุณชัชชาญ ถูกพบว่าเป็นศพลอยมาที่แม่น้ำโขง จังหวัดนครพนมในสภาพศพที่ถูกมัดมือมัดเท้า ถูกคว้านท้อง ยัดแท่งปูนทั้งสองศพ ส่วนคุณสุรชัยฯ ได้ถูกอุ้มหายไปโดยยังไม่ทราบชะตากรรม เมื่อปี 2561

 

ถัดมาในปี 2562 มีสื่อออนไลน์รายงานว่าคุณสยาม ธีรวุฒิ หรือ สหายข้าวเหนียวมะม่วง หนึ่งในผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่มีหมายจับข้อหามาตรา 112 จากการแสดงละครเวที 'เจ้าสาวหมาป่า' พร้อมกับ คุณชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ ลุงสนามหลวง และคุณกฤษณะ ทัพไทย หรือ สหายยังบลัด ถูกจับกุมตัวที่เวียดนาม และถูกส่งตัวกลับไทย อย่างไรก็ตามครอบครัวของพวกเขาไม่ได้รับทราบข่าวหรือชะตากรรมของพวกเขาอีกเลย

 

และล่าสุด คุณวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ที่เคยร่วมงานกับผู้นำของพรรคเพื่อไทยหลายคน ได้ถูกหมายจับคดีฝ่าฝืนคำสั่งเรียกรายงานตัวของ คสช. คดีในฐานความผิดต่อพระมหากษัตริย์ และคดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ คุณวันเฉลิมฯ ลี้ภัยไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนถูกอุ้มหายไปจากที่พักในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 และปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรม

 

หลังจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้กำลังก่อการรัฐประหารในปี 2557

 

และ คสช.ได้ใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรม จับกุม คุมชัง ข่มขู่ คุกคามฝ่ายตรงข้าม ทำให้นักกิจกรรมทางการเมืองนับร้อยคนจำต้องหนีภัยประหัตประหารไปลี้ภัยในต่างประเทศ รวมสมาชิกและผู้นำของพรรคเพื่อไทยหลายคนและบุคคลทั้ง 9 คนดังกล่าวข้างต้นด้วย โดยหลังจากที่ได้ลี้ภัยไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นยังคงถูกติดตามและคุกคาม ด้วยประการต่างๆ จากเจ้าหน้าที่ของ คสช. ตลอดมา จนส่วนใหญ่จำเป็นต้องหลบลี้หนีภัยต่อไปประเทศที่สาม สำหรับ ผู้ลี้ภัยทั้ง 9 คนนั้น ที่ยังจำเป็นต้องลี้ภัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านจนถูกอุ้มฆ่า อุ้มหายดังกล่าวแล้วนั้น แม้มีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า ได้ถูกอุ้มฆ่าและอุ้มหายโดยหน่วยล่าสังหารของ คสช. ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเป็นอาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ทางการไทยภายใต้รัฐบาล คสช. และรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ คสช. ก็มิได้สืบสวน สอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดและชดใช้เยียวยาความเสียหายให้แก่ครอบครัวของผู้ถูกละเมิดดังกล่าวแต่อย่างใด

 

ข้าพเจ้าในฐานะญาติของคุณวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และตัวแทนของผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงโดย คสช. และรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ คสช. จึงใคร่ขอเรียกร้องท่านในฐานะนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับข้อเสนอแนะด้านสิทธิมนุษยชน กรณีอุ้มฆ่า อุ้มหาย ผู้ลี้ภัยทั้ง 8 คน ดังกล่าวข้างต้น ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

 

1) กรณีอุ้มฆ่า อุ้มหาย ผู้ลี้ภัยทั้ง 9 คน ดังกล่าวข้างต้น ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

 

1.1) ให้หน่วยงานของรัฐสอบสวนอาชญากรรมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงดังกล่าวข้างต้นอย่างจริงจังและได้ผลเพื่อให้ได้พยานหลักฐานและนำตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งผู้บงการ มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว และ

 

1.2) ชดใช้เยียวยาญาติ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ทั้งในทางจิตใจ เศรษฐกิจและสังคม ตามหลักสิทธิมนุษยชนโดยด่วน

 

2) การละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีอื่นๆที่เกิดจากการกระทำของ คสช. รัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ คสช. และพรรคพวก ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

 

2.1 ตรวจสอบค้นหาความจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นการจับกุมคุมขังดำเนินคดี ลงโทษ นักกิจกรรมที่ต่อต้านคัดค้านระบอบ คสช. ด้วยข้อหาต่างๆ ข่มขู่ คุกคาม ทำร้าย ร่างกายและจิตใจ ล่วงละเมิดทางเพศ ฯลฯ แล้วจัดทำรายงานเปิดเผยความจริงต่อผู้ถูกละเมิด ญาติพี่น้องและประชาชน

 

2.2 เยียวยาเหยื่อ ผู้รอดชีวิตและครอบครัว ทั้งทางร่างกาย จิตใจ เศรษฐกิจ สังคม เช่น การขออนุมัติจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ ดังเช่นกรณีในอดีตที่มีการออกมติครม.ให้จัดตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้และจ่ายเงินเยียวยาจากเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ รวมถึงกรณีทนายสมชาย นีละไพจิตร การขอโทษรวมทั้งออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่นักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดี ลงโทษและจับกุมคุมขัง ในข้อหาความผิดที่เกี่ยวกับความคิด ความเชื่อ และการแสดงออกทางการเมืองอนึ่งการขอโทษต่อสาธารณชน หรือ Public Apology ซึ่งเป็นวิธีการและเครื่องมือทางสังคมอย่างหนึ่งที่สามารถนำมาใช้เพื่อแสดงความสำนึกผิด และประกาศเจตจำนงว่า แม้คำขอโทษเหล่านี้จะไม่สามารถหักล้างหรือเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ที่น่าเศร้าเสียใจในอดีตได้ แต่เป็นการแสดงออกถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในปัจจุบันเพื่อยอมรับผิด ยอมรับว่ามีเหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นจริง แสดงถึงความตระหนักรู้ว่าการกระทำของผู้คนในการก่อนเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และยืนยันว่า นับจากนี้ต่อไปจะไม่สนับสนุนหรือส่งเสริมให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นซ้ำอีก

 

2.3 นำตัวผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง โดยเฉพาะระดับผู้นำหรือผู้สั่งการมาลงโทษ และ 2.4 ปฏิรูปกลไกและสถาบันทางการเมืองต่างๆ ให้เป็นประชาธิปไตยและตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลัก สิทธิมนุษยชนและนิติรัฐที่เข้มแข็ง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการละเมิดซ้ำอีก

 

ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากท่าน เพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่าง ร้ายแรงเช่นนี้ไปด้วยกัน และเพื่อสร้างสังคมไทยให้ปลอดภัย เป็นสังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยไม่ทิ้งบุคคลใดให้ต้องต้องต่อสู้อย่างโดดเดียวเพียงลำพังต่อไป

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #วันเฉลิม #ครบรอบ4ปีวันเฉลิม #อุ้มหาย #ผู้ลี้ภัย