วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ทนายกฤษฎางค์ขอรอผลสาเหตุการเสียชีวิต ‘บุ้ง เนติพร’ อย่างแท้จริง เผยพบล่าสุด บุ้งเป็นห่วงพ่อแม่ และยังยืนหยัดในสิ่งที่เรียกร้อง ด้านเพื่อน - มวลชนร่วมอาลัย นัดจุดเทียนส่งทั้งกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด

 


ทนายกฤษฎางค์ขอรอผลสาเหตุการเสียชีวิต ‘บุ้ง เนติพร’ อย่างแท้จริง เผยพบล่าสุด บุ้งเป็นห่วงพ่อแม่ และยังยืนหยัดในสิ่งที่เรียกร้อง ด้านเพื่อน - มวลชนร่วมอาลัย นัดจุดเทียนส่งทั้งกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด


วันนี้ (14 พ.ค. 67) จากกรณีนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรมทางการเมือง ที่ถูกคุมขังในคดีความผิด มาตรา 112 ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 67 และได้อดอาหาร เพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และยุติการคุมขังผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง มีภาวะหัวใจหยุดเต้น ทำให้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ส่งตัวมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และได้เสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ต่อมาได้มีกลุ่มเพื่อน ๆ และประชาชนเดินทางมาที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ


จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น. ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า 


จากการพูดคุยกับคุณหมอที่โรงพยาบาลทราบว่า น.ส.เนติพร เสียชีวิตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เวลาประมาณ 11 โมงกว่า สาเหตุเบื้องต้นหัวใจล้มเหลว แต่สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง หมอจะมีขั้นตอนการชันสูตรพลิกศพ และการผ่าศพพิสูจน์ในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 67) เวลา 09.00 น.


ตอนนี้ร่างของ น.ส.เนติพร จะอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก่อน เพราะยังมีขั้นตอนทางกฎหมายเกี่ยวกับการที่พนักงานสอบสวนต้องมาชันสูตรพลิกศพ และการผ่าชันสูตรว่าสาเหตุการตายจะผิดธรรมชาติหรือไม่ ก็ต้องดูจากศพ 


ซึ่งในส่วนของตนทราบข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. น.ส.เนติพร ขณะที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีอาการเป็นลม หมดสติ และหัวใจหยุดเต้น จากนั้นก็มีการปั๊มหัวใจ เพื่อให้หัวใจขึ้นมา แต่ก็ไม่มีผล เพราะไม่มีสัญญาณชีพแล้ว ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์จึงได้ส่งรถฉุกเฉินมารักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และมีการปั๊มหัวใจอีกครั้งประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง ซึ่งก็หมดหวังแล้ว และเสียชีวิตลงในเวลา 11.00 น. กว่า ๆ 


นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า สาเหตุการเสียชีวิตที่ส่งมาจากห้องฉุกเฉินนั้น เสียชีวิตโดยหัวใจล้มเหลว แต่เราไม่รู้ว่าจะเกิดจากอะไร สำหรับอาการของน.ส.เนติพร นั้น จากที่พบล่าสุดก็มีอาการบวม และปวดท้อง อ่อนเพลีย แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องอะไร ซึ่งเขาก็บอกว่าป่วย หมอบอกว่าเป็นอาการของคนที่เคยอดอาหารมาแล้ว และต้องฝืนร่างกาย เพราะช่วงหลังครอบครัวของ น.ส.เนติพร ขอร้องให้ทานอาหาร แต่ก็รับประทานไม่ได้ เพราะอดอาหารมาตั้ง 30-40 วัน ก็เลยให้สารอาหารและน้ำ ซึ่งเขาก็มีลักษณะอ่อนเพลียอยู่ 


เมื่อถามว่า ญาติติดใจการรักษาของโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่นั้น นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับญาติ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ ดังนั้นถามว่าจะติดใจหรือไม่ติดใจ ก็คงต้องดูจากการผ่าร่างพิสูจน์ก่อน ถ้าเป็นการเสียชีวิตโดยธรรมชาติก็คงจะต้องจบ ซึ่งวันนี้ รมว.ยุติธรรมก็โทรศัพท์มาหาตน ซึ่งท่านก็คงกังวลใจเรื่องความโปร่งใส และอยากให้ผ่าร่างที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เลยไม่อยากให้นำไปที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตนก็เห็นด้วย เพราะต้องทำให้โปร่งใส เพราะน.ส.เนติพร โดนคดีความที่เกี่ยวข้องกับความคิดเห็นทางการเมือง


เมื่อถามว่า จากที่ล่าสุดได้พบ น.ส.เนติพร มีความกังวลอะไรบ้าง นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ก็เป็นห่วงพ่อแม่ ความจริงเขาก็ยังยืนหยัดในสิ่งที่เขาทำ ในสิ่งที่เขาพูด และเห็นสมควรตามข้อเรียกร้องของเขา 


เมื่อถามถึงกรณีที่พินัยกรรมยกทรัพย์สินให้กับคนอื่นนั้น นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมายทรัพย์สินมรดก ถ้าพินัยกรรมถูกต้องชอบธรรมก็ต้องเป็นไปตามนั้น ตามเจตนาของผู้เสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ได้เห็นพินัยกรรมดังกล่าวแล้ว เขาก็ระบุชื่อชัดเจน เราไม่ได้กังวลเรื่องพินัยกรรม แต่เราควรกังวลเรื่องว่าทำไมถึงเสียชีวิต ทำไมถึงปล่อยให้เสียชีวิต และทำไมไม่รีบส่งรักษา ทั้งที่ขอร้องมานานแล้ว


นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ซึ่งระหว่างเกิดเหตุ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาคดี 112 ก็อยู่กับ น.ส.เนติพรด้วยในช่วงที่ น.ส.เนติพร หมดสติ เขาก็ร้องไห้ และรู้สึกไม่ไหว ซึ่งวันนี้ทางกรมราชทัณฑ์ก็ทำหนังสือมาที่ศาลว่าเบิกตัวมาไม่ได้ในวันนี้ เพราะ น.ส.ทานตะวัน ศาลก็จึงเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป ซึ่งตนได้พูดคุยกับ น.ส.ทานตะวัน ทาง conference ก็ดูลักษณะเขามีความอ่อนเพลียและร้องไห้เรื่องของ น.ส.เนติพร ซึ่งตอนนั้นอยู่ในห้องพิจารณาคดี ตนก็ยังไม่ได้บอกเขา


ด้านกลุ่มเพื่อนไว้อาลัย บุ้ง-เนติพร พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ 3 ข้อ เดิม 1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ศาล 2. ยุติการดำเนินคดีความกับประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพ แสดงความคิดเห็นทางการเมือง 3. พรรคการเมืองต้องเสนอนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน 


อีกทั้งมีการนัดหมายจุดเทียนในหลากหลายพื้นที่ อาทิ น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ หรือ ทนายเมย์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งดูแลคดีให้กับกลุ่มราษฎรและคดี ม.112 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “อยากชวนไปจุดเทียนส่งบุ้ง วันนี้หน้าศาลอาญา 19.00-19.30 น. กิจกรรมมีแค่จุดเทียนและรำลึกถึงบุ้งค่ะ ใครอยากไปส่งบุ้งด้วยกันเชิญค่ะ”


ขณะเดียวกัน กลุ่มกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้โพสต์ข้อความนัดหมายบนแอปพลิเคชัน X (ทวิตเตอร์) ว่า จะมีการนัดจุดเทียนที่ประตูท่าแพ 


นอกจากนี้ยังมีที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ 17.00 น., ช่วงนครห้าแยกหอนาฬิกา ลำปาง 18.30 น., อนุสาวรีย์พญามังราย เชียงราย 21.12 น., ลานย่าโม โคราช 18.30 น. 


#RIP #บุ้งเนติพร #UDDnews #ยูดีดีนิวส์